จากบันทึกคุณแป้น ได้บันทึกไว้เมื่อ 27 กค.49 โดนใจดิฉันมาก จากบันทึกยกมาสั้นๆ (ฉบับเต็มอยู่นี่ค่ะ เมื่อฉันเจอทางตัน )
คู่สนทนา "ทำไมต้องเขียน Blog" "Blog เป็นคลังความรู้ตรงไหน" แป้น "พี่ลองเข้าไปอ่าน Blog ดูบ้างรึยังแล้วบอกแป้นได้ป่าวว่า blog คืออะไร"
คู่สนทนา "รู้และอ่านแล้วอ่านของคนดังซะด้วย ไม่เห็นว่ามันจะเป็นคลังความรู้ตรงไหน"
ความเห็นคุณแป้น
"เค้ามองว่า KM เป็นเรื่องใหม่ การเขียน Blog เป็นเหมือนการต้องทำงานเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งขึ้น"
"แสดงว่า เค้ายังไม่เข้าใจว่าkm คืออะไร"
ความรู้สึกคุณแป้น.....สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้แป้นรู้สึกแย่เพราะตัวเองทำงานด้านนี้ พยายามพัฒนาให้คนในมหาวิทยาลัยเข้าใจเรื่อง km แต่ลืมคนใกล้ตัว
ในระยะแรกของที่เขียนblog เจอเหมือนกันว่า เอ้!แล้วเราจะเขียนตอนไหนเขียนอะไร แต่ตอนนี้ผ่านระยะนั้นไปได้แล้วทั้งที่งานก็มิได้น้อยไปกว่าเดิม และก็เขียนสิ่งที่เป็นตัวตนของตนเองประสบการณ์ของตนเอง
สิ่งที่อยากบอกคุณแป้นและคนอื่นๆที่อาจเจอคำถามในลักษณะเดียวกันคือ
สิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตของพี่ คือ "การให้คนอื่นมาคิดเหมือนเรา"
สิ่งที่พี่เป็นความภูมิใจของพี่ทุกๆวันคือ "การได้เข้าถึงหน้าที่ของตนได้อย่างหมดใจ"
สิ่งที่คอยเตือนพี่อยู่เสมอคือ "อย่าทำเพราะคนอื่นเขาทำกันจงทำจากใจตนเอง"
มุมมองของเพื่อนรุ่นพี่ ที่คุณแป้นนำมาเสนอในบันทึกข้างต้นนั้น เป็นประโยชน์มากค่ะเพื่อการพัฒนางานที่เรารับผิดชอบ เป็นแบบฝึกหัดสำหรับฝึกฝนการยอมรับความเห็นที่ต่าง คนใกล้ตัวคือคนสำคัญที่เราต้องชวนกันจัดการความรู้
ขอพูดในมุมมองของตัวเองว่า การเขียนบล็อกเป็นเพียงเครื่องมือชิ้นหนึ่งของ KM เท่านั้นค่ะ และอาจจะไม่ตรงกับ"จริต"ของใครหลายๆคน ถ้าเพียงเราสามารถกระตุ้นให้คนในองค์กร คิด ตระหนัก รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร รู้อะไร มีบทบาทในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างไร หาลู่ทางให้เขาได้ share ก็น่าจะถือว่าเราได้ทำหน้าที่ ที่เราควรทำแล้วนะคะ ต้องยอมรับความต่างของคนจริงๆค่ะ หน้าที่ของเราคือ เสนอแนะลู่ทาง เครื่องมือที่มีให้ใช้
และเห็นด้วยอย่างยิ่งที่ว่า ถ้าเราเห็นว่าเป็นสิ่งดี เราปฏิบัติเลย บอกคนอื่นว่าเราทำ แสดงให้เขาเห็นว่าเราทำก็พอแล้ว ถ้าเขาเห็นดีตาม เขาก็จะทำเองแหละค่ะ แต่เราอย่าไปคาดหวังว่าเขาจะทำ ตัวใครก็ตัวคนนั้นค่ะ
เป็นกำลังใจให้คนทำงานพัฒนาคนแบบคุณเมตตา และคุณแป้นเสมอค่ะ
ในฐานะที่เป็นคนคอเดียวกัน ที่ทำงานด้านพัฒนาคนเหมือนกัน แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ ดิฉันอาจถูกยุบเลิกหน่วยงาน ขอเป็นกำลังใจให้คุณเมตตา นะคะ อย่างน้อย คุณเมตตา ก็เป็น Role Model ที่ทำให้ดิฉันได้เห็นสิ่งดีๆ ที่คุณเมตตาทำแล้วเกิดประโยชน์ แล้วมันเป็นตัวกระตุ้นให้ดิฉันอยากทำบ้าง