เบรค (coffee break) วันนี้ ขนมอะไรดี


คนทำงานกับคอฟฟี่เบรค... ดูจะเข้ากันดีดุจน้ำกับน้ำนม(ขออนุญาตใช้สำนวนบาลี) เราๆ ท่านจะเลือกอะไร... ขนมสักชิ้น... ทีนี้ชาหรือกาแฟจะเติมอะไรดี นมหรือคอฟฟี่เมต(ครีมเทียม)

คนทำงานกับคอฟฟี่เบรค... ดูจะเข้ากันดีดุจน้ำกับน้ำนม(ขออนุญาตใช้สำนวนบาลี) เราๆ ท่านจะเลือกอะไร... ขนมสักชิ้น... ทีนี้ชาหรือกาแฟจะเติมอะไรดี นมหรือคอฟฟี่เมต(ครีมเทียม)           

อาจารย์ ดร.โรเบิร์ต คลาร์ค ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สาขาสาธารณสุข แห่งมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดรายงานในวารสารแพทย์สหราชอาณาจักร (BMJ) ว่า ไขมันทรานส์พบมากในคอฟฟี่เบรค 

ข่าวดีคือ ถ้าเราลดปริมาณไขมันทรานส์ลงเล็กน้อยจะช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตันได้... ถ้าลดไขมันทรานส์ในอาหารลง 2 % (คิดจากปริมาณพลังงานหรือแคลอรี่) จะช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้ถึง 23 %     

ไขมันให้พลังงานสูงกว่าอาหารอื่นๆ ประมาณเท่าตัว ไขมัน 1 กรัมให้พลังงาน 9 แคลอรี่ โปรตีนและคาร์โบไฮเดรต(แป้ง น้ำตาล) 1 กรัมให้พลังงาน 4 แคลอรี่

ถ้าคิดเป็นน้ำหนักแล้ว... การลดไขมันทรานส์ประมาณ 1 % จะลดความเสี่ยงโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตันได้ประมาณ 1 ใน 4 (23 %) 

ไขมันทรานส์ (transfatty acid / transfat) เป็นไขมันที่พบได้เล็กน้อยในไขมันนมตามธรรมชาติ ไขมันทรานส์ส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมอาหาร

โรงงานอาหารสำเร็จรูปนิยมนำน้ำมันพืชราคาถูก โดยเฉพาะน้ำมันปาล์มที่มีไขมันอิ่มตัวสูงมาแปรรูปเป็นไขมันทรานส์ โดยการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (partial hydrogenation)            

ไขมันทรานส์เก็บรักษาได้นานกว่าไขมันทั่วไป ไม่เกิดการหืน(กลิ่นเหม็นอับ)ง่าย ไขมันทรานส์พบมากในคอฟฟี่เมต(ครีมเทียม) เนยเทียม เค้ก ขนมกรอบ(บิสกิต) และอาหารสำเร็จรูป (fast food)

      

ไขมันอิ่มตัว โดยเฉพาะกะทิ น้ำมันปาล์ม และไขมันสัตว์บก รวมทั้งน้ำมันที่แฝงอยู่ในเนื้อสัตว์มีส่วนเพิ่มโคเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) หรือรถขนขยะที่นำคราบไขมันไปทิ้งไว้ตามผนังเส้นเลือด

ถ้าเป็นสังคมเรา... ไขมันอิ่มตัวอาจเปรียบได้คล้ายคนเลวที่มีดีอยู่อย่างหนึ่งคือ ทำเลวลูกเดียว หรือเพิ่มโคเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL)  ไม่ทำลายคนดี หรือไม่ทำลายโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)

         

