ยามเย็นผมเดินผ่านสนามเด็กเล่นในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ฉับพลันมองไปเห็นเด็กชายวัยประมาณ 2 ขวบ กำลังเดินเหมือนวิ่งจะล้มมิล้มแหล่...โดยมีแม่ของหนูน้อยคอยที่จะเข้าช่วยเหลือลูกในทุกกรณี เธอเดินตามหลังแต่ให้ความอิสระแก่เจ้าหนูน้อยคนนั้น
หนูน้อยทำอะไร...อ้อ...เขากำลังไล่ตามจับผีเสื้อสีขาวสวยงาม มันบินเล่นลมไปจับกิ่งดอกไม้ประดับสวน
พอเจ้าหนูน้อยมาใกล้มันก็ขยับบินไปจับที่ใกล้ ๆ เหมือนมันเล่นกับเจ้าหนูน้อยด้วยครับ ฮา ๆ เอิก ๆ
ผมเกิดความคิดอย่างหนึ่งขึ้นมาในจิตคือว่า…
ถ้าผีเสือเปรียบเหมือนความสุข เจ้าหนูน้อยคือคนตามหาความสุขพยายามไล่จับความสุขเอามาไว้ในตน มันก็ยิ่งโบยบินไปไกลแสนไกล
แต่ถ้าคนเรามีเวลาได้พักผ่อนจิตใจทำสมาธินั่ง...นิ่ง...ไม่นานช้า...ความสุขหรือผีเสื้อ
มันจะมาเกาะจับที่บ่าของคุณเอง...ความคิดนี้จะเหมือนกันมั้ยนะ...หรือคุณมีความเห็นอย่างไรครับ...?
ด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ
จาก...umi
แหม..ท่านเปรียบเทียบได้สวยงามมากเลยคะ...ดิฉันเคยแต่ได้ยินว่าจิตเรานั้นไซร้คล้ายลิงซน...ที่โผไปเกาะกิ่งนั้นบ้าง กิ่งนี้บ้าง..บังคับให้อยู่นิ่งนั้นยากไซร์..แต่พอมาได้...อีกตัวอย่างแห่งการเปรียบทำให้มองเห็นจิต...ที่มีอารมณ์สุนทรียะยิ่งนักคะ...
ขอคารวะ...คะท่าน
สวัสดีครับ Dr.Ka-poom
เป็นความจริงเช่นนั้น...จิตเราคล้ายลิงซน...ท่าน
ผู้รู้จึงหาของเล่นให้ลิงซน...เช่น ฝึกให้ขึ้นเอามะพร้าว
โดยมีเสือ = สติ กำกับ คอยจะกระโดดขย้ำอยู่เสมอ
ถ้าออกนอกกรอบ
ผมเคยพานักศึกษากลุ่มใหญ่ไปดูโรงเรียนฝึกลิง
ที่เมืองคนดี...เป็นคติสอนใจคนอย่างดียิ่งครับ
ด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ
จาก...umi
อีกนิดครับ Dr.Ka-Poom...ที่ผมเรียน ป. เอก อยู่ ทุกปีจะมีละครสัตว์เป็นคณะใหญ่เข้ามาให้ชม เขาอยู่เป็นเดือนเลย
เป็นประสบการณ์ที่หาได้ไม่ง่ายนักในเมืองไทย เวลาเราเข้าชมแล้วได้แนวคิดหลายมุมมองครับ...