การที่มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดการประชุมทางวิชาการ นเรศวรวิจัย ครั้งที่ 2 “ความสำเร็จของการพัฒนาชุดโครงการ” เมื่อวันที่ 28 - 29 กรกฎาคม 2549 ณ บริเวณชั้น 3 โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร อาคารสิรินธร มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งข้าพเจ้าได้เข้าเยี่ยมชมการจัดบอร์ดนิทรรศการเกี่ยวกับงานวิจัยต่างๆ และมีความสนใจเกี่ยวกับ เรื่อง KM ในมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งมีเนื้อหาพอสรุปได้ดังนี้
จุดเริ่มต้น
มหาวิทยาลัยนเรศวรได้มีโอกาสเข้าร่วมสังเกตการณ์และเรียนรู้ knowledge management (KM) จากกิจกรรมของสถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม (สคส.) ตั้งแต่ต้นปี 2547 และได้เข้าร่วมกิจกรรม University Knowledge Managemente (UKM) เมื่อปลายปี 2547
วัตถุประสงค์หลัก ที่มหาวิทยาลัยนเรศวรนำ KM มาใช้เป็นเครื่องมือ ในการผลักดันงาน มีอยู่ 3 ด้าน
1. ด้านการประกันคุณภาพการศึกษา
2. ด้านการวิจัย
3. ด้านการจัดการความรู้
ยุทธศาสตร์ ในการดำเนินงาน มี 3 ด้านหลัก คือ
1. สร้างบุคลากรที่มีความรู้ ความเข้าใจ และศรัทธาในกระบวนการของการจัดการความรู้ เพื่อให้เกิดบุคลากรที่มีลักษณะของบุคคลเรียนรู้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2. สร้างนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากร สามารถนำการจัดการความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนางานและองค์กรของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ติดตาม/ประเมินผล เพื่อมอบรางวัลและสร้างขวัญกำลังใจให้กับบุคคลและหน่วยงานที่มีผลการดำเนินงานดีเด่น และนำผลการประเมินมาปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานให้ดียิ่งๆ ขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ภาพรวมระบบการจัดการความรู้ในมหาวิทยาลัยนเรศวร
มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ดำเนินกิจกรรมการจัดการความรู้ในปี 2548 ทำให้ในปี 2549 สามารถดำเนินงานด้าน KM ได้ดียิ่งขึ้นและที่สำคัญคือ เกิดความเชื่อมโยงของกิจกรรมต่างๆ จนสามารถเห็นเป็นระบบที่เรียกว่า NUKM (Naresuan University Knowledge Management)
กลไกหลักในการขับเคลื่อน NUKM ให้หมุนเป็นเกลียวของการพัฒนาก็คือ “คน” ที่ มหาวิทยาลัยนเรศวร เรามีการสร้างคนให้มีความรู้ความเข้าใจ และศรัทธาต่อ KM ให้มีจำนวนมากขึ้นอยู่ตลอดเวลา เพื่อช่วยกันดำเนินงานและเป็นตัวคูณด้าน KM ในหน่วยงานของตนเอง พร้อม ๆ กันกับให้เป็นผู้ประสานงานกับส่วนกลางของมหาวิทยาลัย
ปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จ
น่าจะเป็นเรื่องความจริงใจและจริงจังของชาวมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ช่วยกันทำ คนละเล็กละน้อย จากเล็กสู่ใหญ่ มากขึ้นตามลำดับของการพัฒนา รวมทั้งการมีเครือข่ายพันธมิตร UKM ที่ช่วยเสริมพลังซึ่งกันและกันอยู่ตลอดเวลา ก้าวต่อไป ดำเนินการตามระบบและกลไกที่ได้สร้างไว้อย่างต่อเนื่องและมั่นคงโดยไม่มีคำว่า “จบแล้ว” หรือ “สำเร็จแล้ว” เพื่อขยายเกลียวความรู้ความเข้าใจด้าน KM ให้ครอบคลุมทุกพันธกิจของมหาวิทยาลัย และขยายไปในทุกหน่วยงานทั้งคณะวิชา และหน่วยงานสนับสนุน ครอบคลุมบุคลากรในทุกระดับ ไม่ว่านะเป็นผู้บริหาร อาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนิสิต “ให้เป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน จนกลายเป็นจิตวิญญาณของมหาวิทยาลัย”
ไม่มีความเห็น