ทว่า... ไขมันทรานส์ร้ายกว่านั้น ไขมันทรานส์เพิ่มโคเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ที่ทำหน้าที่เสมือนรถขนขยะ นำคราบไขมันไปทิ้งไว้ตามผนังเส้นเลือดด้วย และลดโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ที่ทำหน้าที่เหมือนรถเก็บขยะ... ที่ทำความสะอาด เก็บคราบไขมันออกจากผนังเส้นเลือด ก่อนจะขับออกทางตับและน้ำดี

ไขมันทรานส์เป็นผู้ร้ายประเภทเลวด้วยทำลายคนดีด้วย เพราะมันเพิ่มโคเลสเตอรอลชนิดร้าย(LDL) และลดโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ไปพร้อมๆ กัน

ทำไมไขมันทรานส์คล้ายนักการเมืองประเทศหนึ่งที่ทำเลวด้วย ทำลายคนดีด้วย อาจารย์ ดร.โรเบิร์ต คลาร์คท่านไม่ได้กล่าวไว้เหมือนกัน

ถ้ากินไขมันทรานส์ไปมากๆ... ผนังเส้นเลือดจะสะบักสะบอม เต็มไปด้วยคราบไขอุดตัน คล้ายตะกรันอุดท่อ ไหนจะมีรถทิ้งขยะ (LDL) เพิ่มขึ้น แถมยังมีรถเก็บขยะ (HDL) ลดลง... เลยตีบตันง่ายเลย

อาจารย์ ดร.ไมค์ แน็พทัน แห่งมูลนิธิโรคหัวใจสหราชอาณาจักรกล่าวว่า ปัจจุบันมีการห้ามใช้ไขมันทรานส์ผสมอาหารในหลายประเทศ เช่น เดนมาร์ก ฯลฯ แล้ว

<p style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoBodyTextIndent">ปีนี้ (2549) เป็นปีที่ฉลากอาหารในสหรัฐอเมริกาต้องระบุปริมาณไขมันทรานส์… ต่อไปถ้ามีกฎหมายบังคับฉลากอาหารในไทยบ้างก็น่าจะดี คนไทยจะได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจมากขึ้น</p><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoBodyTextIndent"></p><p>ตกลงคอฟฟี่เบรควันนี้จะดื่ม หรือจะกินอะไรดีครับ… เพราะคอฟฟี่เมต(ครีมเทียม) เบเกอรี่ เค้ก ขนมกรอบ(บิสกิต) ขนมสำเร็จรูป(ที่ไม่ใช่ขนมไทย)ในคอฟฟี่เบรคนี่มีไขมันทรานส์กันทั้งนั้นเลย </p><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoBodyTextIndent">ถ้าเปลี่ยนคอฟฟี่เบรคหน่อย… ใช้นมไขมันต่ำ หรือนมไม่มีไขมันผสมชา กาแฟแทนครีมเทียม(คอฟฟี่เมต) ใช้ขนมไทย เน้นผักผลไม้ หรือเครื่องดื่มสุขภาพแทน</p><p></p><p></p><p>กินขนมแต่น้อย เน้นผักผลไม้ จบคอฟฟี่เบรคแล้วอย่าลืมบ้วนปากแรงๆ หลายๆ ครั้ง เพื่อป้องกันฟันผุ… สุขภาพดีขึ้นได้ครับ</p><p>แหล่งข้อมูล:                                           </p><ul>

  • ขอขอบคุณ > http://news.bbc.co.uk/1/hi/health/5218240.stm > July 27, 2006.
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ > ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๔๙.
  • </ul><p>เชิญอ่าน:                                             </p><ul><li> บ้านสาระ >>> http://gotoknow.org/blog/talk2u  </li></ul>

    หมายเลขบันทึก: 41763เขียนเมื่อ 31 กรกฎาคม 2006 09:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


    ความเห็น (12)

    ได้เรียนรู้กับคุณหมออีกแล้วครับ ยิ่งรู้อย่างนี้ผมก็ยิ่งไม่อยากแตะกาแฟเลยครับ พยายามหันมากินชาแทนครับ

