อันเนื่องมาจาก บันทึก “คุณกำลังต่อต้านนักศึกษาปริญญาเอกอยู่หรือเปล่า” , ,คราบน้ำตา , การผูกใจไว้กับ gotoknow และอิทธิพลทางความคิดที่ได้รับ
และบันทึกต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อคิดเห็นต่างๆในบันทึก และนายบอนก็ได้พบกับ “น้อย” เจ้าของประเด็นความเห็นต่างๆที่หยิบมาบันทึก จึงได้สอบถามว่า รู้สึกอย่างไรกับความคิดเห็นต่างๆของหลายท่าน
“รู้สึกว่า รู้จักตัวเองดีขึ้น รู้สึกว่าหลายท่านให้เกียรติ “น้อย” อย่างมาก การเรียนรู้ไม่มีเงื่อนไขอะไรที่จะมาปิดกั้นเลย เราสร้างความรู้สึกที่ปิดกั้นตัวเองต่างหาก”
เธอคิดได้ถึงเพียงนี้หรือนี่
.. แล้วรู้สึกอย่างไรที่ คุณ จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร ที่เขียนมาว่า สำหรับคุณน้อย “หัวใจของเธอมันน่ากราบ” ไม่มีเงื่อนไขใดๆสำหรับการเรียนรู้
คุณอยากจะเรียนรู้ คุณสามารถทำได้เลยการนำเสนอสิ่งที่ตัวเองคิดเป็นสิ่งที่ควรทำ
“ทั้งความคิดเห็นของคุณจตุพร และอีกหลายท่าน “น้อย” รู้สึกว่า ยังตามไม่ทันความคิดของหลายท่านจริงๆ รวมถึงพี่นิวที่เข้ามาเขียนไว้ว่า พี่นิวไม่ได้โกรธหรือไม่พอใจน้อยเลย น้อยคงต้องเรียนรู้จาก gotoknow มากขึ้น เพื่อจะได้ตามให้ทันความคิดของทุกคน เข้าใจความหมายที่ทุกคนสื่อออกมาจริงๆ จะได้ไม่เข้าใจผิดเหมือนที่พี่นิวว่าอีก”
โห.. นับว่า ไม่เสียแรงครับ ที่เธอเข้ามาเปิดอ่านหาความรู้ใน gotoknow ทำให้เริ่มคิดอะไรได้หลายอย่าง ความคิดเห็นของหลายท่าน เธอสามารถนำมาประเมินตัวเองได้เหมือนกัน!!!
หัวใจของเธอมันน่ากราบ เหมือนอย่างที่คุณจตุพร ว่าไว้
และแล้วก็มาถึงประเด็นสำคัญที่นายบอนอดที่จะถามไม่ได้ กับความตั้งใจที่อยากจะเรียนให้สูงๆของเธอ ตอนนี้ เธอกำลังเรียนระดับ ปวส. การบัญชี เส้นทางการเรียนต่อในระดับปริญญา คือ ตรี-ต่อเนื่องทางบัญชี 2 ปี หรือ 4 ปี ในสาขาอื่น, โท 2 ปี, เอก ราว 3-4 ปี ตอนนี้เธออายุ 21 ปี ถ้ามุ่งมั่นให้จะเรียนให้สูงที่สุด คือ ระดับปริญญาเอก ต้องใช้เวลาอีก 8-10 ปี ในตอนนั้น เธอจะอายุเท่ากับ “พี่นิว” ของเธอในเวลานี้
คำถามสำคัญคือ แล้วเธอจะไหวหรือไม่ เพราะเส้นทางสู่ฝันของเธอนั้น มีค่าใช้จ่ายพอสมควรทีเดียว
“น้อยจะลองพยายามให้สุดความสามารถดูก่อน อาจจะไม่ไปถึงในระดับที่สูงที่สุด แต่เมื่อสู้แล้ว คงจะดีกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ คงจะทำให้ชีวิตมีค่ามากขึ้น เหมือนวงเวียนโปงลางในตอนนี้ ที่แต่ก่อนก็เป็นวงเวียนธรรมดาให้รถแล่นวน แต่พอสร้างวงเวียน ตกแต่งให้สวยๆ ยิ่งตอนนี้ เอาไฟมาประดับ ทำให้ตอนค่ำดูสวยไปอีกแบบ ก็ทำให้วงเวียนที่ไม่น่าสนใจ ดูดียิ่งขึ้น ชีวิตน้อยก็คงจะดีขึ้นเหมือนวงเวียนโปงลางนี้”
และนี่คือ เสวนาจานส้มตำ…. เอ๊ย!!! ไม่ใช่ครับ ผิดคิว..!!!! ไม่ได้มานั่งกินส้มตำตรงสี่แยกโปงลางกันซะหน่อย….
นี่คือ ความคิดของ “น้อย” จากการที่ได้นั่งสนทนากับเธอแถวริมฟุตบาท บริเวณสี่แยกโปงลาง กลางเมืองกาฬสินธุ์ในตอนเย็นเมื่อวานนี้ครับ
ผมตามมาอ่าน ความเป็นไปของคุณน้อย...ครับ
เห็นพลัง ความมุ่งมั่น ที่มีอยู่เต็มเปี่ยม กับ นายบอน ที่พยายามจะผลักศักยภาพที่มีของเธอให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
บันทึกชีวิตแบบนี้ เห็น "มิตรภาพ" ที่อยู่แทรกทุกอณูของความรู้สึกเลยหละครับ
ทำไม...จะทำไม่ได้ ทำไม...จะไปไม่ถึง ละครับ ใจที่เกินร้อย ความหวังที่มีอยู่เต็มเปี่ยม...เสบียงที่สำคัญ คือ กำลังใจ โดยเฉพาะ กำลังใจ ที่คุณน้อยสร้า้งมันขึ้นมาเรื่อยๆ ด้วยตัวเอง รวมกับกำลังใจของคนรอบข้าง
ชีวิตของคนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด ล้วนแล้วแต่ต่อสู้อย่างหนักหน่วง มาทั้งนั้น เพียงแต่เขาไม่ค่อยได้เสนอมุมที่เขาต่อสู้ แต่ที่เสนอมักเห็นแต่ความสำเร็จในปัจจุบัน
ให้กำลังคุณน้อยครับ
ให้กำลังใจนายบอน ครับ