ผมเคยได้ยินคนๆหนึ่งเขาเปรียบ "ปาย" ว่าเป็นสาวน้อยไร้เดียงสา สดใส และบริสุทธิ์ ...ผมคิดตาม ว่า เธอเป็นเช่นนั้นจริงๆ
วันนี้ที่ปายเปลี่ยนไปมาก หากมองโดยรวม ความเจริญที่ทะลักเข้ามา พร้อมกับนักท่องเที่ยว ผู้แสวงหาจุดสมดุลในชีวิต ชาวตะวันตกที่เดินสวนทางกับคนท้องถิ่น อย่างเจนตา วิถีคนที่นี่ก็เปลี่ยนไปบ้าง....
ผมเดินเท้าจากหน้า Bank เดินตามถนนคนเดิน เห็นร้านเล็กๆ เรียงราย ร้านเหล่านี้ ตกแต่งร้านแบบศิลปะ สวยไม่ซ้ำกัน
วันนั้น ผมได้ยินนายอำเภอเรียก ถนนสายนี้ว่า "ถนนข้าวคั่ว" บอกเป็นนัยๆว่า คู่แข่งถนน "ข้าวสาร" ที่กรุงเทพนะนี่
ทำไมถึงเป็นถนนข้าวคั่ว ละ??
ท่านนายอำเภอบอกว่า ถนนสายนี้มีผู้คนหลากเผ่า มีทั้งคนตะวันตก คนตะวันออก(ญี่ปุ่น เกาหลี) ตลอดจนคนพื้นเมืองของปาย(ไทใหญ่,ลีซู,กระเหรี่ยง,ม้ง,คนเมืองลานนา)อยู่รวมกันอย่างสงบ
ด้วยเสน่ห์ ความสงบ หลากหลายของเมืองปายนี่เอง...ทำให้ หลายคน ให้ "ปาย" เป็นเมืองในฝันสวรรค์บนดอย
หลังเลิกงานผมมาเดินซื้อโปสการ์ดบ้าง ซื้อขนมพื้นเมืองที่มีขายตลอดเวลาที่นี่ ...
พอเหนื่อย แวะร้านกาแฟ all about Coffee พร้อม บราวว์นี่ ที่ผมโปรดปรานเป็นที่สุด ...หยุดดูวนิพก ติสๆ เล่นกีตาร์เปิดหมวก เสนาะความบันเทิงให้คนสัญจร ตัวตลกจมูกแดงล้อเล่นกับเด็กๆตรงฟุตบาธ
พี่น้องชนเผ่า ขายเครื่องเงินและผ้าปักที่ริมถนน ภายใต้แสงไฟของค่ำคืน
ชีวิตติดเทรนท์ที่นี่ราคาไม่แพง ไม่เร่งร้อน ค่าครองชีพที่ถูกสวนกับการเป็นเมืองท่องเที่ยว...อัธยาศัยดีๆที่คนที่นี่มีให้กัน
ถึึงแม้ว่า คนเหล่านั้นต่างเชื้อชาติศาสนากันก็ตาม หลายคนๆเลือกที่จะเข้ามาอ่านหนังสือเงียบๆ ที่ร้านหนังสือสวยๆที่นี่ หนุ่มสาวนั่งคุยกันในบรรยากาศโรแมนติค ในร้านกาแฟยามเช้า...เคล้าสายหมอก
ภาพพระเดินบิณฑบาต เสียงละหมาดดังขึ้น ระหว่างวัน ระหว่างเวลา เป็นบรรยากาศที่พบเจอที่นี่อีกเช่นกัน
.....
สาวน้อยที่ไร้เดียงสา ...เธอจะเปลี่ยนไปหรือเปล่า...ไม่ผิดเลยที่เธอจะเปลี่ยนไป แต่ขอให้เธอเข้าใจโลกมากขึ้น ...คนรอบข้างพร้อมจะดูแลเธอ
......
ชมรมธุรกิจท่องเที่ยวอำเภอปาย คนเมืองปาย รักเมืองปายกันทุกคน..เพราะว่าแหล่งนี้คือ "บ้านของเรา" กิจกรรมที่เราจัดขึ้น เป็น Event ประจำถิ่น ที่นี่จึงเคล้าไปด้วยตะวันออกและตะวันตก อย่างผสาน
....
หลายคนว่า กลัว "ปายเปลี่ยนไป" ผมมองว่า โชคดีนะที่ ปายเรียนรู้ตัวเองเรื่อยในการปรับตัว กับกระแสการท่องเที่ยว แบบค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ...มองในแง่บวก..กระแสการท่องเที่ยวที่แรงแบบนี้ กระตุ้นให้คนท้องถิ่นที่นี่ี่รัก "เมืองปาย"มากขึ้น...
....
ปายวันนี้ยังคงสงบ และสวยงามเหมือนปายคนเดิม อาจจะเติบใหญ่ขึ้น แต่ปายยังเหมือนเดิม...
....
อุทกภัยเมื่อ สิงหาคม ปีที่แล้ว ผมยังจำภาพที่คนปายทั้งหมดช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ภาพของนักท่องเที่ยวฝรั่งที่ช่วยกันคนละไม้คนละมือเก็บกวาดบ้านของเรา และร่วมพลิกฟื้นเมืองปาย...ให้สวยงามกว่าเดิม ในเวลาที่รวดเร็ว
เป็นภาพที่หาดูยาก...
....
เรื่องเล่าของบ้านเกิด...
"สิงหา"ปีนี้ครบรอบ โศกนาฎกรรม น้ำท่วม ที่ร้ายแรงที่สุดอีกหนึ่งปี
ติดตาม "ปาย" บ้านของผมอย่างใกล้ชิด ที่ www.paipost.com ครับ
และ www.paitown.com
....
ในระหว่างเขียนบันทึก "เพลงสวัสดีเมืองปาย" ดังขึ้นอย่างไพเราะจากสถานีวิทยุชุมชนแห่งหนึ่ง
(เวลา ๐๘.๐๙ น.)
ภาพเอื้อเฟื้อจากเวปนายไต๋ : www.painaima.com ภาพของ[email protected]
และภาพอักษรคำว่า "ปาย" ข้างล่างนี้ จาก www.paitown.com
ภาพรูปบ้านจาก www.trekkingthai.com
ขอบคุณมา ณ โอกาสนี้....ครับผม
นิราศ เมืองปาย...สายๆวันเสาร์
Your hometown is such a beautiful location I have never seen anywhere.
Looking forward to have a vacation at there krab.
Have a nice day with thanks for your friendly support.
อาจารย์ Pop
หากอาจารย์กลับเมืองไทย ...ผมเชิญมาเยี่ยมบ้านผมนะครับ
มีสิ่งดี-ดี ที่มีให้ค้นหาอีกเยอะที่ Pai ครับ
ชีวิตที่นี่ เป็นแบบ Slow town ครับ
คุณไออุ่น
วันนี้ "ปาย" เติบใหญ่ไปมากครับ แต่เธอยังงามในมุมของเธออยู่
....
หากว่างเมื่อไหร่...เชิญมาทัศนา นะครับ
ภาพสวยมากเลยค่ะ
อ่านแล้วนึกถึงบ้านจังครับ
ถ้าทุกคนรักบ้าน
ความสุขจะก่อเกิด
บ้านหลังนั้นย่อมอยู่ได้ยาวนาน
ขอให้คนในปายรักบ้านนานๆ ครับ
แถมท้ายหน่อย
วันหยุดของคุณ(นะ) วันอยู่เวรของผม
จะขอจับ...มือจูงกันไป...
ในหัวใจนักเดินทาง...
ปีนี้...ตระเวณ...ใต้...
แต่ช่วงปลายฝน...ต้นลมหนาว...
อาจได้เจอกัน...นะคะ
จิบกาแฟ...รับไออุ่น...
นอนชมดาว...
และตื่นรับ...แสงแห่งรุ่งอรุณ...
orange Alright
แบกเป้ โบกรถ มาเที่ยวได้ ไม่ผิดกติกา แต่อย่างใดครับ
จะเลี้ยง กาแฟสด ๑ ถ้วย(แถมบราวว์นี่ ๒ ชิ้น)
เพื่อน...จันทร์เมามาย ขอบคุณที่มาเยี่ยมบ้านครับ
ลืมไปว่า...คนหลายคน...มีเวร... (ครับ)
นัดกันตอนปลายปี...อย่าลืมนะ
ชนชา ๑ จอก..!!!!
Dr.Ka-Poom
ยังเป็นสาวช่างฝัน
ฝันของเธอ ยังคงสดใส
อย่าช้า...รำไร
มาเที่ยวกันครับ
ปลายปี...ปลายฝน ต้นหนาว Gotoknow trip ครับ
(ทักทายลมหนาวกับสาวคนลืมคำ) ที่ปายครับ
อ่านแล้วรู้สึกดีจริงครับ อย่างน้อยก็ 2 อย่างละ
..ชมรมธุรกิจท่องเที่ยวอำเภอปาย คนเมืองปาย รักเมืองปายกันทุกคน..เพราะว่าแหล่งนี้คือ "บ้านของเรา"..... ทำให้คิดถึงคำพูดของอาจารย์นิธิ เมื่อนานมากแล้วทำนองว่า กรุงเทพฯที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ เพราะไม่ (ค่อย) มีใครรักกรุงเทพฯ กรุงเทพฯไม่ใช่บ้านของใครๆ กรุงเทพฯไม่มีใครเป็นเจ้าของ (แม้จะอ้างกันว่าเป็นคนกรุงเทพฯก็ตาม)
ผมละกลัวอย่างนึง ไม่ว่าจะที่นี่หรือที่ไหน กลัวที่สุดก็คือ "กลัวว่าจะชิน"
ทำให้คิดถึงหนังสือที่อ่านเมื่อสัก 10 ปีก่อน "คนนอก" ของอัลแบร์ กามูส์ มีอยู่ประโยคเดียวที่ยังคงก้องหูอยู่ทุกวันนี้ "เดี๋ยวก็ชินไปเองแหละลูก" เป็นคำที่แม่บอกตัวละครเอกของเรื่อง เมื่อต้องปรับเปลี่ยนสถานที่หรือชีวิต
ชินในแง่นึงก็ดีละ ในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม
แต่ถ้าจัดการไม่ดี ไอ้ความชินนี่ละ จะกลายเป็นตู้เย็นขนาดมหึมาคอยแช่แข็งคนที่อยู่บริเวณนั้นให้ตายซากไป
ไม่รู้สึกรู้สา เพราะชินเสียแล้ว
ข้อสังเกตเรื่องเล่าเช้านี้ที่เมืองปาย ยังคงสัมผัสได้ถึงความอบอวลด้วยมิตรภาพและวิถีชีวิตคุณภาพ (แต่จ่ายไม่แพง)
ผมว่าส่วนหนึ่ง ที่ยังคงสภาพอยู่ได้เพราะคนในพื้นที่ไม่ยอมชินกับความเปลี่ยนแปลงที่ค่อยๆ คืบคลาน (หรือไม่ก็รุกคืบอยู่ด้วยในบางโอกาส) หากแต่เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เหมือนอย่างตาสับปะรด
แวะมาทักทายยามเช้า ภายหลังจิบกาแฟร้อนครับ
เป็นกำลังใจให้คุณ มงคล ด้วย บันทึกสบายๆครับ
น่าคิดเหมือนกันนะครับ กรณีที่ อาจารย์นิธิท่านว่าไว้ และ "ความชิน" เป็นการยอมรับสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น ค่อยชินกับปัญหา โดยไม่หาทาง ป้องกันปัญหา...
คิดไป ก็ มีแนวโน้ม เพราะ บางทีคนในพื้นที่เองก็เปลี่ยนแปลงแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป
ต้องมีคนนอกมาช่วยมอง ช่วยเติม
บ้านของเรา เมืองไทยของเรา ครับ
บันทึกนี้ขอเป็นครีมเทียม ให้กาแฟของคุณกลมกล่ิอม นะครับผม
น่าจะเป็นบิณฑบาต
ศัพท์นี้ มาจากคำบาลีว่า ปิณฺฑ (ก้อนข้าว) + ปาต (การตก) = การตกของก้อนข้าว เขียนเป็นศัพท์ไทยๆ ว่า บิณฑบาต (บิน-ดะ-บาด)
มักจะเขียนผิดเป็น บิณฑบาตร โดยนึกว่าเหมือนกับคำว่า บาตร แต่ความจริง คำว่า บาตร มาจากบาลีว่า ปตฺต หรือ สันสกฤตว่า ปตฺร จึงเขียนเป็นศัพท์ไทยๆ
อยากไปปายเร็วจังเลยครับ สะพานคล้ายที่อำเภอสังขละบุรี กาญจนบุรี เราเรียกว่าสะพานมอญ
ขอบคุณมากครับ
อาจารย์ ดร.ขจิต
ศัพท์ผิดหลายตัวเลย ก็ถือโอกาสขอโทษขอโพยตรงนี้เลยครับ...แก้ไขแล้ว
นอกจากอาจารย์จะเชียวชาญเรื่องภาษาแล้วยังใจดีอีก
ปลายฝนต้นหนาว เจอกันครับผม
บันทึกมีชีวิตชีวาแบบนี้ เลยทำให้ใครๆ ก็อยากไปเมืองปาย เรียกได้ว่าหลงรัก (ปาย) ตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้ากันเลย
ทริปไปแม่ฮ่องสอนปลายปีนี้ คงต้องเหมารถบัสซักสี่ห้าคัน ล่ะมั๊ง
Bus ตั้ง ๔-๕ คันเชียวหรือ...จะรับแขกไหวยังไงละนี่!!!
งานนี้ตรึม เพราะมีทั้งคุณเอื้อ คุณกิจ โดยเฉพาะคุณ Nidnoi
ยิน ดี ต้อน รับ ทุก ท่าน ครับ ผม
พอดีน้องไต๋ เวป ม้าด-สะ-เตอร์ เราคุ้นเคยกันดีครับผม
ก็เลย เยี่ยมเวปของเขาบ่อยๆ ครับ
.............
พี่สิงห์ป่าสัก หายไปนานเหลือเกินครับ
ขอบคุณและสวัสดีที่มาเยี่ยมบ้านผม
ปลายปีพี่ทำตัวให้ว่างนะครับ จะชวนมาเที่ยวที่ปายและแม่ฮ่องสอน กับ Gotoknow trip ครับ
เรียน น้องจตุพร
พี่สิงห์ป่าสัก อีกครั้ง
คือที่เราคิดกันไว้ ก็จะพาเหล่าบรรดา Blogger ทั้งหลายมา ทัศนาจร ชุมชนท่องเที่ยวที่ปาย และแม่ฮ่องสอน น่าจะเป็น Route ยูนนาน และการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่ผมทำงานวิจัยอยู่ เป็นการเที่ยวแบบเรียนรู้ สนุกและได้สาระ โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่ม Blogger เราหละครับ
ผมจะลองออกแบบกิจกรรมอยู่ รับรองว่า KM ครั้งนี้ เป็น KM ที่ไร้กระบวนท่า
พี่ Nidnoi จาก มอ. เป็นผู้ประสานงาน โซนใต้-กลาง พี่ กะปุ๋ม ประสานงานโซน อีสาน
...และปลายปี เราเจอกันปลายฝนต้นหนาวที่ Paitown ครับ
ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องแม่ฮ่องสอนและปาย
มาได้รู้จักและเริ่มหลงเสน่ห์ Utopai แม่ฮ่องสอน ก็เพราะบันทึกที่เขียนด้วยหัวใจหน้านี้ค่ะ
กำลังติดตามหน้าถัดๆไปอย่างชื่นชม
อีกอย่างก็คือ ช่วยดีทอกซ์หัวใจได้เป็นอย่างดีแบบไม่ต้องพึ่งอโรมา
มาปายก็ต้องมาด้วยหัวใจเช่นกันครับ...เพราะถนนหนทางคดเคี้ยวเหลือเกิน
ติดตามกันต่อไปนะครับ อย่าละสายตานะครับ
คุณ แชร์จังกึม
ขอบคุณมากครับ Little Jazz \(^o^)/
จะรอดู PAI collection คิดว่าต้องมีภาพเด็ดๆเพียบ
ขอบคุณครับสำหรับความรู้สึกดีๆต่อเมืองปาย
อยากไป อยากไป
^___^
คุณแมว
ยินดีครับ หากต้องการข้อมูล หรือต้องการทราบรายละเอียดประเด็นใด สอบถามได้ครับ
สวัดดีครับ ผมบอมครับอยู่แม่สอด ผมอยากไปปายเหมือนกัน แต่ไม่มีโอกาสไป แต่จะต้องไปให้ได้ซักครั้งนะครับ
ผมอยากรู้ว่าปายเป็นอยางไรอยากรู้ว่าจะเหมือนแม่สอดใหม แต่แม่สอดก็มีหลายเผ่าหลายเชื่อชาติหลายศาสนาเหมือนกัน
แต่ก็อยู่ด้วยกันได้ครับ แม่สอดก็มีความน่ารักของมันในตัวของมันเองนะครับ
ท้ายนี้ ผมอยากรู้จักพี่ครับ และอยากรู้จักเมืองปายด้วยครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณนะคะคุณไข่นุ้ยแห่งปาย สำหรับคำอวยพร
อยากเห็นภาพบ้านเรือนไทยหลังนั้น ที่เมืองปายอีกจัง;)