มาก ยาก นาน


ชิวิต"ยุ่ง" เพราะการบ้าน"เยอะ"

ยุค เด็กเป็นศูนย์...เอ่อ...กลางนี้ (Child Center) เรามักได้ยินเสียงบ่นจากทั้งเด็กและผู้ปกครองเรื่องการบ้านเยอะ

 

และได้พบกับตัวเองเมื่อหลานสาวและแม่ของหลาน ซึ่งเป็นน้องสาวของผู้เขียนเอง ก็บ่นเรื่องการบ้านเยอะจนดูเหมือนว่าจะส่งผลต่อการจัดการชีวิตส่วนอื่นๆ ไปด้วย พูดได้ว่าชิวิต"ยุ่ง" เพราะการบ้าน"เยอะ"

 

ผู้เขียนจึงขอวัดความ "เยอะ" ด้วยการให้ทั้งแม่และลูกจับเวลาในการทำงานแต่ละชิ้น โดยให้หลานดูนาฬิกาแล้วจดเวลาตอนเริ่มทำไว้ที่มุมสมุดการบ้าน และจดเวลาตอนลุกไปทำอย่างอื่น ตอนเปลี่ยนชิ้นงาน ฯ และให้ลงเวลาตอนทำการบ้านแต่ละชิ้นเสร็จ เมื่อทำครบแล้ว (แอบบดองไว้บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้) ให้รวมเวลาเฉพาะตอนที่ทำการบ้านเท่านั้น เพื่อหาเวลาที่ใช้จริงในการทำการบ้านทั้งหมด

 

แล้วให้แม่ดูว่าความยาก ง่ายของงานขนาดนี้ ลูกใช้เวลาเท่านี้ พอใจไหม พิจารณาเป็นรายวิชาไปเลย ให้พยายามนึกถึงตอนเราเป็นเด็กอายุขนาดนี้ไปด้วย

 

คำถามที่ผู้เขียนฝากให้คิดต่อก็คือ เราพอใจใน speed นี้ไหม อยากส่งเสริม หรือซ่อมแซม วิชาไหน อย่างไรหรือไม่ เช่น ผลของหลานปรากฏออกมาว่าทำการบ้านเลขเร็ว แต่ทำวิชาภาษาไทยช้ามาก เมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็ให้นำสิ่งที่เราจดบันทึกไว้นี้ไปคุยกับครู เพื่อหาทางส่งเสริมและแก้ไขต่อไป

 

รวมทั้งถ้าเห็นว่าลูกใช้เวลาเหมาะแล้ว และสรุปได้ว่าปริมาณการบ้านมากไปจริงๆ ก็จะพูดได้อย่างมีเกณฑ์ มีการอ้างอิงที่เป็นรูปธรรม จะได้ช่วยกันหาความพอดีกันต่อไป

 

แต่หากพบว่าเวลาที่ใช้จริง กับเวลาที่หมดไปในการทำอย่างอื่นทั้งก่อน หลัง และ ระหว่างการทำการบ้าน มีสัดส่วนที่ไม่เหมาะสม ก็ให้ทบทวนว่าควรจะแก้ที่ไหน อย่างไร โดยใครเป็นผู้รับผิดชอบ  อันที่จริงก็ถามประชดไปอย่างนั้นเอง  เพราะคนที่ต้องบริหารจัดการบ้านและสมาชิกในครอบครัว ก็คือพ่อแม่นั่นแหละ  

ไม่ต้องพูดถึงใครจะเป็น center  แต่ทุกคนล้วนโคจรรอบกันและกัน  ตราบที่ยังมีแรงดึงดูดซึ่งก่อด้วยความรัก ความเข้าใจ  เพื่อรักษาสมดุลเพื่อให้แต่ละคนได้หมุนรอบตัวเอง มีวงโคจรของตัวเองโดยไม่เหวี่ยงหลุดออกไปนอกวงโคจรของกันและกัน

 ระยะนี้ ทั้งหลานและแม่ของหลานก็ไม่มาบ่านเรื่องการบ้าน "เยอะ" อีกเลย   เอ....หรือจะหลุดออกจากวงโคจรของป้าไปซะแล้ว

หมายเลขบันทึก: 42973เขียนเมื่อ 6 สิงหาคม 2006 13:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:33 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
     ผมก็เคยบ่น ๆ มาลูกมีการบ้านน้อย โทรไปคุยกับคุณครูก็เข้าใจกันว่า ให้ทำที่โรงเรียน หากเด็กรับผิดชอบดี ๆ เขาก็จะทำเสร็จเลย ฉะนั้นเวลาเขากลับมาที่บ้านก็ได้เล่นกับเพื่อน ๆ ได้อ่านหนังสือก่อนนอน ถามน้องเดมว่าชอบใหมแบบนี้เขาชอบ ส่วนเพื่อน ๆ ที่เรียนโรงเรียนอื่น จะต้องเครียดกับการบ้านตอนเย็น ๆ มองแบบชีวิตมีสุข ผมว่าการบ้านแบบโรงเรียนน้องเดมดีกว่า คือไม่ต้องหอบกลับบ้านมาก นาน ๆ จะมีสักทีเช่นงานฝีมือครับ
เมื่อศึกษาประเด็นการบ้านเยอะนี้แล้ว  พบว่านักเรียนบางส่วนมีงานค้างทั้งงานเก่าและงานที่ควรทำให้เสร็จในเวลาเรียน ปนมาเป็น "งานที่ต้องนำกลับไปทำต่อที่บ้าน" แต่ไม่ใช่ "การบ้าน"  บางส่วนพบว่าเกิดจากการบริหารจัดการเวลาและะการจัดการกับตัวเองของนักเรียน 
มีส่วนน้อยมากที่เป็นปัญหาของเด็กพิเศษ เช่น เด็กสมาธิสั้น  
และก็มีส่วนที่เกิดจากครูให้การบ้านชนกัน ซึ่งเกิดจากการสื่อสารระหว่างครูด้วยกันเอง 
ดังนั้นในส่วนของโรงเรียนก็ต้องปรับปรุงการจัดการห้องเรียน และการสื่อสารของครูกันต่อไปค่ะ
ที่สำคัญก็คือต้องอาศัยการประสานงานกันระหว่างพ่อแม่และครู  เพราะโลกของเด็กน้อยก็คือ บ้านและโรงเรียน
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท