เยี่ยมชมกิจกรรมและแลกเปลี่ยนเรียนรู้โรงเรียนเทพศิรินทร์ ขอนแก่น


 

ผมแวะมาโรงเรียนเทพศิรินทร์ ขอนแก่น เป็นนโยบายของผมในฐานะนายกสมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ผมได้พบท่านผู้อำนวยการ คณาจารย์ และนักเรียนอีกประมาณ 600 คน ก่อนมาที่นี่ผมมีโอกาสเข้าพบท่านองคมนตรีกำธน  สินธวานนท์ ได้กำชับว่าโรงเรียนเทพศิรินทร์ทุกแห่งมีความสำคัญ และขอให้บอกว่า เกียรติยศ ศักดิ์ศรี เท่ากันทุกแห่ง ผมจะพัฒนาโรงเรียนเทพศิรินทร์ขอนแก่นให้เป็นเลิศต่อไป

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 42181เขียนเมื่อ 2 สิงหาคม 2006 15:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (30)
นางสาวศิรินันท์ แคลงกลาง
สวัสดีค่ะท่าน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ หนูได้ทำการบ้านและส่งการบ้านที่ท่านได้มอบให้เมื่อวันพุธที่ 2 สิงหาคม 2549 มาแล้วนะค่ะ สำหรับนายกรัฐมนตรีที่จบจากเทพศิรินทร์มีทั้งหมด 6 คน ดังนี้ ค่ะ รายชื่อของนายกรัฐมนตรีที่จบจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ 1. พันตรีควง อภัยวงศ์ (17 พฤษภาคม พ.ศ. 2445-15 มีนาคม พ.ศ. 2511) นายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของไทย และเป็นนายกรัฐมนตรี 4 สมัย 2. นายทวี บุณยเกตุ (10 พ.ย. 2447 - 3 พ.ย. 2514) นายกรัฐมนตรีคนที่ 5 (รัฐบาลที่ 12) หนึ่งในขบวนการเสรีไทยและผู้แต่งหนังสือเรื่อง พ่อสอนลูก 3. หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช (20 พฤษภาคม พ.ศ. 2448—28 กรกฎาคม พ.ศ. 2540) นายกรัฐมนตรี 4 สมัย โอรสในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ กับหม่อมแดง (บุนนาค) สมรสกับท่านผู้หญิง อุศนา ปราโมช 4. พลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ หรือ หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ (21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2444— 3 ธันวาคม พ.ศ. 2531) นายกรัฐมนตรีคนที่ 8 ของประเทศไทยในช่วง พ.ศ. 2489-2490 5. พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ (5 เมษายน พ.ศ. 2463-6 พฤษภาคม พ.ศ. 2541) เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 17 ของประเทศไทย ดำรงตำแหน่งระหว่าง พ.ศ. 2531-พ.ศ. 2534 6. นายตนกู อับดุลราห์มาน นายยกรัฐมนตรีคนแรกของมาเลเซีย
นายผดุงศักดิ์ อนิวรรตน์

 นายกรัฐมนตรีที่จบจากโรงเรียนเทพศิรินทร์มีทั้งสิ้น 6 คน  คือ

1. พันตรีควง อภัยวงศ์(คณะรัฐบาลชุดที่ 11,14,20,21)
2. นายทวี บุณยเกตุ (คณะรัฐบาลชุดที่ 12)
3. หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช (คณะรัฐบาลชุดที่ 13,36,38,39)
4. พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ (คณะรัฐบาลชุดที่ 18,19)
5. พลเอกชายชาติ ชุณหะวัน (คณะรัฐบาลชุดที่ 48,49,50,51)
6. ตนกู อับดุล ราห์มาน (นายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศมาเลเชีย)

นายอาทิตย์ ผ่องสอาด

จากการบ้านที่ท่านสั่ง

     โรงเรียนเทพศิรินทร์ที่มีนายกรัฐมนตรีที่จบออกมาทั้งสิ้น 6 คน ได้แก่

1. พันตรีควง อภัยวงศ์(คณะรัฐบาลชุดที่ 11,14,20,21)
2. นายทวี บุณยเกตุ (คณะรัฐบาลชุดที่ 12)
3. หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช (คณะรัฐบาลชุดที่ 13,36,38,39)
4. พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ (คณะรัฐบาลชุดที่ 18,19)
5. พลเอกชายชาติ ชุณหะวัน (คณะรัฐบาลชุดที่ 48,49,50,51)
6. ตนกู อับดุล ราห์มาน (นายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศมาเลเชีย)

นางสาวมะลิวัลย์ สมอเขียว

 สวัสดีค่ะ ท่าน จีระ หนูได้ส่งการบ้านที่ท่านสั่งเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2549 มาแล้วนะค่ะ

สำหรับนายกรัฐมนตรีที่จบจากเทพศิรินทร์ มีทั้งหมด 6 คน ดังนี้

 1. พันตรีควง อภัยวงศ์ (17 พฤษภาคม พ.ศ. 2445-15 มีนาคม พ.ศ. 2511) นายกรัฐมนตรีคนที่ 4

2. นายทวี บุณยเกตุ (10 พ.ย. 2447 - 3 พ.ย. 2514) นายกรัฐมนตรีคนที่ 5

3. หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช (20 พฤษภาคม พ.ศ. 2448—28 กรกฎาคม พ.ศ. 2540) นายกรัฐมนตรี 4 สมัย 

4. พลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ หรือ หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ (21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2444— 3 ธันวาคม พ.ศ. 2531) นายกรัฐมนตรีคนที่ 8 

 5. พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ (5 เมษายน พ.ศ. 2463-6 พฤษภาคม พ.ศ. 2541) เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 17

6. นายตนกู อับดุลราห์มาน นายกรัฐมนตรีคนแรกของมาเลเซีย

นาย วุฒินันท์ แก้วบุญเรือง

   นายกรัฐมนตรีที่จบจากโรงเรียนเทพศิรินทร์

1.พันตรีควง อภัยวงศ์

2.นายทวี บุญยเกตุ

3.ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช

4.พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์

5.พลเอกชาติชาย ชุณหะวัน

6.ตนกู อับดุล ราห์มาน

นางสาวเฉลิมขวัญ ลีนรากุล

 สวัสดีค่ะท่านจีระ หนูส่งการบ้านมาแล้วนะค่ะ อาจจะช้านิดหนึ่งแต่ก็ตั้งใจทำค่ะ

นายกรัฐมนตรีที่จบจากเทพศิรินทร์ มีทั้งหมด 6 คน ดังนี้ค่ะ

1. พันตรีควง อภัยวงศ์(คณะรัฐบาลชุดที่ 11,14,20,21)
2. นายทวี บุณยเกตุ (คณะรัฐบาลชุดที่ 12)
3. หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช (คณะรัฐบาลชุดที่ 13,36,38,39)
4. พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ (คณะรัฐบาลชุดที่ 18,19)
5. พลเอกชายชาติ ชุณหะวัน (คณะรัฐบาลชุดที่ 48,49,50,51)
6. ตนกู อับดุล ราห์มาน (นายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศมาเลเชีย)

