“โทรทัศน์” ตัวการทำลายสมาธิของเด็กทุกวัย


ข้อน่ากังวลอีกประการหนึ่งคือการที่พ่อแม่ในปัจจุบันมักจะช่วยลูกเกินขอบเขต โดยเฉพาะลูกที่อยู่ชั้นเล็กๆระดับประถมศึกษา ซึ่งพ่อแม่ส่วนใหญ่ยังช่วยลูกทำการบ้านอยู่ ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เด็กไม่เห็นความสำคัญของการทำการบ้านหรือดูหนังสือด้วยตนเอง

<p style="margin-top: 0px; margin-bottom: 0px" class="MsoNormal">       ผลการสำรวจทางอินเตอร์เน็ตโดย Boy & Girl Club of America  ที่ทำการสำรวจออนไลน์กับสมาชิกประมาณ 800 คนของตน  ซึ่งมีอายุระหว่าง 6 18 ปี  โดยทำการสำรวจเสร็จสิ้นไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้พบว่า  ร้อยละ 52 ของนักเรียนเหล่านี้ระบุว่า  รายการโทรทัศน์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำลายสมาธิหรือแย่งความสนใจของตนไปจากการดูหนังสือหรือทำการบ้าน  นอกจากนี้การสำรวจยังได้ข้อค้นพบที่น่าสนใจอีกว่า  มีนักเรียนถึงร้อยละ 56 ที่ยังให้พ่อแม่  ผู้ปกครองช่วยทำการบ้าน</p><p style="margin-top: 0px; margin-bottom: 0px" class="MsoNormal">          ข้อคิดสำคัญจากการสำรวจในครั้งนี้ชี้ให้เห็นเรื่องน่าวิตกเกี่ยวกับนิสัยการเรียนของเด็กในปัจจุบันถึงสองประการ คือ  การที่เด็กในปัจจุบันมีสมาธิจดจ่อหรือทุ่มเทให้การดูหนังสือและการทำการบ้านน้อยลง  เนื่องจากมีตัวล่อหรือสิ่งเร้าที่แย่งความสนใจของเด็กไปได้อย่างง่ายดายและหลากหลานยิ่งขึ้นทั้งโทรทัศน์  MP3 การสนทนาออนไลน์กับเพื่อนไปจนถึงโทรศัพท์มือถือที่ไม่ได้ใช้แค่การพูดคุยแต่อย่างเดียวอีกต่อไป แต่ยังใช้ดูหนังฟังเพลงได้ทุกเวลาอีกด้วย</p><p style="margin-top: 0px; margin-bottom: 0px" class="MsoNormal">           ข้อน่ากังวลอีกประการหนึ่งคือการที่พ่อแม่ในปัจจุบันมักจะช่วยลูกเกินขอบเขต  โดยเฉพาะลูกที่อยู่ชั้นเล็กๆระดับประถมศึกษา  ซึ่งพ่อแม่ส่วนใหญ่ยังช่วยลูกทำการบ้านอยู่  ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เด็กไม่เห็นความสำคัญของการทำการบ้านหรือดูหนังสือด้วยตนเอง  เพราะคิดว่ามีพ่อแม่คอยช่วย  และในที่สุดแล้วเด็กเหล่านี้จะไม่สนใจการเรียน  ขาดรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์  เพราะขาดการกระตุ้นและดูแลอย่างเหมาะสมจากที่บ้าน</p>

หมายเลขบันทึก: 42360เขียนเมื่อ 3 สิงหาคม 2006 16:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ผมคิดว่า กรณีนี้คงต้องสร้า้งวินัยให้กับเด็ก อยู่ที่ผู้ปกครองแล้วครับ ว่าจะใช้กระบวนการใด..?

ส่วนการช่วยลูกทำการบ้าน อยู่ที่วิธีการครับ การช่วยลูกเป็นเรื่องที่ดี แต่จะช่วยแบบไหน นี่สิครับ

คุณพ่อ คุณแม่ต้องคิดให้มากครับ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท