ไถ่ชีวิตโค-กระบือ เป็นการทำบุญหรือทำบาป


ตอนแรกก็ดูดี ทุกคนมีความสุข แต่พอไปได้สัก ๓-๔ เดือนก็ออกอาการอึดอัดกัน เพราะวัวที่ซื้อมานั้น เป็นวัวที่เขาคัดทิ้ง ขายเข้าโรงงานฆ่าสัตว์ มีข้อเสียที่เจ้าของเก่าเขารู้ดี เขาจึงคัดขาย ที่ก็เป็นเรื่องปกติของการขายวัว ทำให้มีปัญหาที่ไม่พึงประสงค์

เมื่อปีที่แล้วผมได้ทำบุญไถ่ชีวิตโคจำนวน ๔ ตัวร่วมกับพี่สะไภ้ใหญ่ของผม เพื่อสะเดาะเคราะห์ตามคำพูดที่ว่า 'ไม่เชื่ออย่าลบหลู่' โดยการขอให้พี่ชายคนกลางที่อยู่โคราชไปอ้อนวอนขอซื้อมาจากโรงงานฆ่าสัตว์แถวๆนั้นในราคาที่สูงกว่าธรรมดา เพื่อต้องการทำบุญ เท่าไร่เท่ากัน ลงทุนไปทั้งหมดเกือบ ๕ หมื่นบาท แล้วก็ขนขึ้นรถมาให้ชาวบ้านไปเลี้ยงที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อสนับสนุนกิจกรรมเกษตรอินทรีย์ที่ผมทำกับกลุ่มแดงหม้อ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งใจว่ากระสุนนัดเดียวครั้งนี้จะได้นกถึงสามตัวทีเดียว ตอนแรกก็ดูดี ได้เพื่อนเพิ่ม ทุกคนมีความสุข  แต่พอไปได้สัก ๓-๔ เดือน คนเลี้ยงก็ออกอาการอึดอัดกัน เพราะวัวที่ซื้อมานั้น เป็นวัวที่เขาคัดทิ้ง ขายเข้าโรงงานฆ่าสัตว์ มีข้อเสียที่เจ้าของเก่าเขารู้ดี เขาจึงคัดขาย ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการขายวัว-ควาย ทำให้มีปัญหาที่ไม่พึงประสงค์ คนเลี้ยงก็เริ่มงอแงไม่อยากเลี้ยง จะขอขายเข้าโรงงานฆ่าสัตว์เพื่อซื้อใหม่อยู่ท่าเดียว ผมก็อีหลักอีเหลื่อในการตัดสินใจ ว่าจะทำอย่างไรดีจึงจะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ และได้นกสามตัวอย่างที่หวังไว้ คือได้บุญ ได้เพื่อน และได้ปุ๋ยคอกสำหรับนาอินทรีย์ แต่ก็มารวนเรซะแล้ว เลยเริ่มไม่แน่ใจว่าผมได้ทำบุญหรือทำบาปกันแน่ เพราะในที่สุดวัวเหล่านี้ก็กลับเข้าระบบฆ่าสัตว์เช่นเดิม ไม่มีใครจะช่วยผมเลี้ยงให้นานๆ อย่างที่ผมและพี่สะใภ้ตั้งใจไว้แต่เดิม และผมไม่มีทางที่จะหยุดกระบวนการนำสัตวืไปฆ่าได้ ผมเลยยิ่งงงว่าผมได้ไถ่ชีวิตโคจริงหรือ หรืแค่ยืดอายุวัวอีกไม่กี่วัน แล้วไปสร้างปัญหาให้กับสมาชิกโครงการของผม เรียกว่างานนี้ผมเสียเพื่อนไปหลายคน ไม่ทราบว่าคุ้มหรือเปล่า และวัวบางตัวก็กลับไปเข้าโรงงานฆ่าสัตว์เรียบร้อยแล้ว ผู้เชี่ยวชาญหรือชำนาญการ หรือกองหนุนการไถ่ชีวิตโค-กระบือช่วยแจงสี่เบี้ยให้ผมฟังหน่อยว่าผมได้กำไรหรือขาดทุน แต่ผมรู้สึกว่าขาดทุนและเสียความรู้สึกมากๆเลยครับ แต่ยังดีที่ได้ความรู้ครับ พอจะฉลาดขึ้นอีกนิดหนึ่ง ว่าการไถ่ชึวิตโคไม่งายอย่างที่คิด

หมายเลขบันทึก: 42366เขียนเมื่อ 3 สิงหาคม 2006 16:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:43 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (79)
  • ผมขอชื่นชมสำหรับความคิดดีๆ นี้นะครับ
  • แต่ก็นั่นแหละ ไม่ว่าจะคิดจะทำอะไรก็ต้องกลายเป็นช่องทางสำหรับคนหวังผลประโยชน์ไปเสียหมด
  • ผมไม่รู้หรอกว่าจะบุญหรือบาป แต่แน่ๆ บุญกุศลก็เกิดขึ้นในใจของ ดร. แล้วนะครับ
  • เอ แบบนี้เราคุยกับคนขายไม่ได้เหรอครับหรือไม่ก็ลงชุมชน แล้วขอซื้อจากคนเลี้ยง(เพือขายโรงฆ่าหรือหมดทางเลี้ยง) ตัดทางพวกโรงฆ่าไปเสียเลย  แล้วก็เลือกดูตัวที่มีหน่วยก้าน  อาจจะยุ่งยาก แต่เพือผลสามประการอย่างที่หวัง ก็คงต้องทำ ไม่งั้นก็เป็นเรืองไปสบายใจ ทั้งคนให้คนรับ
  • ไม่เป็นไรครับ อย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้โลก จากการทำบุญครับ
     ทำอะไรก็ตามถ้าทำไปแล้ว ไม่ไปเบียดเบียน คนอื่น สัตว์อื่น ก็ ไม่บาป หลอกครับ

วัวที่ถูกขายเข้าโรงฆ่าสัตว์อาจไม่ได้เป็นวัวที่ถูกคัดทิ้งเสมอไป บางทีเจ้าของไม่อยากขาย แต่เขาเดือดร้อนเงิน จึงต้องจำใจขาย

การทำบุญโดยการไถ่ชีวิตโค-กระบือจากโรงฆ่าสัตว์เข้าโครงการธนาคารโค-กระบือตามแนวพระราชดำริ น่าจะดีกว่า เพราะเขาคัดวัวที่มีลักษณะดีและมีการดูแลฉีดยาป้องกันโรคให้วัวด้วย นอกจากนี้ยังมีพิธีให้ชาวบ้านให้สัจจะ ไม่ขาย ไม่ฆ่า และให้ดูแลโค-กระบือที่ได้รับมาอย่างดี

มีคนเล่าให้ฟังว่าดูวิดิโอที่ถ่ายมาจากโรงฆ่าสัตว์ ควายบางตัวแข็งแรงมาก ไม่ยอมตายง่าย ๆ โดนค้อนปอนด์ทุบหัวตั้งหลายทีก็ยังไม่ตาย ผู้ชายหลายคนรุมกัน ทั้งแทง ทั้งเชือด ทั้งทุบตี เขาก็ยังไม่ยอมล้ม ยังพยายามจะลุกขึ้นยืนให้ได้ เขารักชีวิต เขายังไม่อยากตาย เขาจึงพยายามดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด กว่าจะสิ้นใจคงจะเจ็บปวดทรมานสุดชีวิต น่าสงสารมาก

สวัสดีครับ ดร.แสวง

  • ผมก็เคยคุยกับเพื่อนเหมือนกันครับ ขณะที่ทำบุญที่วัดแห่งหนึ่ง แล้วเขามีพิธีปล่อยนก ปล่อยปลา ไถ่ชิวิตโค
  • แต่ก็ได้คุยกันนิดเดียว
  • เราแน่ใจได้อย่างไรครับ ว่าวัวที่เราไถ่มาจะอยู่เย็นเป็นสุขดีหลังจากนี้
  • ยิ่งถิ่นที่ผมอยู่แทบไม่มีคนเลี้ยงวัวเลย แล้วเขาจะอยู่อย่างไรกันนี่
  • เหมือนกับทำบุญแล้วได้บาปเลย  เพื่อนบอกว่าอย่าคิดมาก เดี๋ยวไม่ได้บุญ
  • แต่ผมไม่คิดเช่นนั้น  ผมว่าบางทีคนเราก็อยากได้บุญแบบมักง่าย(อันนี้ผมว่าตัวเองด้วยครับ)
  • ถ้าอยากได้มหาบุญก็พยายามช่วยกันแก้ที่ระบบครับ (ซึ่งผมก็ยังไม่ทราบเช่นกันว่าทำยังไง)
  • เหมือนกับที่ให้เงินขอทาน เราสงสารเราก็ให้เขา แน่นอนครับเราได้ความสบายใจ นั่นก็ถือว่าได้บุญแล้ว  แต่รู้หรือไม่ครับว่าเงินนั้นไหลไปไหนบ้าง ขอทานคนนั้นได้ทั้งหมดหรือเปล่า
  • หรือมันเอาไปบำรุงพวกมาเฟีย ให้มีกำลัง มีเงินมีทองซื้อรถตู้ไปตระเวนขโมยลูกท่านอีกที  เพื่อมาทำเป็นขอทาน ให้เราได้ทำทานต่อ

ธรรมะสวัสดีครับ

การไถ่ชีวิตคือการปล่อยให้ชีวิตที่โดนกักขังให้เป็นอิสระ หากปล่อยแล้วแต่ยังโดนกักขัง จะต่างอะไร การทำบุญไม่ไช่การลงทุน

 

เคยคุยกับปศุสัตว์จังหวัดถึงเรื่องโครงการธนาคารโคกระบือ

ก็ได้ข้อมูลอีกมุมหนึ่งว่าถึงแม้จะเป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับในหลวง(ซึ่งพวกเราเคารพเทิดทูนสูงส่งมากๆแล้ว)ก็ยังมีการเอาวัวที่ได้ไปแอบขายอีก

เลยรู้สึกว่า ทำให้ดีที่สุดในส่วนที่เราทำเองได้ ส่วนผลที่เกิดจากปัจจัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้ก็ต้องทำใจเถอะเพราะคงไม่มีใครสามารถรับประกันให้เราได้ว่าโคกระบือที่เราได้ช่วยชีวิตนั้นเขาจะอยู่ดีมีสุขหรือรอดจากถูกฆ่าได้ตลอดไป

ครับ แล้วแต่จะคิดครับ

สบายใจอย่างไร ก็ทำอย่างนั้นก็แล้วกันครับ

 

 

ชื่นชมที่คุณมีจิตใจดี คุณไม่เพียงแค่คิดดี แต่คุณคิดและตั้งใจทำความดีนั้นได้ เพียงเท่านี้ คุณก็มีบุญกุศลติดตัวไปแล้วล่ะค่ะ ส่วนปัญหาที่เกิดเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ และเรารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ไม่เป็นไรอย่าคิดอะไรมาก ปล่อยวางมันไป แต่ครั้งต่อไปถ้าจะทำบุญอีกเราก็จะได้คิดบวก ลบ คูณ หาร ให้มันรอบคอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ

คนเคยเลี้ยงวัวและควาย

สมัยก่อนตอนหนูยังเด็ก ๆ พ่อและแม่เคยให้เลี้ยงวัวและควาย หนูรักวัวควายหนูทุกตัวมีอยู่ประมาณ 4-5 ตัว เวลามันดื้อหนู ก็โกรธมันจนต้องร้องไห้เพราะมัน และตอนนั้นพ่อเอามันไปไถ่นา พ่อตีมันให้มันเดินเร็ว ๆ หนูสังเกตเห็นน้ำตามันไหลออกสองข้าง หนูส่งสารมันมาก คิดในใจว่าไม่อยากให้มันมาไถ่นาอยู่อย่างนี้ แต่พอเวลาครอบครัวไม่มีเงินจำเป็นต้องขายมันหนูต้องร้องไห้ ขอร้องพ่อกับแม่ไม่ให้ขายมัน แต่ด้วยความจำเป็นต้องขายอาจเพราะหาเงินมาส่งให้หนูเรียน มันคือทางเลือกของพ่อและแม่ ถึงเวลาคนที่ซื้อมาเอามันไปแล้วลากมันขึ้นรถมันขัดขืนเหมือนกับมันรู้ว่าต้องจากที่นี้ หนูรู้ว่ามันก็รักหนูและครอบครัวของหนู เห็นแล้วอดร้องไห้ไม่ไหว รู้สึกหดหู่ สงสารมัน มันคงทรมานและเจ็บปวดตอนที่มันโดนเขา แทง โดนเชือด โดนทำร้ายร่างกาย แต่ไม่รู้จะช่วยมันยังไงดีเฮ้อ... จนตอนนี้หนูไม่ได้อยู่เลี้ยงวัวควายแต่หนูต้องมาทำงานกับเทคโนโลยี ที่ไม่มีหัวจิตหัวใจ อยากบอกท่านที่ใจบุญ ที่ช่วยชีวิตวัวควาย ว่าท่านคิดดีแล้ว ถึงแม้ท่านคิดว่าช่วยชีวิตมันแค่ระยะสั้นไม่กี่เดือน แต่ท่านทำให้มันซึ้งในความเมตตาไปตลอดชีวิตของมัน

เห็นด้วยครับ

บางทีผมก็คิดมาก แต่มากไม่พอครับ

ทำดีทีสุด แล้วอุเบกขาไว้ น่าจะดีที่สุดครับ

ขอบคุณครับ

หนูก้สงสารโคกระบือมากๆ ตอนดูบันทึกชีวิตของสัตว์ค่ะ

หลายๆเรื่อง เราอาจต้องอุเบกขาบ้าง

ไม่งั้นเราคงต้องแบกกรรมของคนอื่นไม่ไหว

ถ้าไม่วางบ้าง ผมว่ายากครับ

ชีวิตจะวุ่นวาย และทุกข์มากครับ

ขอจงรักษาตนให้พ้นภัยเถิด สาธุ

แค่คิดดีก็ได้บุญแล้วครับ ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

ผมมีข้อมูลจากคนเลี้ยงวัวอยากนำมาบอกให้ทราบ ทุกวันนี้การเลี้ยงวัวยากกว่าสมัยก่อนมากเพราะวัวต้องใช้พื้นที่มากในการเลี้ยงแบบธรรมชาติ ถึงแม้วัวจะไม่ได้แย่งอาหารจากคน แถมยังช่วยเปลี่ยนคุณประโยชน์ของหญ้า ฟาง เปลือกผลไม้ เช่น กล้วย สับปะรด และอื่นๆ อีกมากมายมาเป็น แหล่งโปรตีนให้คนบริโภคได้ ส่วนการใช้แรงงานลืมไปได้เลยเพราะ หนึ่งแรงวัวต่อหนึ่งแรงคน ที่ต้องทำงานด้วยกัน แต่ทุกวันนี้แรงคนหาได้ยากมากที่จะยอมไปทำงานร่วมกับแรงวัว วัวจึงไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์ในทางนี้ ทุกวันนี้รูปแบบวัฒนธรรม วิธีการเลี้ยงวัวจึงเปลี่ยนไปต้องยอมรับ ด้วยทุกวันนี้ พื้นที่ในการเลี้ยงวัวมีจำกัด จนถึงขนาดต้องเช่าที่เพื่อไว้เลี้ยงวัว เรื่องจริงสิ่งที่พอจะเป็นอาหารวัวได้มีค่า ตั้งแต่หญ้า ฟาง เปลือกผลไม้ ทุกอย่าง ที่วัวกินได้เป็นเงินหมดทุกอย่าง เช่น หญ้าสดกิโลกรัมละ 0.50 บาท ฟางอัดก้อนๆละ 20-27 บาท ซึ่งเป็นภาระการเลี้ยงดู ในฤดูฝนมีปัญหาไม่มีที่เลี้ยงเพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ใช้เพาะปลูกปล่อยเลี้ยงไม่ได้ ต้องหาอาหารมาให้กิน

ฤดูแล้งมีพื้นที่ปล่อยเลี้ยงแต่กลับมีอาหารไม่เพียงพอ ต้องหาอาหารมาเสริมให้กิน

คนเลี้ยงวัวทุกๆ คนจะประสบปัญหาคล้ายๆกันเช่นนี้ แต่ยังไม่รวมถึงปัญหาขาดแคลนแรงงาน สรุป คนเลี้ยงวัวได้ต้องมี ความรู้ ความรัก ความอดทน มีทรัพยากร มีวัวดี มีอาหารดี มีประสบการณ์ จัดการเป็น และต้องมีที่ระบายวัวออกเพื่อความสมดุลกับกำลังที่จะเลี้ยงได้ (จำหน่าย หรือบริจาคต่อแบบมีผลตอบแทน)

จึงอยากขอฝากหากมีความประสงค์ทำบุญไถ่ชีวิตโคกระบือ โปรดพิจารณาปลายทางที่ผู้รับบริจาคว่ามีความพร้อมแค่ไหน ถ้าไม่เช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาได้ดังที่พบกัน เพราะวัวคือภาระที่ต้องรับผิดชอบไม่รู้ว่าใครจะตายก่อนกันระหว่างวัวกับคนเลี้ยง

ขอบคุณครับ

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมครับ

ความจริง มีฟาร์มเลี้ยงโคที่ต้องการขายโคจำนวนมากแต่ไม่มีใครซื้อไปเลี้ยงสุดท้ายก็ต้องขายไปทำเนื้อ หากต้องการไถชีวิตโคจริงควรไปไถที่เกษตรกรที่ต้องการขายจะดีกว่า ถ้าไปไถ่ที่โรงฆ่าสัตว์ ก็จะไม่ได้ไถ่ชีวิตโคแท้จริงเพราะ โรงฆ่าสัตว์เขารับคำสั่งซื้อเนื้อมาจำนวน 1000 กิโลกรัมใช้วัวประมาณ 8-10 ตัว วัวขนาด300-350 กก. เขาก็ต้องทำเนื้อส่งตามใบสั่งซื้อ ถ้าเราไปไถ่ชีวิตตัวที่เขาเตรียมไว้ทำส่งตามใบสั่งซื้อ เขาก็ต้องหาตัวอื่นๆ มาทดแทน เพื่อให้ได้เนื้อครบตามใบสั่ง ดังนั้นการไถ่ชีวิตวัวที่เหมาะต้องไปช่วยเกษตรกรที่เลี้ยงวัวแล้วต้องการขาย บางรายเลี้ยงวัวไว้เป็นเงินออม ไว้เป็นค่าเล่าเรียนของลูกๆ ไว้ส่งหนี้ ธกส ไว้ช่วยความเสี่ยงการทำนา ทำไร่ แล้วขาดทุนไม่มีทุนทำต่อ ก็ขายวัว คนเลี้ยงวัวปรารถนาที่จะขายวัวให้คนอื่นๆ นำไปเลี้ยงต่อทุกคน แต่ไม่มีคนไปซื้อจากเขานอกจากพ่อค้าวัว เลยทำให้วัวต้องเข้าสู่โรงฆ่าสัตว์โดยไม่ตั้งใจ หากท่านผู้มีบุญทุกท่านต้องการช่วยทั้ง ไถ่ชีวิตโค และเกษตรกรที่ต้องการขายโค ด้วยใจบริสุทธิ์ไม่ปรารถนาขายเพื่อทำลายชีวิต มีที่แนะนำติดต่อได้ที่ [email protected] หรือ 081-9411129

ผมว่าคนที่จะทำบุญก็ไม่ค่อยได้ศึกษาเรื่องธรรมชาติของวัวควาย และโรงงานฆ่าสัตว์ 

และอาจไม่ค่อยมีเวลาศึกษาหรือเตรียมการอะไรมาก

ส่วนใหญ่ก็มองว่า "ทำบุญ" แบบปกติธรรมดา ทำแล้วก็ได้บุญ แล้วๆกันไป

บางทีก็ไม่ซื้อทั้งตัว แต่ช่วยๆกัน หรือรวมๆกันจนได้เงินครบก็ไปทำ "บุญ" เสียทีหนึ่ง

คนที่จัดการก็อาจไม่คิดมากอีกต่างหาก

ทีนี้คนไม่เคยเลี้ยงวัวควาย ก็ยิ่งดูไม่เป็นว่าตัวไหนควรซื้อไว้ เพราะคุณสมบัติดี มีโอกาสรอด ตัวที่มีปัญหา ให้ใครไปเลี้ยงต่อ เขาก็ลำบากครับแต่ก็อาจเจอตัวที่เขาคัดทิ้ง เพราะเลี้ยงไปก็มีปัญหา ยุ่งยาก หรือลำบากในการเลี้ยง

จะทำบาปก็ตอนทำให้คนตั้งใจเลี้ยงใหม่เขาลำบากนี่แหละครับ

บางทีเจ้าของเดิมก็ไม่ยอมบอก เพราะกลัวขายไม่ได้ ยิ่งไปกันใหญ่

ลองมาดูโลกแห่งความเป็นจริงซิครับ มันไม่ตรงๆ ง่ายๆ อย่างที่คิดสักเท่าไหร่

อันนี้แหละคือประเด็นที่ผมเปิดไว้แต่เดิมครับ

ขอบคุณมากครับที่เสนอแนวทางออก อีกทางหนึ่ง

 

ขอร่วมทำบุญโดยการไถ่ชีวิตโค-กระบือจากโรงฆ่าสัตว์เข้าโครงการธนาคารโค-กระบือตามแนวพระราชดำริด้วยคนค่ะ

นุช

สวัสดีค่ะ ดิฉันเองก็เป็นผู้หนึ่งที่ชอบไถ่ชีวิตโค กระบือ มาก มักพาคุณยายคุณแม่ไปไถ่ปีละ 2-3 ครั้ง แต่จะไม่ใช่ลักษณะการบริจาค แต่จะโทรสั่งจากโรงฆ่าแล้วให้เขาไปส่งให้ที่วัดทุ่งเสรี (พระราม9)แล้วถวายวัด เพราะที่วัดนี้ เขามีสถานปฏิบัติธรรมอยู่ที่ประจวบฯ มีที่ดินเป็น 100 ไร่ ให้คนชราอยู่ และให้โคกระบือที่ไถ่มา หากินอย่างสยาย ตอนนี้มีลูกหลานเยอะแยะ มีชาวนายากจนก็มาขอกับเจ้าอาวาสก็มี แต่ต้องทำสัญญา ไม่ฆ่าไม่ขายค่ะ เลยอยากบอกเป็นทางเลือกแก่คนที่อยากไถ่โค กระบือ ค่ะ

