ผมเปิดดู เป็นกระดาษ เอ๔ เก่าๆ สองสามแผ่น ข้างในบรรจุด้วยลายมือ อ่านง่ายเป็นระเบียบ เรียบร้อยดี บ่งบอกถึงความตั้งใจของผู้เขียนได้เป็นอย่างดี
ผมเปิดดูเอกสารข้างใน จดหมายจาก "จะคือแน" หนุ่มลาหู่ดำ(มูเซอดำ) คนนั้น นั่นเองครับ
หาอ่านเรื่องของ "จะคือแน" ที่บันทึก "ต้นกล้าน้อยบนดอยสูง" (Click)
ดูจากรูปแบบการเขียนแล้ว ผมชื่มชมเขามากครับ แสดงว่า "จะคือแน"มีความคิดรวบยอดอยู่ในหัวเรียบร้อยแล้ว จึงร้อยเรียงลงในกระดาษ เป็นสื่อเพื่อส่งมาให้ผมอ่านให้ข้อเสนอแนะก่อนที่จะนำเข้าไปที่ สกว.
(ผมไม่ได้ให้ข้อเสนอแนะว่า เขาควรจะเขียนอย่างไร อยากให้เขาอะไรก็ได้ที่อิสระเพื่อใช้ เป็นข้อมูลในการทำข้อเสนอการศึกษาวิจัยในพื้นที่เท่านั้น)
รูปแบบ การเขียนข้อเสนอโครงการของ "จะคือแน "
มีโครงสร้างดังนี้ครับ
- ชื่อโครงการ
- ความเป็นมา และปัญหา
- วัตถุประสงค์
- แผนงานศึกษา วิจัย
- นักวิจัย(รายชื่อ)
- ที่ปรึกษา(รายชื่อ)
- งบประมาณ
- ระยะเวลา
- ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- ข้อมูลของ จะคือแน
- กรอบแนวคิดของการเสนองานวิจัยครั้งนี้
- แถมมาด้วย อภิธานศัพท์บางคำที่ น่าสนใจ
เห็นมั้ยครับ ว่า "จะคือแน" ไม่ธรรมดา ในความคิดของผม ตรงที่ผมเสนอเป็นเพียงโครงร่างที่เขาเขียนมาเท่านั้นนะครับ
หากเรามาดูเนื้อหา และวิธีการเขียนของเขาแล้ว น่าสนใจมากขึ้นกว่ารูปแบบที่เขาสร้างขึ้น การถ่ายทอดสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในชุมชนอย่างเป็นธรรมชาติ อ่านแล้วเห็นภาพและเข้าใจงานของเขาที่พยายามนำเสนอ
ส่วนตัวผมมองว่า "ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา"เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งยวด การเขียนต้องใช้ทักษะการเขียน และเขียนให้ครอบคลุม ให้เห็นภาพ
การเขียนความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา เหมือนเราเป็น "ศิลปินวาดภาพ" เราต้องบรรจงวาดภาพให้รายละเอียดทุกแง่มุม ให้สวยงาม มองแล้วเข้าใจ เป็นภาพที่มีองค์ประกอบครบถ้วน ทั้งความสวยงาม มิติของภาพ
"จะคือแน"
ผ่านครับ ผ่านฉลุย....ในความคิดของผม
ผมในฐานะ Research Counselor : RC จะให้ข้อเสนอแนะในกระบวนการบางอย่าง และจะนำข้อเสนอที่ว่า ไปนั่งคุยกันใน "เวทีชุมชนคนวิจัยที่แม่ฮ่องสอน" และในวันนั้นจะพา "จะคือแน"ไปด้วย
ผมมีหน้าที่ช่วยเพาะพันธุ์กล้าไม้ ต้นใหม่ๆรดน้ำ ใส่ปุ๋ย(อินทรีย์) คอยผลักดันและให้กำลังใจ หากเป็นพันธุ์กล้าไม้ท้องถิ่นก็จะดีมาก เพราะไม้ท้องถิ่นจะขึ้นและเติบโตได้ดี ให้ประโยชน์ได้เต็มที่ในพื้นที่ของเขา ต้นไม้ต้นนั้นจะเข้มแข็งและไม่ตายง่ายๆ
บันทึกต่อๆไป ผมจะนำเสนอสิ่งที่ี่"จะคือแน"คิด
ว่า เขาคิดจะทำงานวิจัยในแง่มุมใด ที่จะพัฒนาชุมชนลาหู่บนดอย ของเขา น่าสนใจทีเดียวครับ
จากประสบการณ์ที่ทำงานกับคนชุมชน กลุ่มชาติพันธุ์ เขาถ่ายทอดงานออกมาได้เป็นธรรมชาติมากเลยครับ
คนจียนยูนนาน ทำ mind Map เป็นภาษาจีน น่าสนใจมากครับ
ขอบคุณครับ อาจารย์ ดร.จันทวรรณ ครับ ที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจ นักวิจัยบนดอย
คุณออต
ภาพเป็นของเล่นลาหู่ที่เอาไม้ใผ่มาสอดติดกันและให้เราเอาออก
มาให้ได้ครับ...ผมทำไม่ได้ เลยให้ผู้อาวุโสคนนี้สอนครับ