ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอย่างไรขี้หลงขี้ลืมไปทุกอย่าง
เฉิ่มๆเฉื่อยๆไปซะทุกอย่าง
เมื่อวันพฤหัสที่ 27 ก.ค. 49
ทำงานวุ่นไปหมดเลย มีหลายๆงานเข้ามาให้ทำตลอด
เป็นวันแรกของงาน NU BOOKS FAIRที่สำนักหอสมุดจัดขึ้น
เราก็ออกไปถ่ายรูป และต้อนรับแขกที่มาร่วมงานแค่นั้นยังไม่พอ
พรุ่งนี้ก็มีงานนเรศวรวิจัยอีกสำนักหอสมุด
ก็ต้องไปจัดแสดงด้วย เราก็ออกไปขนของเพื่อจัดเตรียมนิทรรศการเหมือนกันพอขนของไปเสร็จก็แวะไปเที่ยวงาน มหกรรมดิจิตอล CITCOMS จัดขึ้นมา ที่อาคารอเนกประสงค์เราก็เดินได้ไม่เท่าไหร่เพราะไม่มีรู้จะซื้ออะไร (ไม่มีตัง 555)…
จากนั้นก็กลับที่ทำงาน... อีก 15 นาทีเลิกงานก็ไปเล่นห้อง ½ ฝ่ายพัฒนา เล่นไปเล่นมานึกขึ้นได้ว่าจะโทรหาเพื่อนแต่โทรศัพท์เจ้ากรรมหายไปไหนหาไม่เจอ เราก็ค้นหา เพื่อนๆก็ช่วยกันหา และโทรหาเหมือนกัน โทรติดนะ แต่ไม่มีคนรับเสียงโทรศัพท์ก็ไม่ดัง หาอยู่นาน นึกแล้วนึกอีก ก็นึกไม่ออกว่าไปไว้ไหนซักพักน้ำตาก็ไหลออกมา หาไม่เจอแล้วก็กลับไปที่ห้องร้องไห้อีก สรุปคืนนี้ร้องไห้ทั้งคืน โทรศัพท์ก็ยังโทรติด
(ไหว้พระขอพร จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพระนเรศวร)
วันที่สองของโทรศัพท์หาย 28 ก.ค. 49
เตรียมของไปที่สถาบันวิจัย (โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร)ทำงานอย่างจิตใจไม่สงบ กระวนกระวาย เดินไปเรื่อยๆถ่ายรูปตามซุ้มต่างๆและก็คุยกับเพื่อนจากนั้นก็ขอพี่ที่ไปด้วยกลับที่ทำงานและก็เดินหาโทรศัพท์ต่อแต่ก็ไม่เจอ ร้องไห้โหอีกแล้วโทรศัพท์จ๋า หายไปไหน ...
กลับมาที่ห้องอาบน้ำนอน ก็นอนไม่หลับ เหนื่อยๆ เตรียมงานต้องทำอีกมีรายงานตอนเช้าวันเสาร์ ต้องพรีเซ้นด้วยหลับตอนตี4 ลองโทรไปยังมือถือ ยังติดเหมือนเดิมดีใจ เพราะยังอุ่นใจว่าโทรศัพท์เรายังอยู่ดี ไม่มีใครเอาไป (คิดไว้ตลอดเลย)
ตื่นมาเช้าวันเสาร์ 29 ก.ค. 49 เวลา 06.00 น.
อาบน้ำแต่งตัวไปร่วมงานบวงสรวง พระนเรศวรไปถ่ายรูปให้กับผอ.สำนักหอสมุด และเพื่อนๆร่วมงานเจอหลายๆคน เวลาพิธีก็นึกถึงให้ขอเจอโทรศัพท์ด้วย (เศร้า)...
เสร็จจากพิธีการก็กลับไปเรียน ว่าจะพรีเซ้นรายงานที่ทำถึงตี4แต่ก็ไม่ได้พรีเซ้นอีกแล้ว อาจารย์ให้ไปดูงานที่นเรศวรวิจัยก่อนไปก็เซ็นชื่อกับอาจารย์สภาณี และรับข้อสอบมิดเทอมไปทำเสร็จแล้วก็ไปลงชื่อเข้าร่วมงาน...
อยู่ได้ซักพักก็ออกไปรับอาหารว่างพร้อมด้วยอาหารกลางวัน ทานซะอิ่มเลย เยอะแยะไปหมด เอาคูปอง คนอื่นมาใช้อีกทานเสร็จก็กลับมาที่ทำงานมาช่วยงานที่ สำนักหอสมุดจัดอีกจัดสถานที่และรับหน้าที่เป็นพิธีกรด้วยพูดไปก็อายเค้าเนอะคนเยอะไปหมด แต่ก็สนุกซักพักมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น พี่เค้าวิ่งมาบอกว่าโทรศัพท์ดังเราก็มาดู แต่รับไม่ทันจึงโทรกลับ
ดรีม “สวัสดีคะ”
+++ “ขอสายคุณดรีมครับ”
ดรีม “กำลังพูดอยู่คะ”
+++ “ผมเจอโทรศัพท์คุณครับ”
ดรีม “จริงเหรอคะ เจอที่ไหนเหรอคะ”
+++ “อยู่ตรงที่จอดรถ ตรงสำนักหอสมุด อย่างไรคุณดรีมรีบมารับนะครับผมจะกลับแล้วผมมาจากต่างจังหวัด”
ดรีม “คะ ไปเดี๋ยวนี้แล้วคะ”
จากนั้นดรีมก็ได้โทรศัพท์มา ไม่รู้จะขอบคุณเค้าอย่างไรเลยใจดีมากๆ เค้าเห็นข้อความจาก SMS ที่เพื่อนดรีมส่งไปให้ติดต่อกลับมาขอบคุณมากๆเลยนะคะโทรศัพท์เจ้ากรรม หายไป 3 วัน 2 คืน คิดว่าจะไมได้คืนแล้วรอดรีมจนได้นะต่อไปนี้จะไม่ให้หายไปไหนเลยเลิกหลงๆลืมๆได้แล้ว ดรีม........................
อ่านบันทึกนี้ของ"คุณดรีม" ก็ต้องลุกขึ้นเดินตามหาโทรศัพท์เหมือนกัน ที่แรกที่ไปคือ "ที่ตู้เย็น" ตามคุณขจิตไปค่ะ แหมนึกว่าอยู่ในตู้เย็น นั่งอ่านพลางขำ ก๊าก ก๊าก ออกมาพลาง จนลูกสาวถามว่าแม่ตลกอะไร แม่ขำน้าฝอยทองค่ะ ก๊าก ก๊าก ก๊าก! คุณดรีม เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้บ่อย ๆ ต้องย้อนระลึกให้ดี ส่วนใหญ่จะเจอค่ะ ถ้าไม่มือดีหยิบไปซะก่อนหน้าที่เราจะนึกออก
ดีใจด้วยนะคะที่ได้โทรศัพท์คืน น้อยคนนักจะโชคดีแบบนี้ อ่านแล้วก็นึกถึงโทรศัพท์ของตัวเองที่หายไปแต่ไม่ได้คืน.. เหมือนกัน
ดีใจด้วยจ้า...