ก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ

ขอบคุณมากครับที่ให้ข้อมูล

ทำบุญให้ได้บุญจากการทำบุญไถ่โคกระบือ เรื่องง่ายแต่ไม่ง่ายหากไม่มีระบบที่รองรับ

ต้องเอาปัญหามาจากประสบการณ์ แล้วตอบปัญหาที่ละข้อ แล้วรวบรวมมาทำระบบ

โดยใช้ทฤษฎีเดรมมิ่ง _

1.วางแผน -Plan

2.ทำ -Do

3.ตรวจสอบ/แก้ไข -Check

4.นำมาปฏิบัติ -Act

ขบวนการอยู่ที่ 3.คือตรวจสอบแก้ไข เพื่อนำมาปฎิบัติ

_ควรทำเป็นเครือข่าย เพื่อสามารถนำปัญหามาช่วยกันแก้ไข และสนับสนุนกัน

อย่างเช่นปัญหาที่วัวควายถูกคัดทิ้งเพราะคุณสมบัติไม่ดี

เป้าหมายก็คือ วัวควายที่ไถ่ทำบุญต้องได้คุณสมบัติที่ดีถูกต้องตามตำรา

เกษตรกรที่ต้องการขายก็ขายให้คนทำบุญ ตีหมายเลข แล้วนำเขามูลนิธิหรือ

กลุ่มอนุรักษ์ เพื่อใช้ไถ่นา หรือมอบให้วัดก็แล้วแต่วัตถุประสงค์ในการดำเนินการ

หากไถ่มาให้เกษตรกรเลี้ยง อาจกำหนดว่าห้ามฆ่า ให้ใช้ไถ่นา

หากตกลูกก็ให้เป็นสำบัติของคนไถ่ ตกลูกตัวที่สองให้เป็นของคนเลี้ยง

หากจะขายก็หาคนทำบุญไถ่ ต่อไปอีกจากเครื่อข่าย แต่ห้ามนำไปโรงฆ่าสัตว์

เราคนไทยต้องช่วยกัน รับรองว่าไม่มีอะไรทำไม่ได้ หากทุกคนร่วมมือกัทำความดีเพื่อพ่อ

ระบบวิน-วิน คือการสานประโยชน์ร่วม หรือมุ่งผลประโยชน์ส่วนรวม

ทุกอย่างมีทางออกและซึมไปให้เหมือนน้ำ

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม และกลไกของตลาด เศรษฐกิจและสังคม ถึงเวลาก็ต้องมีเกิดแก่เจ็บตาย เมื่อไม่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือไม่ได้สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก็ต้องหาสิ่งอื่นใดมาทดแทน สิ่งใดมีมากหรือน้อยเกินไปจะจักเกิดเป็น ปัญหา แขนขาที่ติดเชื้อร้ายอาจต้องทำลายเสีย อย่าว่าแต่สัตว์ที่ถูกฆ่า ล่า หรือทำลายเลย เพราะแม้แต่ชีวิตมนุษย์ที่จัดว่าอยู่เหนือสัตว์อื่นทั้งหลายก็ยังไม่พ้นการถูกฆ่า ถูกทำร้าย ฯลฯ ถึงกะนั้นก็อย่าไปคิดมากเลยครับคุณทำดีอยู่แล้ว...ผมชื่นชมในสิ่งที่คุณทำ...ด้วยความคิดและจิตใจของคุณ หวังว่าคงจักได้ทำประโยชน์ให้แก่สังคมมากมาย...

ร่วมแสดงความคิดเห็น และนำเสนอข้อมูล

การสร้างบุญบารมีเป็นสิ่งที่มนุษย์สามารถทำได้ และการสร้างบุญบารมีด้วยความประณีตก็ย่อมได้รับผลที่ประณีต ถ้าเราประณีตในการไถ่ชีวิตโค กระบือ ไม่เพียงแต่เราจะได้สร้างบุญจากไถ่ชีวิตเท่านั้น เรายังได้สร้างบารมีจากการได้ช่วยเหลือเกษตรกร ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ให้มีชีวิตความเป็นอยูที่ดีขึ้น

หากเราสร้างบุญแต่สร้างปัญหาตามมาภายหลัง เช่น

-นำโคไปถวายวัด แล้วสุดท้ายพระต้องเป็นผู้มาเดินเลี้ยงวัว เพราะปล่อยตามธรรมชาติไม่ได้

-นำโคไปปล่อยวัด แล้วพื้นที่ไม่พอเลี้ยงอาหารไม่พอ พระต้องไปหาอาหารมาเลี้ยง

-ผู้รับบริจาคไม่เคยเลี้ยงวัวเลย แต่ได้รับไปเพราะอยากได้ สุดท้าย...

-ตัววัวมีปัญหา เป็นหมัน ติดโรค ดุร้าย เป็นต้น

จากข้อมูลปัญหาที่เคยมีมาก็เป็นเรื่องดีที่จะทำให้เราสร้างบุญจากการไถ่ชีวิตโค ด้วยความประณีต และได้สร้างบารมีในเวลาเดียวกัน

ขอบคุณครับ

ที่เข้ามาสนับสนุน ว่า

ทำบุญแล้วได้ผลออกเป็นคล้ายกับ "บาป" นั้นเป็นอย่างไร

เราจะได้หาทางเลี่ยงได้บ้างครับ

  • ความรู้ใหม่จริงๆ 
  • เพราะชีวิต คือ ชีวิต ยังไงก็ต้องตายวันยังค่ำ 
  • ดูกันให้ดีๆ ได้บทเรียนสำหรับตัวเองเหมือนกันครับ 
  • ขอบคุณครับ 

ตามความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ

การปล่อยชิวิต โคกระบือ อย่างไรเสียก็ได้บุญแน่นอน 100% ครับ แต่หลังจากกนั้นโคกระบือที่เราปล่อยจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร เป็นวิบากกรรมของสัตว์เหล่านั้น เราไม่เกี่ยว เพียงแต่ถ้าเราเลือกที่ปล่อย วิธีปล่อย เราก็จะได้บุญมากขึ้น

การปล่อยในวัด ไม่ได้อยู่ในสถานที่ๆควรปล่อย วัดเป็นที่สำหรับสงฆ์ครับ อันนี้ปล่อยผิดที่ เลยมีปัญหาตามมา บาปตั้งแต่เอาไปให้พระแล้วครับ ในพระไตรปิฏกก็บัญญัติไม่ใช้สงฆ์เป็นเจ้าของสัตว์ที่ยังมีชีวิต ลองหาดูในเวปพลังจิต หรือเวปศาสนาดูนะครับ เราได้บุญตอนไปซื้อชิวิตจากโรงฆ่า แต่ได้บาปตอนเอาไปทิ้งที่วัด

การให้แก่เกษตรกรไปเลี้ยง ชีวิตของสัตว์ตัวนั้นถึงฆาตไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ปล่อยจนถึงวันที่มีปัญหากับผู้เลี้ยง นั่นคืออายุเขาที่เราต่อให้ เราได้แล้วครับ ถ้าเขาเอาไปโรงฆ่า เราไม่บาปครับไม่เกี่ยวกับเราเพราะเราไปกำหนดกรรมใครไม่ได้ กรรมมุนา วัตตตีโลโกครับ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

ปล่อยเต่า แล้วเต่าตาย ไม่เกี่ยวกับเรา ถ้าเราเอาไปปล่อยยังที่อยู่เขา ปล่อยเตานาไปลงน้ำ อันนี้จมน้ำตาย อันนี้อาจมีบาป

ก้อนกรวดตกน้ำ น้ำย่อมกระเพื่อม

ปาหินลงน้ำ น้ำแตกกระจาย

ทองแท่งหลุดมือร่วงลงน้ำ ไม่ตั้งใจให้ตกน้ำ

ถามว่าน้ำกระเด็นไหม กระเพื่อมไหม...

ทำบุญ อย่างไรเสียต้องได้บุญ แต่มากน้อยแค่ไหน

อยู่ที่รายละเอียดของแต่ละคนครับ

ดีมากเลยครับที่มาอธิบายแบบกลางๆ แบบนี้

เป็นการสร้างสมดุลย์ทาความคิดได้ดีมากทีเดียว

ขอบคุณครับ

ผมขอชื่นชมความคิดดี ๆ ทุกความคิด ความรู้ใหม่ๆ ที่นำมาแรกเปลี่ยนกัน ทุกท่านมีใจงามจริงๆ ขอผลบุญให้ทุกท่านมีความสำเร็จในหน้าที่การงาน และเจริญยิ่งๆ ขึ้นไปเทอญ

ทุกอย่างย่อมมีเกิดแก่ เจ็บตายเป็นของธรรมดาจะช้าหรือเร็ว หรือต่างกันอย่างไรนั้นไม่สำคัญ

หากใจเราคิดดี และทำดีแล้ว ก็ย่อมได้ชื่อว่า ทำกรรมดี ครับ

ผมเกรงเราจะหลงทางกันนะครับ

ผมก็เชื่ออย่างนั้น

และทำทุกอย่าง "รู้เท่าทัน" น่าจะดีกว่านะครับ

วัตถุประสงค์ของการไถ่ชีวิตโคกระบือคืออะไร...เพื่อให้ชีวิตแก่สัตว์เหล่านั้นใช่หรือไม่ครับ...หากใช่ สิ่งที่ตามมานั้นเป็นเพียงวัตถุประสงค์รองครับ...

แต่หากการให้ชีวิตแก่โคกระบือของท่านเป็นเพียงวัตถุประสงค์รอง...การไถ่ชีวิตให้เขาในครั้งนี้ก็เป็นเพียงการยืดอายุให้แก่เขาครับ...ใจท่านเท่านั้นครับที่จะบอกท่านได้ดีกว่าคนอื่น ๆ ครับ...คือ "รู้เท่าทัน...การกระทำของท่านครับ"

ครับ

กรรมเป็นเครื่องส่อเจตนาครับ

สำคัญที่เจตนาด้วยครับ

ที่ว่าบุญหรือบาป

แม้แต่ศาลในโลกมนุษย์ก็ยังพิจาณาโทษต่างกันเลยครับ

บิ๊ก ลูกพ่อกรมหลวงครับ

การบำเพ็ญอยู่ที่ใจครับ แค่คิดดีทำดี ผลที่ตามมาเป็นอย่างไรก็ได้บุญแล้วครับ ไม่ต้องห่วงครับ อย่างน้อยกุศลที่ได้คือการต่ออายุให้สัตว์เหล่านั้นครับเพราะอย่างไรแล้ว วันใดเขาก็ต้องไปไม่ว่าด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งแต่การทึ่ช่วยเขาจากตรงนั้นให้มีอายุต่อไปบุญตรงนั้นมหาศาลมากครับดีค่าไม่ได้ ถ้าไม่ว่ากันขอแนะนำว่าหาคนเลี้ยงเองหรือหาที่ไว้เลี้ยงปล่อยให้เขาอยู่ตามสบายก็ดีครับ

ผมว่า เราต้องอุเบกขาบ้างครับ

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมครับ

ช่วยวัว-ควาย จากการถูกฆ่า

เป็นบุญมากครับ

ยิ่งละเว้นการสนับสนุนให้มีการฆ่า โดยการไม่บริโภคเนื้อโค - กระบือ จะเป็นกุศล

จะหยุดการเบียดเบียนได้มาก

ข้อ ๑ ของศีล ๕ เลยครับ

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 53 ที่ผ่านมา วัดสกุณาราม (นก) ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ได้เปิดโครงการไถ่ชีวิตโคกระบือ จากโรงฆ่าสัตว์ ตามโครงการพระราชดำริ โครงการเปิดไถ่ชีวิตโคกระบือ จนถึง 3 ม.ค. 54 ขอเชิญท่านที่สนใจร่วมเป็นเจ้าภาพ 0879017845

อ้าว ทำไมเป็นอย่างนี้หล่ะค่ะ รู้สึกแหย่และเศร้าใจมากเลยค่ะ ทางโครงการน่าจะมีระบบการจัดการที่ดี ในการคัดเลือกเกษตรที่ต้องการเลี้ยงวัวจริงๆๆ จำเป็นด้วยเหรอค่ะ ที่จะต้องได้วัวที่สมบูรณ์มาใช้ในการทำงาน ควรที่จะมีการตั้งกฏ หรือ ดืมน้ำสาบานว่าผมจะเอาวัวไปเพื่อใช้ในการทำงานเท่านั้น ไม่ใช่เอาไปเพื่อนหวังที่จะนำมาขาย เศร้าใจจัง!!!!

