"หล่อน"..หวลคำนึงไปถึงคำตอบ ของ"แม่"เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก...แม่จ๊ะฉันมาจากไหน..ถามด้วยความอยากรู้..เพราะเห็นแม่..ท้องโตและบอกว่ามีน้องอยู่ข้างใน....แกน่ะเหลอ..ออกมาจาก"รูกระบอกไม้"...หล่อนรับฟังและคงได้ใส่ใจจำมาจนบัดนี้..(ตอนนั้น..คงจะต้องบอกตัวเองว่าเชื่อ...)
"หล่อน"มีชีวิตอยู่กับธรรมชาติในโลกสีเหลี่ยม..ตามประสาคนสมัยใหม่..เคยเห็น..ภาพความเป็นอยู่ของแมงมุม...เพศผู้..หาเหยื่อมาป้อนสาวถึงรัง...เพราะอยากสมสู่..เพศเมียรับของขวัญ..กระดี๋กระด๋ากันเสร็จ...ก็ขยุ้มหลังคา..ตัวผู้..ทั้งตัวเป็นอาหารว่างโอชะ...หลังสมเสพ....(ตอนนั้น..ก็โตแล้ว..พอจะรู้ว่าอะไรเป็น อะไรใน..สถาบันชีวิต..ในธรรมชาติ...เลยมานั่งคิดว่า..จะเป็นอย่างไร..หาก..คน..ก็ทำเช่นนั้นได้...รึ.ก็เป็นอยู่..ถามตัวเอง..เพราะเห็นอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์...)
"หล่อน"อยู่ในโลกสี่เหลี่ยมจนเคยชิน..วันหนึ่งเห็น"นก"น้อยตัวหนึ่งตั้งอกตั้งใจสร้างรังมันช่างสวยงามอะไรปานนั้นสำหรับความสามารถของนกน้อยที่สร้างรังแต่พอตัว..มันถูกประดับประดาด้วยดอกไม้หลากสี...ถูกจัดวาง..ดังกับเคยเข้าเรียนมหาวิทยาลัย..ศิลปกร..
ขณะที่มันแพนหาง..อวดโฉม..เต้นร่าร้องหาเพศเมีย..เจ้าแมวป่าผ่านมา..นก"ผู้"เคราะห์ร้ายเข้าปากแมวไปซะ..หะหาย..
...สถาบันชีวิต..ที่ไม่เคยปิดวันทำการ...สิ่งที่เราอยากจะเรียนรู้....(ตรงนี้..อยากรู้..ใคร..ออกมาจาก..รูกระบอกไม้เหมือนหล่อนบ้าง...)
โห....คุณยายเขียนเสียลึกซึ้งเลยนะครับ
ตรงกับชีวิตจริงจังเลย
อ่านแล้วเหมือนบทรำพึงเทียบชั้นกับกวีของฝรั่ง Grays ที่ชื่อว่า
Elegy written in a country church yard
เลยนะครับ
สวัสดีค่ะคุณยายธี
ชีวิตน่าค้นหาค่ะ สถาบันชีวิตไม่มีวันปิดทำการจริงๆ
..สวัสดีค่ะ..ท่านทั้งสาม..และผู้อ่านที่รักและเคารพทุกท่าน...."ชีวิต"..น่าค้นหา..สถาบันชีวิต..ไม่มีวันปิด..ทำการ...(ความเห็นของยายธีคือ...เราสามารถที่จะจัดตั้งสถาบันนี้ไว้..ในตัวตน..เพื่อเรียนรู้..จิต..ที่ยังมีสิ่งลึกลับอีกมากมายที่..ทางวิทยาศาตร์..ยังหาคำอธิบายให้ไม่ได้..และยังไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้..กับ..ทางของจิต..วิญญาณ....ปริญญาใบสุดท้ายที่ได้รับแน่นอนสำหรับสถาบันชีวิตนี้..คือ.."ความตาย"......)ยายธีจึงแอบคิดว่า...สถาบันนี้คงจะจดลิขสิทธิ์และจัดตั้งไม่ได้..เป็นทางการในสังคม.."มนุษย์"...อ้ะๆๆๆๆ