    ถามคุณหมอต่ออีกนิดนิดครับ อาหารฉุกเฉินของผมแลพอาจจะของหลายๆ คน คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น่าจะมีไขมันทรานส์อยู่เยอะไหมครับ

    ปล. อาจารย์หมอเปรียบเทียบได้ดีครับเรื่องนักการเมือง ไขมันอิ่มตัวนี่เหมือนนักการเมืองประเทศหนึ่งสมัยก่อนใช่มั้ยครับที่ไม่ทำอะไรคนดีคุณจะทำดีทำไปผมไม่ว่า  ผมแค่โกงกินอย่างเดียว

     

    ขอขอบคุณอาจารย์จันทร์เมามาย และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

    • ถ้าดื่มกาแฟ / ชาฝรั่ง > เรียนเสนอให้เติมนมไขมันต่ำ หรือนมไม่มีไขมันแทนคอฟฟี่เมต (ครีมเทียม) ครับ > เพื่อลดไขมันทรานส์

    บะหมี่สำเร็จรูป...

    • (1). มีเกลือสูงประมาณ 33% ขึ้นไปของขีดจำกัดใน 1 วัน > เสนอว่า กินได้ ทว่า... ให้ทิ้งน้ำบะหมี่ไปครึ่งหนึ่ง อย่าซดน้ำบะหมี่หมด > เพื่อลดปริมาณเกลือ
    • (2). น่าจะมีไขมันทรานส์ กฎหมายไทยไม่บังคับให้แสดง ขอเดาว่า มีไขมันอิ่มตัวจากปาล์ม + ไขมันทรานส์สูง > วิธีง่ายๆ คือ อย่าซดน้ำบะหมี่หมดเช่นกัน เนื่องจากน้ำมันถูกความร้อนจะลอยออกมาผิวน้ำ
    • บะหมี่สำเร็จรูป... ยิ่งกินน้ำบะหมี่น้อยเท่าไร ยิ่งปลอดภัยเพิ่มขึ้น...

    นักการเมืองหรือผู้บริหารอาจจะมี 2 ประเภท...

    • (1). กินอย่างเดียว + ไม่ทำลายคนดี
      (2). กินด้วย + ทำลายคนดีด้วย
    • ประเภท (2) นี่ทำลายชาติมากๆ เลย

    ตัวอย่างที่ชัดพบในกัมพูชา... เขมรแดงทำลายคนที่มีความรู้ไปกว่าครึ่งประเทศ

    • ดีที่ยังมีคนเขมรส่วนหนึ่งหนีไปต่างชาติ หรือหลบๆ ซ่อนๆ อยู่ได้...
    • เพิ่งอ่านสาเหตุที่บริษัทซีเกต(ผลิตฮาร์ดดิสค์)หันไปลงทุนในมาเลเซียแทนไทย

    ข่าวว่า...

    • (1). ไทยมีช่างฝีมือน้อย (ที่จบปวช., ปวส.) คนไทยชอบเรียนปริญญา ไม่ชอบเรียนช่าง
      (2). กัมพูชายิ่งหนักใหญ่ ตอนนี้ผลิตวิศวกรได้เพียงปีละ 12 คน
    • ได้อ่านสิ่งที่ยังไม่รู้ เป็นมงคลกับชีวิต
    • ขอบพระคุณมากครับ

    ได้ความรู้หลายอย่างเลยค่ะ แสดงว่าทานบะหมี่แบบแห้งจะดีกว่าแบบน้ำ ก็ดีเลยค่ะ เพราะชอบน้ำมาผัดแห้ง แต่เดี๋ยวต้องระวังการใช้น้ำมันมากขึ้น

    ขอแทรกเพิ่มเติมค่ะ คนออสเตรเลียเรียนช่างมากกว่าเรียนปริญญา จบวิชาชีพเค้านิยมทำงานเลย แค่ประมาณ 50% ที่เรียนต่อปริญญา ยิ่งทางด้านไอที และบัญชียิ่งขาดแคลน ทำให้คนจีนมาเรียนไอทีและบัญชีที่ออสเตรเลียเพื่อหวังจะเป็นประชากรของที่ออสเตรเลียเยอะมากเลยค่ะ