ขอให้ท่านทั้งหลาย ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราดูบ้างว่า หากเราอยู่ในสถานการณ์ที่กำลังจะถูกฆ่า แล้วมีผู้มาช่วยชีวิตเราให้รอดพ้น ต่อมาวันหนึ่ง อย่างไม่คาดคิด ผู้ที่รับเรามาเลี้ยงดูไว้ ก็ขายเราเข้าตลาดนัด หรือโรงฆ่าสัตว์อีกครั้ง

มันเป็นความรู้สึกที่อกสั่นขวัญหายที่เลวร้ายที่สุด ที่ต้องมาเจอเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวนี้ถึง 2 ครั้ง หากเขาเหล่านั้นพูดได้เขาจะพูดว่าอย่างไร? และท่านกล้าพอที่จะฟังเขาพูดไหม? หากเขาบอกเราได้ให้เข้าใจความรู้สึก ขณะที่ถูกกวาดต้อนออกจากคอกหรือท้องทุ่งขึ้นรถบรรทุกไปสู่ตลาดนัด และถูกซื้อไปรอการฆ่าในโรงฆ่าสัตว์ เมื่อยังไม่ถึงคิวฆ่า ต้องยืนดูเพื่อนในฝูงถูกเชือดไปต่อหน้าทุกๆวัน จนกว่าจะถึงคิวของตัวเอง มันทรมาน เจ็บปวด หดหู่ และหวาดกลัวเพียงใด สัตว์เหล่านี้ถูกฆ่าในรูปแบบและวิธีการต่างๆ ตามแต่โรงฆ่าไหนจะถนัดใช้วิธีการอย่างไร ซึ่งเป็นการทารุณสัตว์เป็นอันมาก การควบคุม ดูแลหรือจิตสำนึก ในการนึกถึงชีวิตและจิตใจของสัตว์ในบ้านเมืองเราแทบไม่ปรากฏ โดยเฉพาะจากองค์กรของรัฐที่ควบคุมอยู่โดยตรง จะมีบ้างเป็นส่วนน้อยที่เป็นองค์กรเอกชน เช่น สมาคมพิทักษ์สัตว์ไทยที่รณรงค์เรื่องนี้อยู่ ก็ยังไม่ได้รับการตอบสนองจากภาครัฐและประชาชนเท่าที่ควร เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ยังสามารถเรียกได้ไหมว่า คือการไถ่ชีวิตโคกระบือ

เมื่อเรามองเห็นรถบรรทุกวัว-ควายวิ่งอยู่บนถนน จะมีใครบ้างไหมที่รู้ว่า จิตใจของพวกเขามีสภาพเป็นเช่นใด ขณะต้องมาขึ้นรถ ยืนเบียดเสียด ตากแดด หิวน้ำ ทนทรมานปวดเมื่อยนับ 10 ชั่วโมง เมื่อถึงจุดปลายทางก็ต้องถูกทุบตี ไล่ต้อนลงจากรถแบบไม่ปราณี บางตัวขาหน้าหักขณะโดดลงจากรถ ลูกควายบางตัวพลัดจากแม่ในตลาดนัด เพราะเขาขายแม่เจ้าไปเสียแล้ว แม่รักลูกสักเพียงใดก็ต้องจำก้มหน้าเดินตามเขาไป เพราะทนต่อการทุบตีไม่ไหว ส่วนเจ้าควายตัวน้อย วิ่งร้องหาแม่จ้าละหวั่น น้ำตานองหน้าด้วยความเสียขัญตกใจกลัว ก็ต้องถูกมัดรอผู้มาซื้อ เพื่อไปเป็น วัวหัน บางตัวเป็นแม่ควายท้องแก่ ถูกเชือดทั้งที่ท้องแก่ (ส่วนลูกในท้องถูกนำไปปรุงเป็นอาหาร เรียกว่า ควายน้อยนึ่ง

ท่านทั้งหลาย เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เพื่อขอความเมตตาจากสัตว์ผู้ยากเหล่านี้ ดังสนั่นหวั่นไหวอยู่ทุกเวลานาที มันเป็นเสียงที่ดังกึกก้องไปทุกอณูของอากาศ แต่จะมีบางคนเท่านั้นที่ได้ยิน เพราะมันดังอยู่ในความเงียบที่มีกระแสของความเมตตาโอบอุ้มอยู่ ไม่ว่าจะดังสักเพียงใด หากจิตดวงนั้นไม่มีพลังของความการุณย์ก็จะไม่มีโอกาศได้ยินเสียงเหล่านี้ได้ เลย

นั่นนะซิครับ เราจะทำอย่างไรกันดี

อยากไถ่ชีวิตโค กระบือมาก จะทำอย่างไรดี ทุกครั้งที่เห็นรถขนวัว ควาย หมู ไก่ นึกสงสารมาก อยากให้ทุกคนมีจิตเมตตาสัตว์ บริโภคเนื้อสัตว์เท่าที่จำเป็น บริโภคแหล่งโปรตีนแหล่งอื่นๆบ้างน่าจะทำให้มีสุขภาพที่ดีกว่าด้วย เราต้องหัดแยกแยะ และหักห้ามใจบ้าง ต้องเคารพสิทธิของการมีชีวิตอยู่ของผู้อื่นบ้าง คนเราชอบทำตัวตามกระแสไม่มีจุดยืนของตัวเอง นั่นเป็นเพราะระบบการศึกษาของเรายังไม่มีการสอนสิ่งเหล่านี้ ทุกวันนี้สังคมเลยยุ่งเหยิงเพราะเราวิ่งตามคนอื่นอยู่ วิ่งตามกระแสสังคมวัตถุนิยม ก็เลยต้องขายวัว ขายควายเพื่อตอบสนองความต้องการที่ไม่สิ้นสุด

ตราบใดที่การถวายเนื้อสัตว์ให้พระฉัน เป็นการทำบุญแล้ว ผมว่าอีกนานเลยครับ

ผมไม่ทราบว่าเมื่อไหร่เราจะเริ่มคิดจริงจังกับเรื่องนี้ครับ

ขออนุโมทนาบุญค่ะ สาธุ

ดร.ได้ทำในเจตนาตัวเองที่เป็นกุศล บุญส่งผลอยู่แล้วค่ะ เพราะจิตคิดดี ต้องการให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ค่ะ

ส่วนสัตว์ที่ต้องโดนส่งขาย หรือถูกฆ่านั้นเป็นวิบากกรรมที่ตามมาค่ะ อย่าคิดมากค่ะ ต้องรู้เท่าทัน

ถ้าจะช่วยในโครงการพระราชดำริไถ่ชีวิตโค-กระบือก็ได้ค่ะ

อนุโมทนาบุญอีกครั้งค่ะ

สุ

คิดอย่างนี้ก็สบายใจดีครับ

ขอบคุณครับ

ถ้าบาปบุญมีจริง การไม่กินเนื้อสัตว์ถือว่าเราได้ทำบุญแล้วครับ ปัจจุบันผมกินเนื้อสัตว้น้อยลง (ไม่อยากบอกว่าไม่กินเลย ) รู้สึกร่างกายดีขึ้นมากกว่าเดิม ผมคิดว่าการที่คนเราเป็นโรคต่างๆนั้นเกิดจากเรากินเนื้อเขา กรรมนั้นเลยตามมา....แต่อาหารเจราคาแพงผมก็หันไปกินอย่างอื่นเช่นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใส่ไข่และผักทุกวัน ช่วงแรกๆก็ไม่อิ่มท้องนานเข้าก็ปรกติ อยู่ที่การฝึกให้เคยชินครับ

ฝรั่งเขายังกินขนมปังกับเนยก็อยู่ได้แล้ว นานๆเขาถึงจะกินเนื้อสัตว์ซักครั้งแต่ส่วนมากจะผสมอย่างอื่นจะไม่ให้เห็นเป็นตัวๆหรืออวัยวะชองสัตว์ต่างๆ เช่น บาโลน่า,เบคอน...แต่เขาจะกินอาหารเสริมประจำเป็นรูปตัวยาทำให้ช่วยเหลือสัตว์ได้เยอะ แต่เขาจะสมองดีมากเลยคิดค้นอะไรได้หมดเช่นระบบ software บางคนรวยเอาๆๆ นี่คือบุญหรือไม่ครับ ปัจจุบันผมจะกินปลาและสัตว์เล็กๆเท่านั้น

ผมแนะนำน่าจะมีหน่วยงานเอกชนหรือผู้ใจบุญ ไถ่ชีวิตเขามาแล้วมีสถานที่สำหรับเลี้ยงรวมทั้งการว่าจ้างคนเลี้ยงและระบบอาหารสัตว์ คือทุกอย่างใช้เงินหมด....และก็ปล่อยให้เขาตายเองตามธรรมชาติเท่านั้น แต่ระบบการเงินต้องอาศัยการบริจาคและมีระบบจัดการที่ดีครับ....สงสารเพื่อนร่วมโลกครับ เรากินเขามาตั้งแต่ใหนแต่ไรแล้วหยุดเถอะ....ถ้าการทำบุญในวิธีการต่างๆที่มนุษย์เราได้ทำมานมนานและบอกตัวเองว่าได้ทำบุญแล้ว การทำบุญที่เห็นแจ้งและชัดเจนที่สุดคือการให้ชีวิตครับ และไม่ต้องรอว่าจะได้บุญชาติใหนๆหรือมากน้อยอย่างไร มันไม่ชัดเจนแต่การทำบุญก็ทำให้ศาสนาอยู่ได้เท่านั้น....ลองมาทำบุญการให้ชีวิตสัตว์เถอะครับ