นายธรรมศิริ สุดโต

สวัสดีครับพี่ จีระ หงษ์ลดารมภ์สำหรับการบ้านที่พี่ให้ไว้ว่านายกรัฐมนตรีที่จบจากโรงเรียนเเทพศิรินทร์  มีกี่ท่าน คำตอบคือมีทั้งสิน  6  ท่านครับ

1. พันตรีควง อภัยวงษ์(คณะรัฐบาลชุดที่ 11,14,20,21)

2. พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์(คณะรัฐบาลที่ 18,19)

3. พลเอกชาติชาย ชุณหะวัน (คณะรัฐบาลที่48,49,50,51)

4. นายทวี บุณยเกตุ(คณะรัฐบาลที่12)

5.หม่อมราชวงศ์เสนี ปราโมช(คณะรัฐบาลที่13,36,38,39)

6.ตนกู อับดุล ราห์มาน (นายกรัฐมนตรีคนแรกของมาเลเซีย

นางสาวพรรณทิพย์ กันชัย

สวัสดีค่ะท่านจีระ หนูส่งการบ้านแล้วนะค่ะ

นายกรัฐมนตรีที่จบจากเทพศิรินทร์ มี 6 คน ดังนี้

1. พันตรีควง อภัยวงษ์(คณะรัฐบาลชุดที่ 11,14,20,21)

2. พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์(คณะรัฐบาลที่ 18,19)

3. พลเอกชาติชาย ชุณหะวัน (คณะรัฐบาลที่48,49,50,51)

4. นายทวี บุณยเกตุ(คณะรัฐบาลที่12)

5.หม่อมราชวงศ์เสนี ปราโมช(คณะรัฐบาลที่13,36,38,39)

6.ตนกู อับดุล ราห์มาน (นายกรัฐมนตรีคนแรกของมาเลเซีย

นายณงศักดิ์ ยอดจิตใจ

 สวัสดีครับท่านจิระผมส่งการบ้านมาแล้วนะ

1. พันตรีควง อภัยวงษ์(คณะรัฐบาลชุดที่ 11,14,20,21)

2. พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์(คณะรัฐบาลที่ 18,19)

3. พลเอกชาติชาย ชุณหะวัน (คณะรัฐบาลที่48,49,50,51)

4. นายทวี บุณยเกตุ(คณะรัฐบาลที่12)

5.หม่อมราชวงศ์เสนี ปราโมช(คณะรัฐบาลที่13,36,38,39)

6.ตนกู อับดุล ราห์มาน (นายกรัฐมนตรีคนแรกของมาเลเซีย

นางสาววิภา พลเต้า

สวัสดีค่ะหนูส่งการบ้านแล้วนะค่ะ

นายกรัฐมนตรีที่จบจากโรงเรียนเทพศิรินทร์

1.พันตรีควง อภัยวงศ์

2.นายทวี บุญยเกตุ

3.ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช

4.พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์

5.พลเอกชาติชาย ชุณหะวัน

6.นายตนกู อับดุล ราห์มาน นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย

นางสาวสุภาพร พยอม

สวัสดีคะท่านจีระ หนูได้ทำการบ้านแล้วนะค่ะ

1. พันตรีควง อภัยวงษ์(คณะรัฐบาลชุดที่ 11,14,20,21)

2. พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์(คณะรัฐบาลที่ 18,19)

3. พลเอกชาติชาย ชุณหะวัน (คณะรัฐบาลที่48,49,50,51)

4. นายทวี บุณยเกตุ(คณะรัฐบาลที่12)

5.หม่อมราชวงศ์เสนี ปราโมช(คณะรัฐบาลที่13,36,38,39)

6.ตนกู อับดุล ราห์มาน (นายกรัฐมนตรีคนแรกของมาเลเซีย)

น.ส.เนตรชนก วงษ์คำแก้ว

สวัสดีค่ะ  หนูเป็นหนึ่งในนักเรียนเทพศิรินทร์ขอนแก่น  หนูดีใจมากนะค่ะที่(ขอเรียกแบบกันเองนะค่ะ)  ที่พี่จิระมาเยี่ยมน้องๆที่ร.ร.เทพศิรินทร์ขอนแก่น  ได้รับความรู้และได้รับกำลังเพื่อที่จะเป็ฯนักเรียนที่ดีต่อไป   และพี่จิระได้ทิ้งคำถามไว้ให้พวกน้องๆได้ตอบ  หนูก็จะขอตอบคำถามเลยนะค่ะ   หวังว่าพี่จิระจะมาเยี่ยมที่เทพขอนแก่นบ่อยนะค่ะ   ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ

1. พันตรีควง อภัยวงศ์(คณะรัฐบาลชุดที่ 11,14,20,21)
2. นายทวี บุณยเกตุ (คณะรัฐบาลชุดที่ 12)
3. หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช (คณะรัฐบาลชุดที่ 13,36,38,39)
4. พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ (คณะรัฐบาลชุดที่ 18,19)
5. พลเอกชายชาติ ชุณหะวัน (คณะรัฐบาลชุดที่ 48,49,50,51)
6. ตนกู อับดุล ราห์มาน (นายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศมาเลเชีย)

หวังว่าคำตอบที่ตอบกันจากนักเรียนร.ร.เทพศิรินทร์ขอนแก่นทุกคนตอบจะเป็นแรงดึงให้พี่จิระมาเยี่ยมโรงเรียนของเราบ่อยๆนะค่ะ

นายสุชิณธมร โนนทนวงษ์
คำตอบนะคับผม......

1. พันตรีควง อภัยวงศ์(คณะรัฐบาลชุดที่ 11,14,20,21)
2. นายทวี บุณยเกตุ (คณะรัฐบาลชุดที่ 12)
3. หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช (คณะรัฐบาลชุดที่ 13,36,38,39)
4. พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ (คณะรัฐบาลชุดที่ 18,19)
5. พลเอกชายชาติ ชุณหะวัน (คณะรัฐบาลชุดที่ 48,49,50,51)
6. ตนกู อับดุล ราห์มาน (นายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศมาเลเชีย)

ยม "บทเรียนจากความจริง กับ ศ.ดร.จีระ ปฏิวัติการวัดค่าทรัพย์สิน (WEALTH)"
ปฏิวัติการวัดค่าทรัพย์สิน (WEALTH)[1] 
การจะทำอะไรสักอย่างต้องเกิดจากความชอบ ความสนุก อยากทำและท้าทาย การเขียน บทความของผมก็เช่นกัน ระยะแรกก็ไม่นึกว่า จะมีคนอ่าน และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เพราะผมมักจะ พูดเรื่องที่กว้างไปสู่แคบ ที่ไม่ใช่กระแสหลักแบบการเมืองหรือธุรกิจ เพราะอยากเห็นคนไทยสนใจเรื่อง ทรัพยากรมนุษย์

ผมได้พบกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น คุณเจตน์ ธนวัฒน์ เมื่อวันพุธที่ 2 สิงหาคม ในการ ประชุมที่สภามหาวิทยาลัยขอนแก่น ท่านบอกผมว่า ได้อ่านบทความ รู้สึกว่ามีค่าและมีประโยชน์ เพราะ พูดความจริงและตรงประเด็น
ถ้าผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ นายกเทศมนตรี ที่สนใจเรื่องระยะยาว ชอบสังคมการเรียนรู้ แบบสด ทันสมัย ข้ามศาสตร์ มีเหตุมีผล และนำไปสร้างมูลค่าเพิ่มได้ ผมก็มีกำลังใจที่จะทำและเขียนต่อ ผมรู้สึกมีความสุขมาก นับเป็นโชคดี ที่ท่านผู้ว่าฯเจตน์ จะไปรับตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองคนต่อไป คง จะสร้างการเรียนรู้ในหมู่นักปกครองมากขึ้น

เมื่อดูทฤษฎี 3 วงกลม ที่ผมคิด ผม highly motivated มีแรงกระตุ้น แรงผลัก แรงดึง เพื่อไปสู่ ความเป็นเลิศ
 
หากพูดถึงเรื่อง motivation คนไทยมักจะมองแคบ คือ มองถึงอำนาจ เงินทอง เพชร นาฬิกา รถ แพงๆ คอนโดมิเนียม เป็นต้น เท่านั้น ไม่นึกถึงสิ่งที่วัดไม่ได้ เช่น ความสุข ความมีสมาธิ การแบ่งปัน การ มองส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว หรือสำหรับผม ให้คนอ่าน คิดเป็น วิเคราะห์เป็น

ดังนั้น สิ่งที่เขียนมาทั้งหมด คือ ผมพยายามทำ แลกเปลี่ยน แบ่งปัน หากใครสนใจก็เป็นแนวร่วม ได้ ยิ่งแนวร่วมขยายวง ประเทศก็จะเจริญขึ้นแน่นอน

มีลูกศิษย์ถาม อาจารย์ป๋วยว่า "ทำอะไรมากมาย ซึ่งเน้นทำความดีและเสียสละเพื่อส่วนรวม ทำไป เพื่ออะไร" ท่านตอบว่า "ในประเทศไทย ถ้าคนดีไม่ทำอะไร คนชั่วก็ต้องชนะ เพราะคนชั่วมีมากกว่าคนดี "
ผมมีความเห็นต่อว่า คนดีมักจะเก็บตัวเงียบ อาย ไม่มีแนวร่วม ขาด social capital อยู่อย่างสงบ แต่คนไม่ดีจะบ้าอำนาจ ใช้อำนาจเหนือทุกอย่างที่ตนเองมีพลัง

บทความผมอยู่ใน website ของแนวหน้า www.naewna.com ทุกวันเสาร์ โดย click ไปที่ " บทเรียนจากความจริงกับดร.จีระ "

ผมสังเกตว่า ยิ่งนานวัน บทความของผม ยิ่งมีคน click ไปมากขึ้นทุกสัปดาห์

อีกประการหนึ่ง ผมสอนหนังสือเกือบจะทุกอาทิตย์ ระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ซึ่งให้ นักเรียนอ่าน
 บทความ โดยให้วิเคราะห์ว่า

- ผมเขียนโดยใช้ style อะไร

- ได้อะไรที่โป๊ะเชะบ้าง

- สร้างมูลค่าเพิ่มอย่างไรและปรับใช้กับตัวเองอย่างไร

เช่นสัปดาห์ที่แล้ว เรื่องตรงต่อเวลา สอนให้ผมดำเนินชีวิตอย่างมีวินัย พยายามไม่ผิดเวลา โดยเฉพาะยิ่งเราเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ต้องขอขอบคุณพี่อุทัย พิมพ์ใจชน มากที่แนะนำสิ่ง ดีๆ

สัปดาห์นี้มีกิจกรรมเรื่อง เทพศิรินทร์ ซึ่งคิดว่ามีประโยชน์ต่อกลุ่มอื่นด้วย จึงขอแบ่งปันให้อ่าน

เรื่องแรกคือ วันที่ 1 สิงหาคม คณะกรรมการสมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ชุดใหม่ เข้าไปเยี่ยมคำนับและรายงานผลให้องคมนตรี พลอากาศตรีกำธน สินธวานนท์ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ของ เรา การได้ใกล้ชิดกับผู้ใหญ่ที่เมตตาต่อโรงเรียน นักเรียนเก่า และนักเรียนปัจจุบัน รวมทั้งคณาจารย์ด้วย เป็นเรื่องที่ได้ประโยชน์ พี่กำธนของเรา ได้เน้นว่า เด็กเทพศิรินทร์ต้องเก่งและดี ทั้งกีฬาและวิชาการ ต้อง เป็นคนมีมารยาท มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และเน้นว่าเทพศิรินทร์มี 7 แห่ง ไม่ใช่มีแห่งเดียวเหมือนเดิม แต่เทพศิริ นทร์ 7 แห่งเป็นหนึ่งเดียว คือ สถานที่อาจจะแยกกันอยู่ แต่จิตวิญญาณมีเทพศิรินทร์หนึ่งเดียว

ในวันรุ่งขึ้น ผมและคณะไปเยี่ยมโรงเรียนเทพศิรินทร์ขอนแก่น ซึ่งนักเรียนเก่าท่านหนึ่ง คือ คุณ อดิศร เพียงเกษ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดขอนแก่น ผลักดันให้เทพศิรินทร์มีสาขาที่ภาคอีสาน ด้วย

ผมภูมิใจมาก เพราะผมมาขอนแก่นบ่อย แม้เมื่อยังไม่ได้เป็นนายกสมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ ผมได้มา 2 ครั้งแล้ว ครั้งนี้ได้พบนักเรียนกว่า 600 คน และคณาจารย์ด้วย ผมได้ให้กำลังใจว่า อะไรที่ผม และสมาคมช่วยได้ จะทำอย่างสุดความสามารถ เพราะการศึกษาของนักเรียนต่างจังหวัดเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นการยกฐานะของโรงเรียนต่างจังหวัดให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ

เด็กเทพศิรินทร์ขอนแก่น มีความภาคภูมิใจมาก ที่มีส่วนเป็นเทพศิรินทร์ ได้ศึกษาประวัติความ เป็นมาของเทพศิรินทร์ ผมได้มอบทุนก้อนหนึ่งให้เด็กที่ชนะการประกวดเรียงความเรื่อง "ขอนแก่นกับโลกา ภิวัตน์" ปรากฏว่า เด็กเทพศิรินทร์ขอนแก่นสามารถเขียนเรียงความได้ดี

ในอนาคต จะพยายามส่งครูเทพศิรินทร์ทั้ง 7 แห่ง ไปฝึกอบรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ มาก ขึ้น ในโครงการ "Super Teacher" ให้ต่อเนื่อง
ผมภูมิใจในบรรยากาศการเรียนรู้แบบ 4 L's ระหว่างผมกับนักเรียนเทพศิรินทร์ขอนแก่น 600 คน

สุดท้าย ผมขอหยิบยกหนังสือเล่มล่าสุดของ Alvin Toffler เรื่อง "Revolutionary Wealth" มาเล่า สู่กันฟัง เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ดร.อำนวย วีรวรรณ ได้เชิญ Toffler มาพูดที่ประเทศไทย ผมได้ใกล้ชิดและ สัมภาษณ์เขา
Toffler
เป็นนักทำนายอนาคต Futurist เป็นที่ยอมรับที่สุดของโลกในปัจจุบัน หนังสือเล่มที่ดังมาก ที่สุดคือ "The Third Wave" มอง

เกษตร-----------อุตสาหกรรม-----------เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT)

แต่มาวันนี้ เขาบอกว่า นอกจาก IT แล้ว จะมีความรู้เป็นคลื่นลูกที่ 4 และความรู้เป็นทรัพย์สินที่ สำคัญที่มองไม่เห็น ( Intangibles ) ทรัพย์สินไม่ใช่เฉพาะ ที่ดิน เงิน หรือวัตถุ แต่ทรัพย์สินในอนาคตเป็นสิ่ง ที่มองไม่เห็น ( Intangibles ) เช่น

- Happiness

- Blog

- การสร้างสังคมการเรียนรู้

- การเสียสละให้แก่ส่วนรวม

- การอ่านหนังสือ

- การใช้เวลากับลูก

- การสอนหนังสือ

- การมีสุขภาพทางกายและใจที่สมบูรณ์

- การนั่งสมาธิ ทำใจให้สงบ

- การทำงานอาสาสมัครให้ส่วนรวม

ซึ่งตรงกับทฤษฎี 8 K's และ 5 K's ของผมในบางส่วน

เพราะผมได้ wealth จากการที่ใช้ชีวิตโดยแสวงหาความรู้อย่างไม่หยุดยั้ง และมีความสุขที่ได้ แลกเปลี่ยน แบ่งปันความรู้ แต่ความรู้และความสุขไม่ได้มาฟรีๆ ต้องเปลี่ยนทุนมนุษย์มาเป็นทุนทาง ปัญญา คือต้องคิดเป็น ทำเป็น ทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีก 2 ทุนคือ ทุนทางจริยธรรม และทุนแห่งความยั่งยืน ซึ่ง 2 Kนี้วัดไม่ได้ คนไทยจึงไม่เข้าใจ
แต่ผมและ Alvin Toffler เข้าใจครับ  
จีระ หงส์ลดารมภ์

โทร. 02-273-0180, 0-2619-0512-3

โทรสาร 0-2273-0181  
ยม "บทเรียนจากความจริง กับ ศ.ดร.จีระ ปฏิวัติการวัดค่าทรัพย์สิน (WEALTH)"

สวัสดีครับ ศ.ดร.จีระ / และท่านผู้อ่านทุกท่าน 

  เช้าวันนี้วันที่ 5 สิงหาคม  2549 หลายท่านคงดีใจ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา ทรงปลอดภัยและเสด็จกลับไปพักรักษาพระองค์ที่พระราชวังสวนจิตฯ ได้แล้ว  วันนี้ ผมศึกษาบทความจาก น.ส.พ.แนวหน้า จาก http://www.naewna.com/gotocolumn.asp?ID=97 ศึกษาบทความ ของ ศ.ดร.จีระ บทเรียนจากความจริง ปฏิวัติการวัดค่าทรัพย์สิน (WEALTH)และคัดมาบางประโยคจากบทความที่ ศ.ดร.จีระ เขียนไว้ (สีนำเงิน) ส่วนที่ผมมีความเห็นเพิ่มเติม ผมเขียนไว้ทำเป็นสีดำ เพื่อแชร์ความคิด ที่อาจจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน นักศึกษาที่สนใจ  รายละเอียดมีดังนี้    
  
  การจะทำอะไรสักอย่างต้องเกิดจากความชอบ ความสนุก อยากทำและท้าทายเรื่องนี้ ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง กับ ศ.ดร.จีระ ที่ว่า คนเราจะทำอะไรสักอย่างต้องเกิดจากความชอบ ความสนุก อยากทำและท้าทาย  ผมขอเสริมตรงนี้ อยากจะฝากครู อาจารย์ในบ้านเมืองเรา ให้เข้าใจ และเห็นความสำคัญของสิ่งที่ ศ.ดร.จีระ กล่าวในประโยคนี้  เพื่อนำไปใช้กระตุ้นให้เด็กนักเรียน เกิดความชอบ สนุก และอยากเรียนรู้ และท้าทายที่จะทำและคิดสิ่งใหม่ ๆ ส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ได้ เช่น การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ  ตามโรงเรียน สถาบันการศึกษาต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญในเรื่องการกระตุ้นเด็กนักเรียน ให้เกิดความชอบ ในการเรียนภาษาอังกฤษ สนุกที่จะเรียนรู้คำศัพท์ต่าง ๆ และอยากเรียนต่อ ไม่ใช่บังคับให้ท่องศัพท์ ท่องจำ เป็นต้น   
การจะทำอะไรสักอย่างต้องเกิดจากความชอบ ความสนุก อยากทำและท้าทาย ที่ ศ.ดร.จีระ กล่าวไว้นี้  ยังสอดคล้องกับแนวพุทธศาสตร์ กล่าวคือพระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า ธรรมแห่งความสำเร็จ ได้แก่ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา  รวมกันเรียกว่า อิทธิบาท 4  เป็นรากฐานแห่งความสำเร็จ เครื่องให้ลุถึงความสำเร็จตามที่ตนประสงค์ ผู้หวังความสำเร็จในสิ่งใด ต้องทำตนให้สมบูรณ์ ด้วยสิ่งที่เรียกว่า อิทธิบาท ซึ่งจำแนกไว้เป็น 4 คือ 
1.      ฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น 
2.      วิริยะ ความพากเพียรในสิ่งนั้น 
3.      จิตตะ ความเอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น 
4.      วิมังสา ความหมั่นสอดส่องในเหตุผลของสิ่งนั้น ตรงนี้ อยากจะจุดประกายให้นักศึกษา ลูกศิษย์ ศ.ดร.จีระ และลูกศิษย์ของผมได้ยึดเป็นหลักแห่งความสำเร็จ ในการเรียน และการดำเนินชีวิตทั้งปัจจุบันและอนาคต  
บทความ รู้สึกว่ามีค่าและมีประโยชน์ เพราะ พูดความจริงและตรงประเด็น

บทความของ ศ.ดร.จีระ ถ้าอ่านแล้วคิดวิเคราะห์ต่อยอดจะเกิดประโยชน์กับตนเองและสังคม  เพราะ ศ.ดร.จีระ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่ทันสมัย มีความรู้ใหม่ สด และยังเป็นผู้มีอุดมการณ์ คล้ายกับ ศ.ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์ คือ มีความเป็นชาตินิยมสูงมาก คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมของ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นที่ตั้ง ด้วยความเป็นคนเช่น การคิด การเขียน การกระทำ การพูดก็ตาม ล้วนมีสาระ จริง ตรงประเด็นและเกิดประโยชน์ (อย่าไปคิดแค่พูดเพราะ หรือไม่เพราะ) ลูกศิษย์ ศ.ดร.จีระ ที่ฟังแล้วคิดวิเคราะห์ ต่อยอดเป็นคือ ฟังและเรียนรู้อย่างผู้มีบุญ คือ ฟังอย่างสนใจ ใส่ใจและเอาใจใส่ ก็จะเกิดปัญญา ลูกศิษย์บางคนเริ่มแรกอาจจะตามอาจารย์ไม่ทัน อาจจะเกิดอาการมึนบ้าง แต่ถ้าตามติด อ่านต่อ จะเริ่มเห็นสัจจะธรรม คุณประโยชน์ ในบทความนั้น   
“motivation คนไทยมักจะมองแคบ คือ มองถึงอำนาจ เงินทอง เพชร นาฬิกา รถ แพงๆ คอนโดมิเนียม เป็นต้น เท่านั้น ไม่นึกถึงสิ่งที่วัดไม่ได้ เช่น ความสุข ความมีสมาธิ การแบ่งปัน การ มองส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว หรือสำหรับผม ให้คนอ่าน คิดเป็น วิเคราะห์เป็น
เรื่อง Motivation เป็นเสมือนเครื่องมือหนึ่งที่ใช้ในการบริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ถ้าใช้โดยปราศจากความรู้ ความเข้าใจ จะไม่เกิดประโยชน์กลับจะมีโทษตามมา
 การ Motivation ยังเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้ในการสร้าง ใช้และรักษาอำนาจ กล่าวคือเป็นการสร้างอำนาจได้ด้วยการให้  Motivation เป็นการให้อย่างหนึ่งที่ผู้บริหาร ผู้นำ มักใช้กันทั้งภาครัฐและเอกชน   
ปัญหาอย่างหนึ่งที่พบ อย่างที่ ศ.ดร.จีระ กล่าวไว้ ว่า Motivation ไม่ใช่แค่เรื่องการให้ทางวัตถุ เงินทอง ครับ แต่หลายองค์กรนำไปใช้ ด้วยการให้แก้ว แหวน เงินทอง ของใช้ต่าง โดยปราศจากความรู้และเทคนิคของการให้  การให้ดังกล่าว สมาชิกในองค์กรจะรู้สึกว่า การให้ให้แก้ว แหวน เงินทอง ของใช้ต่างดังกล่าว ถ้าเป็นการให้ครั้งแรก ผุ้ได้รับจะรู้สึกชื่นชมผู้ให้  ครั้งที่สองผู้ได้รับ จะรู้สึกขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง พอครั้งที่สาม จะขอบคุณผู้ให้และเริ่มคาดหวังว่าจะได้อีกมากขึ้นในคราวต่อไป พอถึงเวลาที่ควรจะให้ครั้งที่สี่ แล้วไม่ได้หรือได้น้อยกว่าที่เคยได้ ก็จะเกิดปัญหา ความผิดหวังเกิดขึ้น ทำให้เกิดปัญหาแรงงานสัมพันธ์ในองค์กรมากมาย เป็นมูลเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสหภาพแรงงานในองค์กรได้ และมีปัญหาตามมาอีกมากมาย  แนวทางในการแก้ไขและป้องกัน ผมแนะนำว่า การให้แก้ว แหวน เงินทองเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าให้โดยปราศจากเหตุผลของการให้   และควรให้ความรู้ ควบคู่จริยธรรม หลักศาสนา ไปให้มากกว่า ทรัพย์สินที่ให้  พระพุทธเจ้า ได้ให้หลักการให้  Motivation ไว้ว่า การให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการให้ความรู้ ให้โอกาส ให้อภัย ให้ธรรมตามกาล   
อาจารย์ป๋วยว่า "ทำอะไรมากมาย ซึ่งเน้นทำความดีและเสียสละเพื่อส่วนรวม ทำไป เพื่ออะไร" ท่านตอบว่า "ในประเทศไทย ถ้าคนดีไม่ทำอะไร คนชั่วก็ต้องชนะ เพราะคนชั่วมีมากกว่าคนดี "

คนดีมักจะเก็บตัวเงียบ อาย ไม่มีแนวร่วม ขาด social capital อยู่อย่างสงบ แต่คนไม่ดีจะบ้าอำนาจ ใช้อำนาจเหนือทุกอย่างที่ตนเองมีพลัง

  ในประเทศที่พัฒนาแล้ว เขาคงไม่ถามกันใช่ไหมครับอาจารย์ เพราะคนส่วนใหญ่ในประเทศเหล่านั้น ล้วนมีหน้าที่ต้องทำความดี เสียสละเพื่อส่วนรวม เช่นประเทศญี่ปุ่นเป็นต้น  
 ในประเทศของเรา กำลังพัฒนา  ศ.ดร.ติน ปรัชพฤกษ์ ท่านเคยสอนไว้ว่า การพัฒนาคือการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงจะทำให้เกิดการเจ็บปวด คนเป็นผู้นำ คนเป็นนักพัฒนาต้องพร้อมรับและกล้าเผชิญกับความเจ็บปวดเหล่านี้ จึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลง  ขอให้คนดีทั้งหลายอย่าได้ท้อใจ เพราะท่านกำลังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาครับ ถ้าคนดีไม่ทำ แล้วใครจะทำ พอไม่มีใครทำความดี คนชั่วก็จะได้ใจ และเป็นใหญ่ในสังคม จะทำให้เกิดปัญหาความไม่สงบสุข ความไม่เจริญเกิดขึ้นในบ้านเมืองได้ 
ผมเชื่อมั่นว่า คงมีหลายคนถามประโยคนี้กับ ศ.ดร.จีระ ด้วยเช่นกัน เพราะอาจารย์ ทำงานอุทิศตนเหมือนเป็นนายกรัฐมนตรีผู้รักชาติ ทำงานพัฒนาคน พัฒนาชาติ โดยไม่ยึดมั่นในตำแหน่ง ไม่ต้องรอให้มีตำแหน่งแล้วจึงจะทำ  ผมหวังว่าสังคมประเทศชาติของเราจะพัฒนาขึ้นโดยเร็วและให้ผู้นำประเทศหันมาให้ความสำคัญกับบุคคลผู้ทรงคุณค่า บุคคลของแผ่นดิน เช่นนี้ ด้วยการให้การสนับสนุนทุกรูปแบบ 

บทความผมอยู่ใน website ของแนวหน้า www.naewna.com ทุกวันเสาร์ โดย click ไปที่ " บทเรียนจากความจริงกับดร.จีระ "

นอกจากที่อาจารย์กล่าวไว้  บทความดังกล่าวของ ศ.ดร.จีระ ยังมีอยู่ใน http://gotoknow.org/blog/chirakm ด้วย ครับ

  

ผมสอนหนังสือเกือบจะทุกอาทิตย์ ระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ซึ่งให้ นักเรียนอ่านบทความ โดยให้วิเคราะห์ว่า
-
ผมเขียนโดยใช้ style อะไร
-
ได้อะไรที่โป๊ะเชะบ้าง
-
สร้างมูลค่าเพิ่มอย่างไรและปรับใช้กับตัวเองอย่างไร

 ผมเป็นลูกศิษย์ในโครงการปริญญาเอก คนหนึ่ง ที่ ศ.ดร.จีระ เป็นผู้สอน  และส่วนหนึ่งที่ผมได้จาก ศ.ดร.จีระ คือ ได้นิสัยแห่งการเรียนรู้ การคิด การเขียน โดยเฉพาะการเขียนผ่าน Blog มากขึ้น จากการสอนของ ศ.ดร.จีระ ที่ต้องการเปลี่ยน และสร้างนิสัย ที่ดีให้กับลูกศิษย์  การเขียน Blog นี้ได้ประโยชน์มาก ผมต้องอ่าน คิด วิเคราะห์ และต่อยอดให้ได้ และผมจะฝึกต่อว่าต้องให้ได้ในเวลาที่ต้องให้รวดเร็ว การเขียน Blog นี้ จะปรากฏต่อสาธารณะชน  จึงต้องคิดไตร่ตรอง เขียนให้ดี ได้นิสัยระมัดระวังในการเขียนด้วย คือต้องเป็นกลาง มีสาระ เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน เป็นต้น ขอบคุณอาจารย์ที่เพิ่มทุนเรื่องนี้ให้ผม 
   คณะกรรมการสมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ชุดใหม่ เข้าไปเยี่ยมคำนับและรายงานผลให้องคมนตรี พลอากาศตรีกำธน สินธวานนท์ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ของ เรา การได้ใกล้ชิดกับผู้ใหญ่ที่เมตตาต่อโรงเรียน นักเรียนเก่า และนักเรียนปัจจุบัน รวมทั้งคณาจารย์ด้วย เป็นเรื่องที่ได้ประโยชน์ พี่กำธนของเรา ได้เน้นว่า เด็กเทพศิรินทร์ต้องเก่งและดี ทั้งกีฬาและวิชาการ ต้อง เป็นคนมีมารยาท มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี 
ผมเพิ่งทราบว่า ที่เทพศิรินทร์ มีท่านองค์คมนตรี พลอากาศตรีกำธน สินธวานนท์ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ ศรัทธาอย่างยิ่งเป็นศิษย์เก่าด้วย  เทพศิรินทร์สร้างคนที่ทำคุณประโยชน์ให้กับสังคม ประเทศชาติเป็นอย่างมากไว้หลายท่าน น่าภูมิใจแทนคนไทยทั้งชาติ 
  ศ.ดร.จีระ ยังมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ โรงเรียนเทพศิรินทร์ ทั่วทุกแห่งมีคุณภาพเท่าเทียมกัน คือสร้างเด็กนักเรียนที่เทพศิรินทร์ให้เป็นคนเก่งและดี ทั้งกีฬาและวิชาการ ต้องเป็นคนีมารยาท มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี  ผู้ปกครองนักเรียนถ้าได้เห็นได้ยินเช่นนี้ คงจะสบายใจ  เพราะจากบทความของ ศ.ดร.จีระ แสดงให้เห็นว่า โรงเรียนเทพศิรินทร์แสดงมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม และมีการปฎิบัติอย่างจริงจัง เช่นนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี
 โรงเรียนหลาย ๆ แห่ง โดยเฉพาะนโยบายของรัฐ ในการบริหารด้านการศึกษา และพัฒนาเด็กนักเรียน น่าจะมาศึกษานโยบายในการบริหารโรงเรียนเทพศิรินทร์ แล้วนำไปเป็นหนึ่งในยุทธ์ศาสตร์บริหารโรงเรียน สร้างคนเพื่อสร้างชาติ ต่อไป  

การศึกษาของนักเรียนต่างจังหวัดเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นการยกฐานะของโรงเรียนต่างจังหวัดให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ

 เรื่องการบริหารการศึกษา ในต่างจังหวัด น่าเป็นห่วงครับ ผมดีใจที่ ศ.ดร.จีระ มีความคิดที่จะยกฐานะของโรงเรียนต่างจังหวัดให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งน่าจะเป็นงานสำคัญของรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ มาช่วยสนับสนุนความคิดของอาจารย์ให้เป็นจริงโดยเร็ว  ท่านนายกฯทักษิณ น่าจะบริจาคเงินสร้างโรงเรียน ตัวอย่างทั่วทุกภาค เป็นโรงเรียนแห่งอนาคต เป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพทั้งคุณภาพครู อาจารย์ คุณภาพสถานศึกษา สภาพแวดล้อม เพื่อที่จะเอื้ออำนวยในการสร้างคนที่มีคุณภาพให้ชาติ เพื่อวางรากฐานความเข้มแข็งทางทุนมนุษย์ของชาติในอนาคต  
  ”Toffler เป็นนักทำนายอนาคต Futurist เป็นที่ยอมรับที่สุดของโลกในปัจจุบัน หนังสือเล่มที่ดังมาก ที่สุดคือ "The Third Wave" มอง

เกษตร-----------อุตสาหกรรม-----------เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT)

แต่มาวันนี้ เขาบอกว่า นอกจาก IT แล้ว จะมีความรู้เป็นคลื่นลูกที่ 4 และความรู้เป็นทรัพย์สินที่ สำคัญที่มองไม่เห็น ( Intangibles ) ทรัพย์สินไม่ใช่เฉพาะ ที่ดิน เงิน หรือวัตถุ แต่ทรัพย์สินในอนาคตเป็นสิ่ง ที่มองไม่เห็น ( Intangibles )
-  Happiness

- Blog

- การสร้างสังคมการเรียนรู้

- การเสียสละให้แก่ส่วนรวม

- การอ่านหนังสือ

- การใช้เวลากับลูก

- การสอนหนังสือ

- การมีสุขภาพทางกายและใจที่สมบูรณ์

- การนั่งสมาธิ ทำใจให้สงบ

- การทำงานอาสาสมัครให้ส่วนรวม

ซึ่งตรงกับทฤษฎี 8 K's และ 5 K's ของผมในบางส่วน ใช้ชีวิตโดยแสวงหาความรู้อย่างไม่หยุดยั้ง และมีความสุขที่ได้ แลกเปลี่ยน แบ่งปันความรู้ แต่ความรู้และความสุขไม่ได้มาฟรีๆ ต้องเปลี่ยนทุนมนุษย์มาเป็นทุนทาง ปัญญา คือต้องคิดเป็น ทำเป็น ทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีก 2 ทุนคือ ทุนทางจริยธรรม และทุนแห่งความยั่งยืน ซึ่ง 2 Kนี้วัดไม่ได้ คนไทยจึงไม่เข้าใจ

จากประโยคที่ ศ.ดร.จีระ เขียนไว้ ผมสรุปได้ว่า คลื่นลูกที่สี่ คือ ความรู้ เกษตร-------อุตสาหกรรม-------เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) --------ความรู้
ในอดีตประเทศใด องค์กรใด สังคมใด จะมีความเจริญมั่งคั่งหรือไม่ ดูที่การเกษตร ต่อมาดูที่การอุตสาหกรรม ต่อมาดูที่การเทคโนโลยีสารสนเทศ ในประเทศ ในองค์กร ในสังคมนั้น ๆ ตรงนี้ ในประเทศญี่ปุ่นเห็นชัดเจนมาก  ญี่ปุ่นพัฒนาตนเอง จากประเทศเกษตร เป็นประเทศอุตสาหกรรม และพัฒนามาทำเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้รวดเร็วมาก
ในประเทศอินเดีย จากประเทศยากจน กำลังจะพลิกผันเป็นประเทศผู้นำด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศ ในประเทศจีน หลายท่านคงทราบดีว่า จีนมีครบหมด เกษตรอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และฐานความรู้ศาสตร์ต่าง ๆ ของจีนที่มีคุณค่าสะสมมานับพันปี ก็มีหลายศาสตร์
ในสังคม ในองค์กร ยุคปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องหันมาทบทวนเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ และเรื่องการจัดการด้านความรู้  ส่งเสริมให้คนในสังคม ในองค์กร เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ในยุคนี้ถ้าคนในองค์กร ในประเทศ มีทุนทางความรู้มากเท่าใด ยิ่งสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทุกรูปแบบ ความรู้ที่คู่คุณธรรมจึงเป็นฐานของทุนมนุษย์   ทั้งภาครัฐและเอกชนควรให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากกว่ารถประจำตำแหน่ง วัตถุนิยมต่าง ๆ ซึ่งไม่ใช่ความยั่งยืนขององค์กร ของชาติ
  

ท่านผู้อ่านที่สนใจติดตามสาระน่ารู้ กับ ศ.ดร.จีระ ท่านสามารถติดตามได้จากรายการโทรทัศน์สู่ศตวรรษใหม่ทาง ช่อง 11 ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน เวลา 14.00-15.00 น. และออกอากาศอีกทีทาง UBC 7 ทุกวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนเวลา 14.00-15.00 น. และรายการคิดเป็นก้าวเป็นกับดร.จีระ ทาง UBC 7 อาทิตย์ที่ 1,3 และ 5 ของเดือนเวลา 13.00-13.50 น. นอกจากนั้นยังมีรายการวิทยุ knowledge for people ทุกวันอาทิตย์ เวลา 18.00 – 19.00 น. ทางสถานีวิทยุ อสมท. F.M. 96.5 MHz Hz   คอลัมน์บทเรียนจากความจริงกับดร.จีระของหนังสือพิมพ์แนวหน้าทุกวันเสาร์หน้า 5 ผมขอเชิญให้ท่านติดตามศึกษาหาความรู้ จากผลงานของ ศ.ดร.จีระ และร่วมกันแสดงความคิดเห็น สะสมสร้างทุนทางความรู้ ทุนทางปัญญา และทุนทางสังคม ใน Blog นี้ ครับ   