    ขอขอบคุณอาจารย์บวร และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

    • ขอขอบพระคุณอาจารย์เช่นกัน
    • ขอให้อาจารย์มีสุขภาพดี... กับเบรคดีๆ ครับ
      (ทั้งคอฟฟี่เบรค และเบรครถเลย)

    ขอขอบคุณอาจารย์ IS และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

    ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่อะไรทำนองนี้...

    • (1). ถ้าเราไปซื้อกิน > ชนิดแห้ง เช่น บะหมี่แห้ง ฯลฯ จะมีน้ำมันมากกว่าชนิดน้ำ เช่น บะหมี่น้ำ ฯลฯ  เนื่องจากนิยมใช้น้ำมันหมูมาคลุกกันฝืดคอ
    • (2). ถ้าเป็นบะหมี่สำเร็จรูป > มีเกลือปนอยู่ในบะหมี่และเครื่องปรุงชนิดแห้ง(ผง) & มีน้ำมันปนอยู่ในซองเครื่องปรุงชนิดเปียก เช่น ซองน้ำพริก ซองน้ำมัน 

    ถ้ากินบะหมี่สำเร็จรูป....

    • (1). ลดเกลือได้โดยใส่เครื่องปรุงแห้ง(ผง) 1/2 ซอง หรือกินน้ำไม่เกิน 1/2 ของน้ำบะหมี่
      (2). ลดน้ำมันได้โดยใส่เครื่องปรุงเปียก 1/2 ซอง หรือกินน้ำไม่เกิน 1/2 ของน้ำบะหมี่ เนื่องจากน้ำมันละลอยอยู่หน้าน้ำบะหมี่

    ขอบคุณความรู้จากอาจารย์ IS ครับ... เรื่องราวจากออสเตรเลียน่าสนใจมาก ออสเตรเลียเป็นทวีปที่เป็น "ดาวรุ่ง (rising star continent)"

    ถ้าอาจารย์เล่าเรื่องออสเตรเลีย + ภาพประกอบน่าจะมีสมาชิกติดตามกันมากมายเลยครับ

    • (1). คนไทยนิยมเรียนให้ได้ปริญญา เข้าใจว่า สังคมไทยเป็นสังคมที่มีลำดับชั้น (heirarchy)หรือสังคมแนวดิ่ง (vertical) สูง สังคมแบ่งคนเป็นพวกปริญญา กับพวกไม่จบปริญญา > ทำให้เกิด "ปริญญาโหล" จบแล้วหางานทำยาก
      (2). สังคมฝรั่งไม่ค่อยจะรังเกียจอาชีพช่าง นอกจากนั้น... ดูเหมือนช่างจะมีรายได้ดีไม่แพ้คนจบปริญญา ทำให้อาชีพช่าง(จบ ปวช./ปวส.)ไม่ขาดแคลนเหมือนไทย
      (3). อาชีพ IT & บัญชีดูจะขาดแคลนไปทั่วโลก... เนื่องจากโลกยุคใหม่ใช้ IT เพิ่มขึ้น + ต้องการระบบตรวจสอบการเงิน(บัญชี)แบบมืออาชีพมากขึ้น

    ผมไม่เคยไปอเมริกา ยุโรป อาฟริก ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น... อาศัยอ่านและฟังข่าว ถ้าผิดพลาดอย่างไร ขออาจารย์ iS โปรดชี้แนะด้วย // ขอบคุณครับ

    เรียน อาจารย์หมอวัลลภ

    เรื่อง คอฟฟี่เบรค นี่เราน่าจะเปลี่ยนวัฒนธรรมแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรือ การประชุมที่ใดก็ตาม เห็นแต่ กาแฟ และ ขนมประเภทต้องใช้แป้ง +ไขมัน ..น่าจะเปลี่ยนเป็น ขนมไทย น้ำผลไม้ หรือ น้ำสมุนไพร เลยน่าจะดี นะครับ

    วันนี้ผมไปที่ศูนย์ไบโอเทค ที่ ม.แม่โจ้ ดูข่าวประชาสัมพันธ์ เห็นข้อมูลหนึ่งน่าสนใจ คือ เรื่องแคลเซี่ยมในอาหาร

    ปรากฏว่า งาดำ มีสูงมากเลย และที่ยังไม่ค่อยเข้าใจ ที่วิเคราะห์ ก็คือ ผงกระหรี่ มีแคลเซี่ยมสูงมากกว่าหลายเท่า

    อาจารย์คิดว่า ผงกระหรี่ น่าจะมีแคลเซี่ยมสูงจากส่วนประกอบใดครับ? 

    ผมนึกๆส่วนผสมแล้ว นึกไม่ออก 

    ...

    ผมเคยเห็นรูป ขยายเส้นเลือดที่เกรอะกรังไปด้วย ไขมันแล้ว น่ากลัวมากเลยครับ

    คิดว่าเหมือนท่อน้ำที่ มีตะกรัน แคบลงๆ ปั๊มน้ำ(หัวใจ) คงทำงานหนักขึ้นเรื่อย >>>ความดันเลือดเลยสูง โรคหัวใจก็ถามหา >>>เผลอๆ ร่างกายล้มเหลวทั้งระบบ

    ขอบคุณอาจารย์หมอกับเรื่องราวดีๆครับ...ได้ความรู้มาก 

    • สนับสนุนความคิดน้องจตุพรครับ
    • ถ้าเป็นน้ำมะตูม น้ำกระเจี๊ยบ น้ำมะพร้าว ดูน่าจะดีนะครับ อาจมีขนมไทยเช่น ทองหยิบ ทองหยอดและนามสกุลผมครับ
    • ขอบพระคุณคุณหมอมากครับ

    ขอขอบคุณอาจารย์จตุพร และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

    • คอฟฟี่เบรคนี่... ถ้าเป็นขนมไทย น้ำผลไม้หรือน้ำสมุนไพรได้น่าจะดีอย่างที่อาจารย์แนะนำ
    • งาดำมีแคลเซียมสูงมาก... ดูจะประมาณ 10 เท่าของนม

    ส่วนผงกะหรี่นี่... ไม่ทราบจริงๆ

    • ผงกะหรี่เป็นเครื่องปรุงที่มีอะไรหลายๆ อย่างปนกัน มีขมิ้นด้วย
    • ขอให้อาจารย์มีสุขภาพดีครับ ทราบจากประวัติว่า อยู่เมืองปายที่มีเอกลักษณ์ รักษาขนมธรรมเนียมไทยไปพร้อมๆ กับการท่องเที่ยวได้ นับว่า น่าสรรเสริญมาก...

    ขอขอบคุณอาจารย์ขจิต และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

    • ถ้าเปลี่ยนคอฟฟี่เบรคเป็นแบบที่อาจารย์ว่าน่าจะดี...
    • ถ้าเปลี่ยนไม่ได้... เสนอให้
    • (1). เลือกใช้นมไม่มีไขมัน หรือนมไขมันต่ำแทนคอฟฟี่เมต
      (2). กินขนมฝรั่ง ไอศกรีม หรือขนมสำเร็จรูปแต่น้อย หรือนานๆ ครั้ง
      (3). กินผัก ผลไม้แทนขนมหวาน(ถ้าทำได้)

    ขอให้อาจารย์ และท่านผู้อ่านทุกท่านมีสุขภาพดี... มีเบรคดีๆ ไว้คลายเครียด(คอฟฟี่เบรค)ครับ

    ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท