ในตอนที่ ๒ (click) คุณวราภรณ์เล่ามาถึงจุดเปลี่ยนของวิธีการหาคนมาเป็น 'คุณอำนวยชาวบ้าน' และเปลี่ยนวิธีคิดของนักพัฒนาเอกชน จากมุ่งพัฒนาแบบให้ชาวบ้านพึ่งพานักพัฒนา มาเป็นมุ่งให้ชาวบ้านพึ่งตนเอง มองเห็นจุดแข็งของชุมชนเอง มาอ่านต่อกันนะครับ
"ในส่วนของการเพิ่มคุณภาพของวิทยากรกระบวนการทั้ง 2 รุ่นนี้ เราได้นำหลักการพึ่งตนเองมาออกแบบกระบวนการเรียนรู้ให้ชัดเจนมากขึ้นเพื่อปรับฐานคิดในเรื่องการพึ่งตนเอง ไม่เช่นนั้นวิทยากรกระบวนการอาจพาชาวบ้านเข้าสู่กระแสหลักอีกเหมือนเดิม เริ่มตั้งแต่การรื้อฟื้นประวัติศาสตร์ท้องถิ่น การค้นหาระบบความรู้ท้องถิ่นและพลังท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีการค้นหาความรู้จากภายนอกด้วยการศึกษาดูงาน การเข้าร่วมประชุมสัมมนาต่างๆ ทั้งรูปแบบวิชาการและแบบพื้นบ้าน เพื่อให้เห็นรูปแบบการพึ่งตนเองทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว กลุ่ม องค์กร และชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการเกษตร การแปรรูป การตลาด การออมทรัพย์และสวัสดิการ การรวมกลุ่ม/องค์กร และวิสาหกิจชุมชน
และที่วิทยากรกระบวนการหลายคนได้กล่าวถึงว่ามีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเขามากที่สุดคือ “การฝึกอบรมเพื่อการเรียนรู้ตนเองแบบผ่านประสบการณ์” ของเสมสิกขาลัย ในหลักสูตร “การสร้างสรรค์ชุมชนและการสร้างภาวะผู้นำ” นอกจากนี้ยังมีการฝึกอบรมการจับประเด็น และการเป็นวิทยากรกระบวนการแบบมีส่วนร่วมของสถาบันต้นกล้า (คุณกิตติชัย งามชัยพิสิฐษ์) อีกด้วย
ขณะเดียวกันกับการเรียนรู้จากภายนอก เราได้กระตุ้นให้พวกเขาสร้างรูปธรรมเพื่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง และสร้างพื้นที่ให้กับตัวเองในชุมชน ตรงนี้สำคัญมาก เราให้อิสระในการกำหนดประเด็นหรือกิจกรรมสำหรับพวกเขาอย่างเต็มที่ กิจกรรมของวิทยากรกระบวนการจึงมีรูปแบบแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความสนใจ เปิงบ้าน (ลักษณะเฉพาะของกลุ่มคน) และพลังท้องถิ่นที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น ความรู้ ทรัพยากร กลุ่มคน วัฒนธรรมประเพณี เป็นต้น"
คุณวราภรณ์ ไม่ได้เล่ารายละเอียดในวิธีฝึก 'คุณอำนวยชาวบ้าน' แต่ก็ได้ให้หน่วยงานจัดกิจกรรมฝึกทักษะที่สำคัญ คือเสมสิกขาลัย และสถาบันต้นกล้า
วิจารณ์ พานิช
๒๕ กค. ๔๙
ไม่มีความเห็น