  ขอโชคดีจงมีแด่ผู้อ่านทุกท่าน 
   
สวัสดีครับ 
ยม    
น.ศ.ปริญญาเอก   
หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์   
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (กทม.2)

 

นายกรัฐมนตรีที่จบจากเทพศิรินทร์ มีทั้งหมด 6 คน ดังนี้ค่ะ

1. พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์(คณะรัฐบาลที่ 18

2. พันตรีควง อภัยวงศ์(คณะรัฐบาลชุดที่ 11,14,20,21)
,19)

3. นายทวี บุณยเกตุ (คณะรัฐบาลชุดที่ 12) 
 
4. หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช (ค5. นายทวี บุณยเกตุ (คณะรัฐบาลชุดที่ 12)
5. พลเอกชายชาติ ชุณหะวัน (คณะรัฐบาลชุดที่ 48,49,50,51)
6. ตนกู อับดุล ราห์มาน (นายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศมาเลเชีย)

ณะรัฐบาลชุดที่ 13,36,38,39

โหคนตอบเยอะจัง
นางสาวพัชรินทร์ แดงน้อย ม.5/1
สวัสดีค่ะท่านจิระหนูส่งการบ้านมาแล้วนะ ศิษย์เก่าที่จบจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ที่เป็นนายยกรัฐมนตรีมีทั้งหมด 6 คนคือ

1. พันตรีควง อภัยวงษ์(คณะรัฐบาลชุดที่ 11,14,20,21)

2. พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์(คณะรัฐบาลที่ 18,19)

3. พลเอกชาติชาย ชุณหะวัน (คณะรัฐบาลที่48,49,50,51)

4. นายทวี บุณยเกตุ(คณะรัฐบาลที่12)

5.หม่อมราชวงศ์เสนี ปราโมช(คณะรัฐบาลที่13,36,38,39)

6.ตนกู อับดุล ราห์มาน (นายกรัฐมนตรีคนแรกของมาเลเซีย)

1. พันตรีควง อภัยวงษ์(คณะรัฐบาลชุดที่ 11,14,20,21)

2. พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์(คณะรัฐบาลที่ 18,19)

3. พลเอกชาติชาย ชุณหะวัน (คณะรัฐบาลที่48,49,50,51)

4. นายทวี บุณยเกตุ(คณะรัฐบาลที่12)

5.หม่อมราชวงศ์เสนี ปราโมช(คณะรัฐบาลที่13,36,38,39)

6.ตนกู อับดุล ราห์มาน (นายกรัฐมนตรีคนแรกของมาเลเซีย)

GotoKnow.org เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2548 มาถึงวันนี้ก็ประมาณ 3 เดือนแล้วคะ ดิฉันเริ่มเขียนบล็อกใน GotoKnow.org ก็นับตั้งแต่วันที่เปิดให้บริการคะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการใช้บล็อกเป็นช่องทางในการเขียนแนะนำการใช้งาน GotoKnow.org และ นำเสนอความก้าวหน้าในการพัฒนาระบบ

มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ดิฉันให้ความสำคัญตั้งแต่ต้นๆ ของการเขียนบล็อก คือ หลักการเขียนบล็อก และตลอดเวลาที่ได้ศึกษาการใช้งานของสมาชิก GotoKnow.org (ซึ่งปัจจุบัน GotoKnow.org มีบล็อกมากถึง 740 บล็อก) ดิฉันจึงอยากจะนำเสนอเรื่อง หลักการเขียนบล็อก อีกครั้งหนึ่งคะ เรียกว่าเป็นฉบับปรับปรุงแล้วกันนะคะ

บล็อกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบล็อกสาธารณะ หรือ บล็อกสำหรับองค์กร พยายามที่จะร่างหลักการ กฏ กติกา มารยาท ในการเขียนบล็อกขึ้นมา (Blogger's Code of Ethics) เพื่อเป็นแนวทางให้เจ้าของบล็อกทั้งหลายใช้บล็อกอย่างมีมาตรฐานถูกหลักวิธี

หวาดดีค่ะลูกแม่รำเพยทุกคน

เราอยู่โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า

ยินดีที่ได้รุ้จักนะค่ะ...บ๊ายบาย...

รักเบสท์ อัครวัน บุญจันทร์ มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เลย

อาร์ตไอย์ยังรักอาร์ตอยู่แต่ไอย์ไม่อยากให้อาร์ตเจ็บ

ร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกน๊า

เบสท์เย็นชาเกินไปรึป่าวเค้าว่าเบสท์นะไม่แคร์เค้าเลยรู้ไหม ขนาดวันเกินเค้าเบสท์ยังจำไม่ได้เลยแล้วเบสท์รักเค้าจริงไม่ละ เค้าทำแบบแฟนเก่าเบสท์ไม่ได้เกรงใจ ขนาดเจอกันยังไม่ค่อยได้คุยกันเลย แล้วนี่หรอที่เบสท์บอกว่ารักเค้าจริงรู้ว่าเบสท์อาจมีคนอื่นก็เพราะว่าเราอยู่ต่างโรงเรียนแล้วทำไมไม่แคร์ความรู้สึกกันบ้างเลยหรอบายแค่นี้แหละอยากละบสยออกมานานแล้ว..........................................

เบสท์ยังรักเค้าอยู่ไหมละ

อยากเห็นหน้าแฟนเก่าเบสท์

รักเบสท์ ม.1/1 เลขที่... แล้วมีใครชอบตัวป่าว

อยากจีบเบสท์ โทร 083-6137410 แฟนเบสท์ 080-1978941

รัก สาว ขอนเเก่น ClassiC [email protected] เเละ [email protected] สนใจอยาก...เเอสมาด่วน

ร.ร เทพศิรินทร์ขอนเเก่น ดีมากเลย ครับสาวก็หน้ารัก ครูก็สอนดีใจดี ห้องน้ำเปลี่ยนใหม่หน่อยย

L๏v€ ร.ร เทพศิริทร์ รักสาวข๏นเเก่นมากมาย

กระผมทีมงาน สมาคมเอ๊นดูกิ๊ก..... จาก....! สาวขอนเเก่นสวยๆ

ชอบวิว1-3 มากเลยตอนมัดผมหน้รักมาก รักมากกกกกกกกกกกกก เเต่ว่าเหมือนๆนักเลงเลย กลัว —๏•‘จะรักเธ๏`•๏—

เกม 1-1 LovE คนเก็บขยะเก็บจิ้น

นายกกี่คนผมไม่รู้.....

แต่ผมจะเป็นคนที่ 7

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท