อ่านเจอที่อาจารย์ขจิตพูดถึงดวงของอาจารย์เป็นอาบัติกับสตรีเพศ แล้วเลยนึกว่า ดวงตัวเองคงเป็นอาบัติกับการใช้โทรศัพท์ เพราะมักจะไม่สำเร็จในการหมุนโทรศัพท์เพียงครั้งเดียว ถึงกับเวลาที่จำเป็นต้องโทรศัพท์ไปติดต่อหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าภาครัฐหรือเอกชน มีข้อที่ต้องเตือนตัวเองว่า อย่างน้อยต้องเตรียมปากกาและกระดาษไว้ในมือให้เรียบร้อยก่อน เพราะเบอร์โทรศัพท์ที่มีในสมุดโทรศัพท์นั้นมักจะไม่ค่อยตรงนัก ไม่รู้เพราะเหตุอันใด โทรไปแล้ว ก็ต้องรับรู้ว่า ไม่ใช่เบอร์นั้นๆ ต้องเบอร์นี้ๆ
ตอนนี้ต้องเพิ่มอีกอย่างคือ เก้าอี้นั่งรอ เพราะยิ่งหน่วยงานมาก และใช้ระบบอัตโนมัติ โทรไปแล้วก็อาจได้ยินเสียงแบบอัตโนมัติบอกว่า หาหน่วยนี้กดเลขนั้น หาหน่วยนี้กดเลขนี้ หรือไม่รู้สักหน่วยให้กดเลขโน้น
เรียกว่ากว่าจะติดต่ออะไรสำเร็จ ใช้เวลานานนั่นเอง
คิดเองว่าระบบแบบนี้คงเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะแม้แต่โปรโมชั่นโทรศัพท์ที่ผ่านทางมือถือ ก็ยังใช้ระบบแบบนี้ คนคิดระบบอาจจะค้นพบว่าช่วยประหยัดค่าจ้างคนรับโทรศัพท์ และคงลดความวิตกกังวลของคนโทรศัพท์ ว่าทำไมโทรไปไม่มีคนรับ เพราะอย่างน้อยก็ได้ยินเสียงอัตโนมัติจากเครื่อง ให้รู้ว่ามีการรับแล้ว และกำลังส่งต่อ หรือว่าสายที่โอนยังไม่ว่างนะ
แต่ระบบแบบนี้ไม่ค่อยสะดวกเวลาที่ใช้โทรศัพท์แบบหยอดเหรียญเพราะต้องคอยหยอดต่อเหรียญอยู่เรื่อยๆ เผลอๆ เหรียญหมดก่อนได้โทร
เมื่อสองสามวันก็คล้ายกัน หาเบอร์หน่วยงานหนึ่งไม่พบในสมุดโทรศัพท์จึงใช้บริการโทรสอบถามหมายเลข ซึ่งคิดนาทีละ 6 บาท หรือส่งข้อความกลับมาข้อความละ 6 บาท ผลก็คือเบอร์ที่ได้มาก็ยังผิดอยู่ดี อย่างนี้เรียกว่าอาบัติกับการโทรศัพท์อาจใช้ได้
วันนี้มีเหตุติดต่องานด้านโทรศัพท์จากผู้ให้บริการ เพราะโทรศัพท์ที่บ้านใช้ไม่ได้ ก่อนโทรไปด้วยมือถือก็รีบเตรียมปากกา และกระดาษ พร้อมกับเก้าอี้นั่ง พบว่า ต้องหมุนสามรอบจึงจะได้เบอร์ที่ต้องการ แต่ก็ติดต่องานไม่สำเร็จ พนักงานรับโทรศัพท์รับเรื่องอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ให้ความหวังว่าจะมาซ่อมให้เมื่อไหร่ บอกแต่ว่าเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
คิดไปคิดมา..เอ...งั้นตัวเองมิต้องรอแกร่วอย่างนั้นหรือ จึงตัดสินใจโทรกลับไปอีกรอบ ทำทีว่าทิ้งเบอร์ให้ติดต่อเพิ่มอีกหนึ่งเบอร์ แต่ใจจริงต้องการทราบชื่อพนักงานที่รับสายในตอนแรก
ได้ผลเป็นอย่างดียิ่ง เพราะแล้วไม่นานจากนั้นช่างโทรศัพท์ก็โทรกลับมาติดต่อ และมาซ่อมให้แล้วเสร็จด้วยไมตรีจิตอันดี
คราวนี้ก็เกิดการเรียนรู้เพิ่มว่า ถ้าจะต้องติดต่อหน่วยงานใหญ่ๆ ต้องเตรียมปากกา กระดาษ เก้าอี้ และอย่าลืมทิ้งเบอร์ของตัวเอง และที่สำคัญถามชื่อพนักงานที่รับสายด้วย จึงจะทำให้สิ่งที่ต้องการติดต่อลุล่วงไปได้เร็วขึ้น
คราวหน้า..ดวงอาจเลิกเป็นอาบัติกับโทรศัพท์ซะที
คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับอาจารย์จันทรรัตน์
แต่ถ้าคิดอย่างนี้ก็ดีไปอย่างนะครับ "สบายใจดีครับ"
สวัสดีคะ...อาจารย์จันทรรัตน์
โดยส่วนตัว..ทำจนติดเป็นนิสัยคะ...
เวลาพูดโทรศัพท์เป็นต้องถือปากกาด้วย
ยิ่งเวลา..ระบบตอบรับอัตโนมัติตัวเองก็จะฟังไม่ทัน
ต้องกลับมาทวนใหม่...ดังนั้น..หลังๆ จึงต้องจดคะจด...
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ ที่ทำงานผมต้องเอากระดาษโน๊ตวางไว้ข้างๆ ให้คนรับจดครับ
(ปากกาเอามาเองนะ ไม่รู้เป็นไงวางทีไรหายทุกที)