ผมว่าเจตนาของอาจารย์ดีนะครับ แม้จะไม่บรรลุวัตถุประสงค์ปลายทางก็ตาม ตัวแปรหลักก็คือเกษตรกรที่รับ โค-กระบือไปดูแล ซึ่งเขาเองก็มีช่องทางในการนำ โค-กระบือไปใช้งานอยู่แล้ว และสุดท้ายไม่ว่าจะอย่างไร ก็ต้องส่งเข้าโรงเชือดอยู่ดี เราช่วยได้แค่ยืดเวลาออกไปนั่นก็ถือว่าได้บุญตามเจตนาเราแล้วล่ะครับ เหมือนการปล่อยนก ปล่อยปลา ถ้าเราตามไปดูในทุกขั้นตอนหลังจากปล่อย ใจเราก็คงจะทุกข์ไม่ใช่น้อย  สัตว์โลกเป็นไปตามกรรมครับ ยังไงก็ขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์ด้วยครับ

อ่านแล้วน่าสงสารจังเลย เคยได้ยินมาว่าชาวบ้านบางคนที่รับไปเลี้ยง เลี้ยงไว้สักพักเขาก็เอาไปฆ่ากินเองก็มีแล้วแจ้งว่าป่วยตาย

ครับ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ครับ

นี่น่าจะเป็นทางแห่ง "อุเบกขา" ครับ

คิดดีแล้วทำเลยดีแล้วครับอย่าเสียความรู้สึกไปเลย

ผมก็อยากทำแต่ก็สงสัยอยู่พอดีว่าไถ่แล้วจะเอาไปไหน

จะเป็นแค่ยืดชีวิตโคมากกว่าไม่

" ไถ่ชีวิตโคมา 8 ตัว   ไม่รู้จะใว้ที่ไหน ที่เขาจะปลอดภัย ไม่ถูกวนเวียนกลับนำไปเข้าโรงฆ่าอีก  เป็นวัวใหญ่ และ  วัว แม่ ลูกอ่อน 3 ตัว ตอนนี้คลอดลูกอ่อนมาอีก  1 ตัว  เพิ่งคลอดประมาณ 20 พค 54   ขณะนี้รวม  11 ตัว  และ นำไปใว้ที่วัดพุพง จังหวัดกาญ  ทีแรกทางท่านเจ้าอาวาสก็บอกว่า ให้นำมาใว้ที่วัดหมดได้เลย อาตมาจะสร้างคอกให้    แต่ เมื่อจะสร้างท่านก็ให้เราช่วยจ่ายค่าวัสดุ และ ค่าสร้าง     ทางเราก็หมดงบไปกับการไถ่โค 8  ตัว แล้ว  และ ค่าสร้างรั้วลวดหนามรอบสนามหญ้าประมาณ 10 ไร่ให้ทางวัดอีก  เพื่อกันไม่ให้วัวออกนอกบริเวณวัด    ตอนนี้ก็เหลือหลังคา จึงอยากขอเชิญชวนผู้ใจบุญ และ มีนำใจสงสารสัตว์ มาช่วยกัน  สร้างคอกและหลังคากันแดด กัน ฝน ให้วัวทั้ง 11 ตัว โดยเฉพาะ วัว แม่ ลูกอ่อน และ ลูกน้อย ที่เพิ่งจะเกิดมาลืมตาดูโลกได้ไม่กี่วัน  หากโดนฝนแรงๆ กระหนำ ทั้งกลางวัน กลางคืน ก็ไม่รู้ว่าจะทนอยู่ได้ตลอดฤดูฝนนี้หรือเปล่า      วัวน้อยจะเป็นวัวมีบุญได้มาเกิดในวัด หรือ จะ เป็น วัวเคราะห์ร้ายที่มาถูกฝนกระหนํา ทรมานตายที่วัดก็ยังไม่รู้

 ดูรูปวัวและวัด ได้ ที่     http://www.sweetsingles.com/help/cow1.html     

 ร่วมบุญบริจาคสร้างหลังคากันแดดฝนและให้ชีวิตใหม่แก่แม่วัว และ ลูกอ่อนรวม  11 ชีวิต ติดต่อได้ ที่   โทร : 084 -1048686  ,  email : [email protected] 

หากเป็นหลังคามุงจากขนาด 6 x 12 m ประมาณ 3 หมื่นกว่า 

หากจำนวนเงินพอ ก็จะสร้างเป็นหลังคามุงกระเบื้อง ซึ่งแข็งแรงกว่า แต่ต้องใช้งบประมาณ  5 - 7 หมื่น บาท รวม วัสดุ  เหล็ก ปูนปูพื้น  กระเบื้อง........ และค่าแรง     

 

 

นี่แหละคือความจริง

นิทานเรื่องนี้ เพิ่งเริ่มครับ

ขนาดของผมก็ยังไม่จบครับ หลายปีมาแล้วครับ

ยังไม่รู้ว่าบุญหรือบาปเลยครับ

ไถ่ชีวิตตัวหนึ่ง อีกตัวหนึ่งก็ต้องมาตายแทน วันหนึ่งเขาฆ่าเท่าไรเขาก็ฆ่าเท่านั้น ไม่ได้ลดการฆ่าลงจากเดิม ถ้าต้องการไถ่ชีวิตจริงน่าจะลดการกินลง ก็จะลดการฆ่าได้ คิดอย่างนี้ถูกหรือผิดช่วยตอบที

คนผ่านมา อ่านแล้ว เศร้าใจ

เห็นด้วยกับ #461950 และอีกความคิดเห็นหนึ่งค่ะ ว่าวัตถุประสงค์หลักคืออะไร ทำแบบนี้น่าจะเป็นการเอาวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจจะไถ่ชีวิตโคกระบือไปเป็นวัตถุประสงค์รองมากกว่าค่ะ ถึงจะบอกว่าอุเบกขา แต่ว่าอ่านแล้ว ท่านก็ยังไม่ อุเบกขาซักเท่าไหร่ค่ะ

เห็นด้วยครับ

การไถ่ชีวิตคือการไม่บริโภคสิ่งที่ได้มาจากการลำลายชีวิต ถูกต้องตรงประเด็นครับ

และคงต้องเริ่มที่ตัวเราครับ

ใครที่คิดจะไถ่ชีวิต แต่ยังบริโภคผลที่ได้จากการทำลายชีวิตอยู่ ก็ไม่ต่างจากคำพังเพย

"เกลียดตัวกินไข่" นะครับ

ช่วยชีวิตสัตว์ให้มีชีวิตรอดเพียงแค่ 1 วินาทีก็ได้บุญมหาศาลแล้วค่ะ ทำบุญไปแล้ว ได้บุญมากแล้วอย่าไปคิดมาก

ผมต้องการอยากทราบว่า ถ้าผมไปไถ่ชีวิตโค ที่ โรงฆ่าสัตว์ปทุมธานี ผมจะสามารถนำ วัวตัวที่ผมไถ่ชีวิตแล้ว กลับมาเลี้ยงดูแลเองได้ไหมครับ ( ไม่มีเจตนาใดทั้งสิน แค่อยากเอามาเลี้ยงดูแลเอง ) เนื่องจากกัวว่าถ้าเกิดบริจาคไปแล้ว เค้าเลี้ยงจิง ต่อมานานๆ เค้านำมาโรงฆ่าสัตว์อีก มันจะไม่มีดี เพราะผมไม่สามารถติดตามวัวตัวที่ ไถ่ออกมาว่าอยู่ไหน จะไม่โดนฆ่าอีก ผมจิงอยากนำมาเลี้ยงดูแลเอง อ่ะครับ

สามารถทำได้หรือไม่ ถ้าทำได้ ต้องทำอย่างไรบ้าง และ มีที่ไหน ใกล้ๆ กทม. ที่สามารถ ไถ่ชีวืตได้ครับ

ได้ครับ

ถ้าท่านมีที่ มีอาหาร มีเวลา และมีความรู้ในการดูแลสัตว์ และพร้อมที่จะรับกรรมอันเกิดจากการเลี้ยงสัตว์ ที่ไม่มีวันหยุด 365 วัน ไปไหนไม่ได้

ไปก็ต้องวางแผนเตรียมการล่วงหน้า หาคนมาดูแลแทน

โรงงานฆ่าสัตว์มีทั่วประเทศ ค้นในอินเตอร์เน็ตได้ครับ

ดังที่ว่า  โรงฆ่าสัตว์  ฆ่าสัตว์ตาม ใบสั่ง  หรือ  ตามความต้องการของผู้บริโภค  เราไปไถ่มา เขาก็ก็ต้องหาตัวอื่นมาแทน  ตัวที่ไถ่ก็รอดอีกตัวก็ตาย   ถ้าเราอยากไถ่ ชีวิตเขาจริงเราก็ต้องเริ่มที่ตัวเราเองก่อน  คือลดการกินเนื้อสัตว์  หรือไม่กินเลย   และชวนคนอื่นทำด้วย   คนไทยมี  60  ล้านคน  ลดการกินคนละนิด คนละหน่อย  จากโรงฆ่าสัตว์  จาก10  ตัว  ก็จะลดลง   10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 0   นี้แหละ ผม คิด ว่า คือการไถ่ชีวิตที่แท้จริง  

ดังที่ว่า  โรงฆ่าสัตว์  ฆ่าสัตว์ตาม ใบสั่ง  หรือ  ตามความต้องการของผู้บริโภค  เราไปไถ่มา เขาก็ก็ต้องหาตัวอื่นมาแทน  ตัวที่ไถ่ก็รอดอีกตัวก็ตาย   ถ้าเราอยากไถ่ ชีวิตเขาจริงเราก็ต้องเริ่มที่ตัวเราเองก่อน  คือลดการกินเนื้อสัตว์  หรือไม่กินเลย   และชวนคนอื่นทำด้วย   คนไทยมี  60  ล้านคน  ลดการกินคนละนิด คนละหน่อย  จากโรงฆ่าสัตว์  จาก10  ตัว  ก็จะลดลง   10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 0   นี้แหละ ผม คิด ว่า คือการไถ่ชีวิตที่แท้จริง      [email protected]

กว่า 4 ปี ที่ผ่านมาแล้วครับที่ผมเคยแสดงความคิดเห็นและข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ วันนี้ขออนุญาตอาจารย์เล่าเรื่องราวในช่วงที่ผ่านมา เป็นประสบการณ์แบ่งปันท่านที่สนใจครับ ผมได้รับการติดต่อจากผู้ใจบุญหลายท่านเพื่อขอคำแนะนำว่าจะไถ่ชีวิตโคกระบือได้อย่างไรบ้าง บางท่านก็ได้ดำเนินการไปแล้ว บางท่านรอการติดต่อประสานงาน รูปแบบก็คือ 

1 ผู้ต้องการไถ่ชีวิตโค

2 เกษตรกรที่ต้องการขายโค 

3 ผู้รับโคไถ่ชีวิตไปเลี้ยงต่อ

4 ผู้ประสานงานให้ 1,2และ3 ได้พบกัน เจรจากัน และคัดเลือกโค (ผมทำหน้าที่นี้ครับ) ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

โดยทั้งหมดมีข้อตกลงร่วมกัน ตรงตามความประสงค์ของทุกฝ่าย เป้าหมายก็เพื่อให้การสร้างกุศลครั้งนี้ทำด้วยความประณีต รอบครอบ ไม่ให้เกิดปัญหาได้ในภายหลังหรือเกิดน้อยที่สุด 

จากที่ดำเนินการผ่านมาใช้เวลามากบ้าง น้อยบ้าง ตามสภาวะแวดล้อม เช่นช่วงนี้ ราคาโคในตลาดจะค่อนข้างสูง แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคมาก เพราะยังพอมีเกษตรกรเลี้ยงโค ที่ต้องการขายโคให้ไปเลี้ยงต่อจริงๆ แถมใจบุญยอมขายในราคาไม่สูง อาจสงสัยว่าแล้วขายทำไม ผมตอบได้เพราะว่า เกษตรกรที่ขายโคขายตามความจำเป็น 

- บางรายมีความสามารถเลี้ยงได้ไม่มาก เมื่อมีลูกโคเกิดมา พอโตขึ้นจำต้องคัดขายออกเพื่อรักษาสมดุลให้เลี้ยงได้ต่อไป 

- บางรายขายด้วยจำเป็นเรื่องเงิน แต่ก็ไม่ต้องการขายให้เอาไปฆ่า

โดยส่วนใหญ่เกษตรกรเลี้ยงโค กลุ่มที่ได้รับการติดต่อจะเป็นผู้เลี้ยงโคเพื่อเป็นกระปุกออมสินประจำบ้าน ไม่ใช่เพื่อการค้า ผู้ต้องการไถ่ชีวิตจะได้พบกับเกษตรกรโดยตรง ไม่ผ่านคนกลาง มีแค่ผู้ประสานงานแนะนำให้รู้จักกัน เพื่อนใหม่ต่างวงการ อาชีพได้พบกัน และเมื่อรู้ว่าผู้ซื้อต้องการนำไปไถ่ชีวิตด้วยเกษตรกรส่วนใหญ่จะยินดีมาก

ผู้ไถ่ชีวิตโคได้สร้างบุญใหญ่ เกษตรกรขายโคด้วยความสุขใจ ผู้รับโคไปได้ทุนสร้างชีวิต และผู้ประสานได้ใช้ความรู้ประสบการณ์ทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น

หลักสำคัญของการสร้างกุศลครั้งนี้ ทุกขั้นตอน ทุกฝ่าย ทุกท่านต้องปราศจากเรื่องติดขัดข้องใจ ไม่สบายใจ ไม่มีการบังคับ ไร้ข้อสงสัยทุกประการ

สิ่งที่ทำนี้ด้วยความสบายใจครับ เพราะผมเป็นคนหนึ่งตั้งแต่เกิดมา เรียน จบการศึกษาได้ เพราะที่บ้านเคยเลี้ยงโคเป็นกระปุกออมสิน ค่าเทอม ค่าหนังสือ ค่าอุปกรณ์ ค่าใช้จ่ายรายเดือน มาจากพวกเขา จนทำให้ผมมีทุกวันนี้ เสียดายที่บ้านปัจจุบันไม่ได้เลี้ยงแล้ว แต่ยังระลึกสิ่งที่ผมได้รับจากพวกเขาตลอดมา จึงเป็นแรงจูงใจให้คิดและทำ ดังที่กล่าว ขอบคุณอาจารย์มากครับ

อ่านตั้งแต่ต้น คิดตามหลายความเห็น แต่ก็คิดว่ายังไงแค่เราคิดดี ก็เป็นสิ่งดีละค่ะ คิดที่จะไถ่ชีวิตโค กระบือ เลิกบริโภค อย่างน้อยๆเราก็ได้ทำ แต่อ่านไปอ่านมาก็สับสนเป็นห่วงตอนที่เราบริจาคไปแล้ว เลยไม่รู้ว่า จะไถ่ด้วยวิธีไหน แต่ก็ยังอยากจะทำบุญ ไม่ทราบว่าในชลบุรีสามารถไถ่ชีวิตโคกระบือได้ที่ไหนคะ แนะนำหน่อยนะคะ   

แง่คิดดีๆที่มีข้อลบ

เห็นบ้างวัด..ประกาศบอกบุญทุกหน้าเดือนทุกเทศกาล. แล้ววัวที่ถูกไถ่ไม่รู้กี่ตัว ตัวหนึ่งก็แพงตัวเป็นหมื่นสองหมื่น แล้วนำไปไหนให้ศรัทธาเลี้ยงหรือขายต่อเป็นพุทธพาณิชย์เป็นผลประโยนช์เป็นหลังสัตว์

เมื่อคุณคิดจะช่วยชีวิตสัตว์คุณได้บุญไปครึ่งแล้ว แต่เหตุที่เกิดที่หลังเป้นวิบากกรราของสัตว์อย่าทำจิตให้เศร้าหมองเลยคุณจะได้ ได้บุญ100%

เรามีความตั้งใจที่จะทำบุญแล้วคุณไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะแค่ให้เขาออกจากตรงนั้นเขาก็ทราบซึงในการทำบุญของเราแล้วหลังจากนั้นใครอยากจะทำกรรมก็ให้้คนนั้นรับกรรมไปแล้วกัน

กฤตณันทกาญจน์ ศรึกุตา

การที่เรามีจิต เมตตา ถือเป็นอันสูงของชีวิต ชีวิตทุกชีวิตเกิดมาไม่อยากถูกทรมาน หรือ โดนฆ่า อย่างไร้ความหมาย สิ่งที่ต้องการเพียงเเค่สิ่งเล็กๆน้อย การได้รับความรักจากเพื่อนร่วมด้วยกัน

ผมเคยได้ยินเหมือนกันเรื่องการไถ่ชีวิตโคกระบือ แรกๆผมก้อเห็นด้วยนะ แต่พอรู้ขบวนการหลังจากไถ่ชีวิตวัวมาแล้ว บอกตรงๆว่า เริ่มไม่สนับสนุนละ คล้ายๆกระบวนการขายนกขายปลาตามวัดเพื่อปล่อย ผมมองแล้วตลกนะครับ เหมือนเอาเงินซื้อบุญยังไงยังงั้นเลย ส่วนเรื่องโค เป็นสัตว์ใหญ่ ทำบุญแล้วได้บุญเยอะ พวกท่านเชื่อกันหรอคับ หรือบาปมากบุญมากเค้าวัดกันที่ขนาดของตัวสัตว์ แล้วสัตว์ตัวเล็กๆ พวกมด แมลงสาป ที่เราๆท่านๆฆ่าโดยไม่รู้สึกอะไร สัตว์พวกนี้เค้าไม่รักตัวกลัวตายเหมือนกับสัตว์ใหญ่หรอคับ ตรรกะมันผิดนะคับผมว่า เพราะคนเรามักเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ใช้ตัวเราเป็นจุดวัดทุกสิ่งอย่างรอบๆตัว เลยทำให้ความคิดเรื่องบุญบาปผิดๆเพี้ยนๆ ไม่ใช่ว่าทำบุญไม่ดีนะครับ แต้องดูกำลัง และดูผลลัพธ์ด้วย เพราะการกระทำทุกอย่าง ไม่ว่าดีหรือไม่ดี มันเหมือนโดมิโน ถ้าตัวที่ 1 ล้มตัวลงไป ตัวถัดไปก้อจะได้รับผลการล้มของตัวแรก ส่วนตัวต่อๆไปก้อจะได้รับผลแบบนั้นต่อไปเรื่องๆไม่มีที่สิ้นสุด ยากที่เราจะคาดเดาได้ นั้นเพราะเป็นเรื่องของกรรม ที่คนธรรมดาอย่างเรา ไม่ควรสืบสาว หรือเอามายึดติดกับชีวิตให้มันมากไป เพราะเป็นเหตุของความเพี้ยนได้ การที่เราทำบุญโดยการไถ่ชิวิตสัตว์ที่คนไทยนิยมทำๆกับ มันก้อคล้ายๆกับ การที่เราไปขัดขว้างกระบวนการกรรมนั้นๆ หรือเปลี่ยนทิศทางการล้มของโดมิโน ท่านไม่รู้ตัวหรอกว่า ท่านได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการกรรมนั้นๆ ที่ท่านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลย และสร้างโดมิโนกรรมชุดใหม่ โดยที่ท่านเป็นโดมิโนชิ้นแรกที่ล้มทับโดมิโนตัวที่ท่านช่วยเอาไว้ คำถามคือ โดมิโนตัวก่อนหน้าที่จะล้มใส่โดมิโนตัวที่ท่านช่วยไว้ เค้าจะว่ายังไง?กับการเข้ามาแทรกแทงกระบวนการเก่าของเค้า อันนี้ผมก้อคาใจเหมือนกันครับ แต่ผมมีความคิด 2 ทางคับ คือหนึ่ง เกิดความไม่พอใจแก่เจ้ากรรมนายเวรของเค้า เพราะเราไม่รู้ว่าสิ่งที่เราช่วยอยู่ เค้ามีเวรกรรมอะไรติดตัวมา เปรียบเสมือน พี่ กับน้อง สมมุติน้องโดนฆ่าตายโดน บุคคลๆหนึ่ง จนเกิดความแค้น ออกตามล่าบุคคลนั้น ต่อมาบุคลลนั้นหนีมาเรา ซึ่งเราไม่รู้หรอกว่าเค้าทำอะไรมา แต่เราก้อช่วยไว้ ด้วยความสงสาร เมือพี่ของน้องที่โดยฆ่าตายตามมาเจอ กลับพบว่าเราได้ช่วยเหลือบุคคลทีเค้ากำลังล่าอยู่ความแค้นอาจจะมาตกที่เราก้อได้ กับ อย่างที่สอง เราอาจเป็นโดมิโนชิ้นต่อไปตั้งแต่แรกแล้วก้อได้ นั้นก้อคือ การที่ต้องช่วยชีวิตสัตว์ตัวนั้น รับภาระหน้าที่ เสียทรัพย์สินเผื่อให้ได้เค้ามา และจัดหาที่ทางให้เค้าดำเนินชีวิตต่อไปได้ ถึงกระนั้นไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ผมค่อนข้างเชื่อมั่นว่าทุกสิ่งอย่างรอบๆตัวเรา มีความสัมพันธ์กัน และมีการจัดวางทุกอย่างไว้แล้วตั้งแต่แรก ขับเคลื่อนด้วยพลังกรรมที่หนุนซึ่งกันและกัน ดุจเฟื่องชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ที่ประกอบเข้าด้วยกัน หลายๆตัว หมุน พลัก ดัน ไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด

*** หมายเหตุ อ้างจะไม่ถูกหลักธรรม หรือ ออกไปคนละแนว ก้อขออภัยด้วยนะครับ แต่นี้เป็นแนวคิดผมสำหรับเรื่องนี้

เห็นด้วยครับ ตามหลักพระอภิธรรมนั้น ชีวิตหนึ่งชีวิต มีความหมายเท่ากันครับ ไม่ว่าการเกิด การฆ่า หรือ การตาย

ขอบคุณมากครับ ที่มาให้ความเห็นครับ

ขอแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการช่วยชีวิตโคกระบือ คุณควรไปซื้อ ที่โรงฆ่าสัตว์ โดยคุณควรหาเกษตรกรตามต่างจังหวัดด้วยของคุณเอง ซื้อโคกระบือทำใบขนจากกรมปศุสัตว์ แล้วนำไปให้เกษตรกรด้วยตัวคุณเอง  ติดตามได้ตลอดเพราะคุณรู้แหล่งว่าให้กับใครโดยตรงไม่ต้องผ่านใคร เพราะ 1.ให้ธนาคารโคกระบือเจ้าหน้าที่ก็บอกขายราคาถูกกับชาวบ้าน 2.ซื้อที่โรงฆ่าสัตว์ปทุมก็จัดฉากเชื่อไม่ได้ 3.ไถ่จากวัด(บางวัด)ก็หลอกลวงจัดฉาก 4.ซื้อโคกระบือเองประมาณ3-6หมื่นไปมอบให้เกษตรกรด้วยตนเองถ้าซื้อจากปทุมถ้าส่งไปอีสานค่ารถ1-2หมื่น ค่าทำใบขนปศุสัตว์อีก เตรียมไว้อาจถึงหรือไม่ถึงแสน  แต่ถ้าทุนทรัพย์ไม่มากพอก็ทำกับวัดเถอะ ทำแล้วอย่าคิดมาก ทุกชีวิตมีเกิด ก็ต้องมีดับ ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆๆในโลกที่ไม่มีวันดับสูญ ทำใจให้สบายดีที่สุด ขอบคุณ

เห็นด้วยกับหลายๆคห.เลยครับ ผมทำมาหลายแบบ หยอดตู้ก็มี ตัวละ9,999.-ก็มี หรือย้ายจากคอกนี้ไปไว้คอกนั้น ถ้าไม่คิดอะไรมากก็ดีครับ เพราะถ้าระแวงก็คงไม่ได้บุญทำไปสูญเปล่า แต่ก็อย่างว่าละครับจะให้หลอกตัวเองแล้วสบายใจ หรือหลับหูหลับตาก็คงไม่ใช่ เพราะพุทธพาณิชย์ก็มีให้เห็นกันอยู่ เงินก็ไม่ได้หาง่ายๆถ้าไถ่ชีวิตไปเป็นหมื่นแล้ววนกลับมาผมก็เศร้านะครับ หลังๆนี้เน้นไปไถ่จากโรงฆ่าสัตว์เลยครับ ไถ่ออกมาซื้อออกมา จะเอาไปไหนก็ไป เป็นสิทธิ์ของเรา แต่ก็อีกละครับจะให้เอามาเลี้ยงที่บ้านก็คงไม่ใช่ มันไม่ใช่หมาใช่แมว พวกผมก็ตกลงกันสรุปไปถวายวัดขออนุญาติไม่เอ่ยนาม สบายใจละครับ ถ้าผมว่างก็แวะไปดูมันได้ ปลอดภัยหายห่วง ส่วนเรื่องการไถ่ชีวิตโคนี่ส่วนตัวผมคิดว่านานาจิตตังครับ เพราะคนที่ชอบทำบุญประเภทนี้ก็จะตระเวนไปทำเกือบทุกที่ ที่ไหนมีไปมาหมด จะเปรียบเทียบได้ว่าที่ไหนเป็นยังไง ส่วนคนที่ไม่เน้นทำบุญประเภทนี้หรือแอนตี้กระบวนการที่เราพอจะทราบกันมาก็จะไม่ทำและไม่คิดจะทำบุญประเภทนี้เลย  ตัวผมเองก็ยังทำบุญแบบไถ่ชีวิตโคเป็นครั้งคราวตามโอกาสและปัจจัย แต่ก็ต้องมั่นใจได้นะครับไปไถ่ออกมาจากโรงฆ่าสัตว์เอง ถ้าให้แนะนำโรงฆ่าสัตว์ที่ไปมา ผมก็บอกบุญต่อละกันครับ เบอร์โทร 089-4458762 อยู่แถวๆเส้นรัตนาธิเบศร์-ราชพฤกษ์ เผื่อมีคนอยากทำแบบนี้แต่ไม่รู้จะหาที่ไหน อนุโมทนาบุญครับ

หยุดการบริโภคอาหาร เครื่องใช้ที่มาจากสัตว์ดีที่สุด จะไถ่ชีวิตก็ได้ค่ะ เราไม่รู้ว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหน เขาอาจโชคดีไปเจอที่ดี ถึงเขาจะโชคร้ายแต่เราก็เจตนาดีค่ะ ทุกสิ่งเป็นไปตามกรรม คิดเป็นกลาง สบายใจ

หยุดการบริโภคอาหาร เครื่องใช้ที่มาจากสัตว์ดีที่สุด จะไถ่ชีวิตก็ได้ค่ะ เราไม่รู้ว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหน เขาอาจโชคดีไปเจอที่ดี ถึงเขาจะโชคร้ายแต่เราก็เจตนาดีค่ะ ทุกสิ่งเป็นไปตามกรรม คิดเป็นกลาง สบายใจ

ถึงทุกๆคนที่มีใจทำบุญถ่ายชีวิตสัตว์โคและกระบือว่าหากไม่กินเนื้อโคและกระบือเลยก็เท่ากับเราได้ถ่ายชีวิตพวกสัตว์เหล่านี้แล้วค่ะ หากทุกๆคนที่ตั้งใจจะทำบุญนี้ก็เริ่มต้นที่ตัวเราก่อนเลยตั้งใจปฎิทานไม่กินเนื้อสัตว์เลย กินมังสาวิรัติแทนคือผัก โปรตีนเกษตร เต้าฮู้ และไข่ เท่านั้นก็จะเท่ากับคุณได้ถ่ายชีวิตโคและกระบือและหมูและไก่ไปพร้อมกันทั้งหมดได้โดยอัตโตมัติ ไม่เสียเงินหลายหมื่นต่อสัตว์ตัวหนึ่งและไม่ปวดหัวว่าจะเอาสัตว์ไปไว้ที่ไหนใครจะเลี้ยงต่อให้เรา อีกทั้งคุณกินอาหารมังสาวิรัติเป็นอาหารสุขภาพด้วยทำบุญครั้งเดียวกับได้สองต่ออีกค่ะ ท้ายนี้ดิฉันมีความคิดเห็นของดิฉันว่าหากใครที่ตั้งใจจะช่วยสัตว์สักตัวต่ออายุให้เขานั้นได้ด้วยการถ่ายชีวิตสัตว์ตัวนั้นออกจากโรงฆ่าสัตว์แล้วนำสัตว์นั้นไปปล่อยป่าในอุทานยานแห่งชาติที่มีป่าทึบมีสัตว์ป่าอยู่ด้วยแล้วให้โคหรือกระบือไปอยู่เองเลี้ยงตัวมันเองตามธรรมชาติในป่าอุทานแห่งชาติ มันจะรอดหรือไม่รอดในป่าธรรมชาติก็แล้วแต่กรรมของมันแบบนี้ดีไหมคะ ดิฉันว่าดีกว่าไปไว้อยู่ในมือของคนเลี้ยงใหม่ที่เราคิดว่าไว้ใจได้หรือไม่ก็ไม่แน่นอนไปกว่าการปล่อยสัตว์เข้าป่าไปเลยแน่นอนกว่าคือไม่ถูกวนเวียนกลับมาที่โรงฆ่าสัตว์อีกเลยจริงไหมคะ..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/42366

พอดีผ่านมาสะดุดเรื่องนี้เข้า น่าสนใจ...ขออนุญาตแสดงความเห็นตามภูมิรู้ภูมิธรรมนะครับ

เรื่องนี้ผมว่าถ้าทำบริบทที่เกี่ยวข้องให้กระจ่างขึ้น อาจทำให้คำถามในใจเรากระจ่างขึ้นครับ

1. เรื่องของ "บุญ" ท่านพุทธทาสได้อธิบายความหมายว่า บุญ เป็นสิ่งที่ทำให้ฟูใจพอใจชอบใจ เช่น ทำบุญให้ทานหรือรักษาศีลก็ตามแล้วก็ฟูใจ อิ่มเอิบ หรือ แม้ที่สุดแต่รู้สึกว่าตัวได้ทำสิ่งที่ทำยาก ในกรณีที่ทำบุญเอาหน้า เอาเกียรติ อย่างนี้ก็ได้ชื่อว่าได้บุญเหมือนกัน แม้จะเป็นบุญชนิดที่ไม่สู้จะแพ้ หรือแม้ในกรณีที่ทำบุญด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่อเอาบุญกันจริงๆ ก็ยังอดฟูใจไม่ได้ว่า ตนจะได้เกิดในสุคติโลกสวรรค์ มีความปรารถนาอย่างนั้น อย่างนี้ ในภพนั้น ภพนี้ อันเป็นภวตัณหา นำไปสู่การเกิดในภพใหม่ เพื่อเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ตามแต่ตนจะปรารถนา ไม่ออกไปจากการเวียนว่ายตายเกิดในวัฎสงสารได้ ฉะนั้น ความหมายของคำว่า บุญ จึงหมายถึง สิ่งที่ทำให้ฟูใจ และ เวียนไปเพื่อความเกิดอีก ไม่มีวันที่สิ้นสุดลงได้

2. เรื่องของกรรมและวิบากกรรม "กรรม"หมายถึงการกระทำ "วิบาก" หมายถึงผลของกรรม ตามพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” ยังเป็นหลักความจริงอยู่ทุกเมื่อ แต่พระพุทธเจ้าได้จัดว่า วิสัยของกฎแห่งกรรมที่สามารถติดตามไปได้ทุกชาติรวมถึงการให้ผลและการรับวิบากกรรม ถือเป็นอจินไตย (อจินไตย แปลว่าสิ่งที่ไม่ควรคิด หมายถึงสิ่งที่ไม่อาจเข้าใจได้ด้วยตรรกะสามัญของปุถุชน) เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องของการอาศัยกันของเหตุปัจจัย ที่เรียกว่า อิทัปปัจจยตา มันมีหลายหลายเหตุปัจจัยที่เกี่ยวร้อยกันอยู่เหมือนร่างแหที่อาจหาจุดเริ่มและจุดจบได้ยาก เรื่องการไถ่ชีวิตโคกระบือ ถ้าพิจารณาดีๆ แล้ว จะเห็นว่ามีกรรมและวิบากกรรมที่เป็นเหตุปัจจัยต่อกันมากมาย จนทำให้บางครั้งเราจับคู่ระหว่างกรรมและวิบากกรรมแบบผิดฝาผิดตัว เช่น เราไถ่ชีวิตโคกระจากโรงฆ่าสัตว์ ผลของวิบากคือ กระบือมีชีวิตอยู่ และผู้ไถ่ชีวิตโคมีความอิ่มใจ สุขใจ ฟูใจ นั่นก็คือได้บุญนั่นเอง แต่หลังจากที่ไถ่ชีวิตมาแล้วนำไปให้กับชาวนาเลี้ยง ก็ถือเป็นการสร้างกรรมใหม่ ขณะที่ชาวนาได้รับก็มีความสุขใจก็เป็นวิบากของกรรมที่เกิดจากการให้โคกับชาวนา ผู้ให้สุขใจที่ชาวนามีความสุขก็เป็นบุญที่ได้รับอีกทอดหนึ่ง ต่อมาอีกระยะหนึ่งชาวนาจะขายโคก็ถือเป็นกรรมใหม่ ซึ่งเป็นวิบากกรรมจากการกระทำกรรมของชาวนาภายหลังจากได้รับโคกระบือจากเรา แม้กระทั่งเรื่องเพื่อนฝูงก็มีเหตุและปัจจัยอื่นอีกมากที่อิงอาศัยกันเกิดขึ้น จะเห็นได้ว่ามีกรรมและวิบากกรรมอีกมากที่เราไม่สามารถล่วงรู้ และควบคุมได้ทั้งหมด เพราะสัตว์โลกย่อมมีกรรมเป็นของตน ที่กล่าวมาคล่าวๆ นั้น ก็อาจจะยังไม่ใช่ฝาใช่ตัวจริงๆ ก็เป็นได้ เพราะมันเป็นเรื่องอจินไตย แต่มีข้อคิดว่า ในเมื่อยังมีสัตว์อีกมากมายบนโลกนี้ถูกทารุณหรือถูกฆ่าตายแต่ทำไมพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์สาวกผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจึงเข้าถึงพระนิพพานได้ เพราะเรื่องกรรมมันเป็นเรื่องเฉพาะตนของสัตว์โลกใช่ไหมครับ

3. เรื่องปฏิจจสมุปบาท ถ้ามองกันที่ต้นเหตุของความไม่สบายใจเป็นที่มาของประเด็น มันมีจุดเริ่มต้นมาจากอวิชชา คือความไม่รู้ และไม่ได้ดำรงขันธ์ 5 ให้อยู่ในภาวะปกติ คือเมื่อเกิดทุกขเวทนาแล้วไม่ได้ถืออุเบกขาแต่ปล่อยให้ตัณหา (วิภวตัณหา) ความอยากไม่เป็นอย่างโน้น อยากไม่เป็นอย่างนี้ เข้าครอบโดยเราไม่รู้ตัวแล้วเกิด ความยึดมั่นถือมั่นเป็นอุปาทานของขันธ์ 5 เป็นความทุกข์ตามวงจรปฏิจจสมุปบาท ตามถ้าจะจบอย่างสบายใจเราต้องทำความเห็นให้ตรง มองให้เห็นถึงความเป็นไปและเป็นจริงของเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อรู้แล้วก็สักแต่ว่ารู้แล้วถืออุเบกขาอย่างที่ท่านว่านั้นแหละครับมันถึงจะจบอย่างสบายใจ


สรุป ถ้าถามว่าการไถ่ชีวิตโคกระบือ ได้บุญหรือได้บาป ผมเห็นว่าได้บุญตอนไถ่ ส่วนบาปมันเป็นผลที่เราได้รับจากกรรมที่เราทำต่อจากนั้นครับ แล้วถ้าถามต่อว่าถ้าอยากได้บุญจริงๆ ทำอย่างไร ....การทำบุญในพุทธศาสนามีอยู่ด้วยกัน 10 วิธี ที่เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ 10 ได้แก่

1. ให้ทาน (ทานมัย) แบ่งปันผู้อื่นด้วยสิ่งของ ไม่ว่าจะให้ใครก็เป็นบุญ การให้ทานเป็นการช่วยขัดเกลาความเห็นแก่ตัว ความคับแคน ความตระหนี่ถี่เหนียว และความติดยึดในวัตถุออกไปจากตัวเอง

2. รักษาศีล (ศีลมัย) ก็เป็นบุญ เป็นการฝึกฝนที่จะ ลด ละ เลิกความชั่ว ไม่ไปเบียดเบียนใคร มุ่งที่จะทำความดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่นเป็นการหล่อเลี้ยงบ่มเพาะให้เกิดความดีงามและพัฒนาคุณภาพชีวิตไม่ให้ตกต่ำ

3. เจริญภาวนา (ภาวนามัย) ก็เป็นบุญ เป็นการพัฒนาจิตใจและปัญญาทำให้จิตสงบ ไม่มีกิเลส ไม่มีเรื่องเศร้าหมอง เห็นคุณค่าสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง ผู้ที่ภาวนาอยู่เสมอย่อมเป็นหลักประกันว่าจิตจะมีความสงบ ชีวิตมีความสุข คุณภาพชีวิตดีขึ้น สูงขึ้น

4. อ่อนน้อมถ่อมตน (อปจายนมัย) ก็เป็นบุญ ผู้น้อยอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็แสดงออกในความมีเมตตาต่อผู้น้อย และต่างก็อ่อนน้อมต่อผู้มีคุณธรรมรวมถึงการให้เกียรติ ให้ความเคารพในความแตกต่างซึ่งกันและกันทั้งในความคิด ความเชื่อและวิถีปฏิบัติของบุคคลและสังคมอื่น เป็นการลดความยึดมั่นถือมั่นในความเป็นตัวตน

5. ช่วยเหลือสังคมรอบข้าง (ไวยาวัจจมัย) การช่วยเหลือสละแรงกาย เพื่องานส่วนรวม หรือช่วยงานเพื่อนบ้านที่ต้องการความช่วยเหลือ ก็เป็นบุญ

6. เปิดโอกาสให้คนอื่นมาร่วมทำบุญกับเรา (ปัตติทานมัย) ในการทำงานก็เปิดโอกาสให้คนอื่นมีส่วนร่วมทำ ร่วมแสดงความคิดเห็น รวมไปถึงการอุทิศส่วนบุญให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย ก็เป็นบุญ

7. ยอมรับและยินดีในการทำความดี หรือทำบุญของผู้อื่น การชื่นชมยินดีหรืออนุโมทนาไม่อิจฉาหรือระแวงสงสัยในการกระทำความดีของผู้อื่น ก็เป็นบุญ (ปัตตานุโมทนามัย)

8. ฟังธรรม บ่มเพาะสติปัญญาให้สว่างไสว ฟังธรรมะ ฟังเรื่องที่ดีมีประโยชน์ต่อสติปัญญา หรือมีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตที่ดี เป็นความจริง ความดี ความงาม ก็เป็นบุญ (ธรรมสวนมัย)

9. แสดงธรรม ให้ธรรมะและข้อคิดที่ดีกับผู้อื่น แสดงธรรมนำธรรมะไปบอกกล่าว เผื่อแผ่ให้คนอื่นได้รับฟัง ให้เขาได้รู้จักวิธีการดำเนินชีวิตที่ดี เป็นเรื่องของความจริง ความดี ความงามก็เป็นบุญ (ธรรมเทศนามัย)

10. ทำความเห็นให้ถูกต้องและเหมาะสม มีการปรับทิฏฐิ แก้ไขปรับปรุงพัฒนาความคิดเห็นความเข้าใจให้ถูกต้องตามธรรม ให้เป็นสัมมาทัศนะอยู่เสมอ เป็นการพัฒนาปัญญาอย่างสำคัญ ก็ถือเป็นบุญ (ทิฏฐุชุกรรม)

สุดท้ายท้ายสุดอยากจะกล่าวว่าไม่ได้ต่อต้านการทำบุญโดยการไถ่ชีวิตโคกระบือ แต่อยากให้ความเห็นว่าที่มาของบุญตามหลักพุทธศาสนามีตั้ง 10 วิธีให้เลือกทำครับ ชอบทำแบบไหนก็แล้วแต่จริตของแต่ละท่านครับ ขอบคุณสำหรับพื้นที่ครับ

อนันต์ อินทร์เงิน

เป็นเรื่องธรรมชาติ หนึ่งชีวิต สร้างอีกหนึ่งชีวิต ไม่มีคนกิน ก็ไม่มีคน"ฆ่า "ทุกๆอย่างเกิดมาบนโลกใบนี้ เพื่อทำลายร้างกัน เป็นวงจรชั่วนาทาปี ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูกหรอก เถียงไปเพื่อหาอะไร ประโยชน์ของตนเอง เพราะคนยัง"ฆ่า"คน สัตว์ก็กินกันเองทั้งนั้น คนก็คือธรรมชาติเช่นเดียวกัน

ดิฉันก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ไถ่ชิวิตกระบือ 2.แม่ลูกคู่หนึ่ง ด้วยความที่เป็นคนรักสัตว์มาก เห็นรูปลงเฟรชบุ๊ก ด้วยข้อความที่ว่า สงสารแม่ลูกกระบือคู่นี้ ไม่อยากให้เขานำไปฆ่า กินช่วงปีใหม่ ในราคา 50,000 บาท ช่วยไถ่ชีวิตสัตว์ด้วย จริงๆแล้วเขาลงไว้หลายวันมีคนมาแสดงความคิดเห็นมากมาย แต่ละคนงบไม่พอแพงเกินไป..เราเห็นก็อยากช่วยชีวิตกระบือคู่แม่ลูกจัง เราจึงขอซื้อเลย เพราะอยากไถ่ชีวิตเขา แต่เราไม่ได้ศึกษาเลยว่า.ไถ่ชีวิตสัตว์คืออะไรทำยังไง เราคิดเพียงว่า ซื้อมาแล้วจะมอบให้ศูนย์อนุรักษ์ควายไทยตามโครงการพระราชดำหริ คิดว่าชีวิต2แม่ลูกต้องไม่ตาย เขาคงเลี้ยงให้เราจนกว่ามันหมดอายุขัย แต่ไม่ใช่เลย ข้อตกลงของโครงการคือ แม่กระบือจะเลี้ยงให้ถึง5ปี จากนั้นก็เป็นของคนเลี้ยง จะฆ่าจะขายก็แล้วแต่เขา ส่วนลูกตัวผู้ที่ติดมา จะเลี้ยงให้ ปีครึ่ง แล้วเอาให้โครงการเพราะถือว่าเป็นลูกตัวแรก..ถ้าไม่สามารถเป็นพ่อพันธ์ที่ดีได้เขาก็ต้องขาย.เราฟังแล้วเริ่มเป็นทุกข์..นี่หรือคือ การไถ่ชีวิต..ยิ่งอ่านข้อความหลายๆท่านเราต้อง ปล่อยวางให่ได้จริงเหรอ...เราช่วยได้แค่ยืดเวลาเท่านั้นเองหรือ..นี่คือ..ทุกข์ลาภ

อยากไถ่ชีวิตโคกระบือ

เคยเห็นบางท่านเอาโคกระบือไปฝากไว้ที่วัดค่ะ เช่น วัดสวนแก้ว ของหลวงพ่อพยอม ท่านมีที่ให้โคกระบือ เลี้ยงไว้เพื่อเอามูลมาทำปุ๋ยหมัก จะไม่มีการขายต่อเพื่อนำไปฆ่าเด็ดขาด จะเลี้ยงไปจนตายไปตามอายุไขค่ะ แบบนี้น่าจะดีที่สุดนะคะ สรุปก็คือ

ถุงเงิน ถุงนาค ถุงพลอย กำไร

หยุดทำร้ายเค้าด้วยการกินเนื้อค่ะดีที่สุด สมัยเด็กๆจำได้ว่าบ้านอยู่ติดกับโรงฆ่าวัวควายเสียงร้องโหยหวนทุกคืนๆน่าสงสารสุดเวทนาบางตัวมีลูกยังเล็กแม่ถูกลากเข้าโรงฆ่าส่วนลูกร้องหาแม่แทบขาดใจแม่ร้องโหยหวนสุดอาลัย ปกติจะชอบกินเนื้อวัวมากตอนนั้นเพราะยังเด็กมากพอโตขึ้นภาพมันฝังใจเสียงมันก้องในหูสงสารเหลือเกินจึงหยุดกินเนื้อวัวและควายจนถึงทุกวันนี้ผ่านไปเกือบ 30 ปีที่ไม่กินเค้า


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท