เธอคือ...ดอกไม้งาม


ดอกไม้งาม มีสีสวย แต่ไม่มีกลิ่น ฉันใด วาจาสุภาษิต ย่อมไม่มีผลแก่บุคคลผู้ไม่ทำตาม ฉันนั้น แต่วาจาสุภาษิตย่อมมีผลแก่ผู้ทำตามด้วยดี เหมือนดอกไม้งามสีสวย และมีกลิ่นหอม

หลวงปู่ ติช นัท ฮันท์ เขียนไว้ในหนังสือ Touching Peace – practicing the art of mindful living ตอนหนึ่งว่า เราทุกคนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างก็เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงาม เปลือกตาของคนเราคล้ายกับกลีบกุหลาบ โดยเฉพาะในยามที่เราหลับตา หูของเราเหมือนดอกผักบุ้งที่กำลังฟังเสียงนกร้องอันไพเราะเพราะพริ้ง และมือที่ประนมกันอยู่ของเราก็เหมือนดอกบัวตูม การฝึกของเซ็นคือการพยายามทำให้ความเป็นดอกไม้ในตัวเรางดงามมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ ไม่เพียงเพื่อประโยชน์แก่ตัวเราเองแต่เพื่อความสุขของคนรอบข้างเราด้วย

ดอกไม้เมื่อขาดน้ำก็ย่อมเหี่ยวเฉาเราต้องตัดแต่งก้านให้น้ำอีกที ดอกไม้จึงจะสดชื่นขึ้นมา คนเราในยามเหน็ดเหนื่อยหากตั้งใจเอาใจจดจ่อต่อลมหายใจเข้าออก จะทำให้เราสดชื่นขึ้นทันตา คนรอบข้างเห็นเราสดชื่นขึ้นเขาเองก็จะรู้สึกดีขึ้น การทำสมาธิคือการนำความสงบ ความรื่นรมย์ และความเป็นหนึ่งเดียว มาสู่ตัวเราเองและคนรอบตัว การหยุดคือการเริ่มต้นของการทำสมาธิ การจะทำให้ดอกไม้ในตัวเราสดชื่นเราต้องหยุดความกังวล ความพะวง ความโกรธ และความเศร้าทั้งหลายทั้งปวง เพื่อที่เราจะได้รู้สึกสงบ มีความสุขและยิ้มได้อีกครั้ง

ในยามที่มีสถานการณ์ที่ไม่พึงใจเกิดขึ้นสิ่งแรกที่เราควรทำคือหยุด เพื่อให้พลังงานด้านลบนั้นหยุดก่อน การหยุดไม่ได้หมายถึงการเก็บกดแต่สิ่งแรกที่เกิดขึ้นจากการหยุดคือความสงบ เมื่อเรารู้สึกถึงความโกรธ ความกลัว ความหงุดหงิดในตัวเรา เราไม่จำเป็นต้องสลัดทิ้งความรู้สึกเหล่านั้นไป เหมือนมหาสมุทรในยามคลื่นแรงเราจะไม่หยุดคลื่นแรงโดยเอาน้ำทะเลไปทิ้งเสียเพราะมันจะไม่เหลืออะไร แค่การหายใจเข้าออกด้วยความรู้สึกตัว มันจะสามารถสงบพายุแห่งอารมณ์นั้นได้ การหายใจเข้าออกเป็นวิธีการหยุดอารมณ์โกรธ กลัว และไร้สุขนั้นได้ดี

โดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องใด หายใจเข้าให้บอกกับตัวเองว่า หายใจเข้า ฉันรู้ว่าหายใจเข้า หายใจออกให้บอกกับตัวเองว่า หายใจออก ฉันรู้ว่าหายใจออก หากเราสามารถฝึกการหายใจเข้าออกแบบนี้ให้ได้บ่อยครั้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่เพียงเฉพาะในยามที่เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ขึ้น หากทำได้ในทุกทีที่มีโอกาสไม่ว่าจะนั่ง นอน หรือยืน เราจะมีความสุขมากขึ้น อยู่ในปัจจุบันขณะได้ดีขึ้น และจากนั้นลองหายใจเข้าแล้วบอกกับตัวเองว่า หายใจเข้า ฉันเห็นตัวเองเป็นดั่งดอกไม้ หายใจออกให้บอกกับตัวเองว่า หายใจออก ฉันรู้สึกสดชื่น

แม้เราจะเป็นดอกไม้แต่ทั้งชีวิตที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล ความโกรธ เราอาจไม่สดชื่นเหมือนที่เคยเป็นและเราอาจไม่ได้รักษาความเป็นดอกไม้นั้นไว้ให้ดี หายใจเข้าออกด้วยความรู้สึกสดชื่นจะช่วยให้ดอกไม้นั้นเบ่งบานอีกครั้ง คนบางคนที่ดูสดชื่นใครๆก็อยากอยู่ใกล้เหมือนดอกไม้งามที่มีแต่คนชื่นชม ดอกไม้ที่งดงามนำสุขและความสงบมาให้ผู้คนรอบข้างเสมอ

เมื่อเป็นดอกไม้ที่สดชื่น เบ่งบานแล้วก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีกหากเราจะเป็นดอกไม้งามที่มีกลิ่นหอมหวลอยู่ด้วย

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ใน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๑๗ ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปุปผวรรคที่ ๔ ฉัตตปาณิอุบาสก ว่า "ดอกไม้งาม มีสีสวย แต่ไม่มีกลิ่น ฉันใด วาจาสุภาษิต ย่อมไม่มีผลแก่บุคคลผู้ไม่ทำตาม ฉันนั้น แต่วาจาสุภาษิตย่อมมีผลแก่ผู้ทำตามด้วยดี เหมือนดอกไม้งามสีสวย และมีกลิ่นหอม”

เมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ที่เชตวนาราม เมืองสาวัตถี ได้มีฉัตตปาณิผู้เป็นอุบาสกอยู่ในเมืองสาวัตถี เป็นผู้รอบรู้ในพระพุทธพจน์และได้บรรลุมรรคผลเป็นอนาคามี เขารักษาอุโบสถแต่เช้าตรู่ทุกวันและไปเฝ้ารนนิบัตพระผู้มีพระภาคเจ้าทุกวัน พระเจ้าปเสนทิโกศลได้ขอให้ฉัตตปาณิอุบาสกเข้าไปสอนธรรมะในพระราชวัง แต่ฉัตตปาณิอุบาสกปฎิเสธ

พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จไปเฝ้าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทูลขอนิมนต์พระองค์และภิกษุสงฆ์เสด็จไปสู่ราชนิเวศน์ เพื่อเสวยเป็นเนืองนิตย์และแสดงธรรมแก่พระนางมัลลิกาเทวีและพระนางวาสภขัตติยาพระมเหสีทั้งสอง แต่พระองค์ทรงปฏิเสธด้วยว่าเป็นการมิควรที่พระพุทธเจ้าจะไปเสวยในที่แห่งเดียวเป็นประจำ พระเจ้าปเสนทิจึงว่าถ้ากระนั้นขอให้มอบให้เป็นหน้าที่ของภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของพระอานนท์

วันหนึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถามถึงผลการเรียนธรรม ของพระนางทั้งสองกับพระอานนท์ พระอานนท์ทูลว่าพระนางมัลลิกาเทวีนั้นทรงตั้งพระทัยศึกษาโดยเคารพ ท่องพระพุทธพจน์โดยเคารพ ส่วนพระนางวาสภขัตติยาไม่เรียนโดยเคารพ ไม่ท่องพระพุทธพจน์โดยเคารพ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสดับถ้อยคำของพระอานนท์แล้ว จึงตรัสว่า

"อานนท์... ธรรมที่เรากล่าวดีแล้ว ย่อมไม่มีผลแก่ผู้ไม่ตั้งใจเรียน ฟัง ท่อง และแสดง เหมือนดอกไม้สีสวย แต่ไม่มีกลิ่น แต่ธรรมของเราจะมีผลดียิ่งแก่ผู้เรียนผู้ฟังโดยเคารพ"

แด่ดอกไม้งามที่มีกลิ่นหอมจรุงใจทุกดอกค่ะ....

 

หมายเลขบันทึก: 415193เขียนเมื่อ 21 ธันวาคม 2010 00:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

สวัสดีค่ะคุณปริม

มาชมดอกไม้งาม รับข้อคิดดีๆยามเช้าค่ะ

ตระหนักรู้ถึงอารมณ์ ทำสมาธิ หายใจเข้า ออกด้วยความสดชื่นช่วยให้ดอกไม้เบ่งบานสดใส

ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ

อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณปริม

หายใจเข้าออก ดั่งดอกไม้บาน

หยุดคือความสงบ พบทางธรรม

ภาพสวยงามมากๆ สุขสันต์วันศุกร์นะคะ :)

สวัสดีค่ะคุณ XXX

สวัสดีปีใหม่นะคะ.....

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

สวัสดีค่ะคุณถาวร ขอให้ปีใหหม่นี้เป็นปีแห่งดอกไม้บานนะคะ

&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&

สวัสดีค่ะคุณปู เช้านี้พี่ชายแนะให้นำเอา clip animation เพลงดั่งดอกไม้บานมาแปะไว้ในบทความนี้ เลยถึงบางอ้อกับประโยคที่คุณปูใช้

"หายใจเข้าออก ดั่งดอกไม้บาน"

ขอให้มีความสุขกับการเป็นดอกไม้บานนั้นค่ะ

ขอโมทนา ปีใหม่ขอให้จิตใจ โปร่งเบาสบาย สุขภภาพกาย สุขภาพใจ

ดั่งสายน้ำฉ่ำเย็น ดั่งนภากาศ อันบางเบา

สาธุ

"อานนท์... ธรรมที่เรากล่าวดีแล้ว ย่อมไม่มีผลแก่ผู้ไม่ตั้งใจเรียน ฟัง ท่อง และแสดง เหมือนดอกไม้สีสวย แต่ไม่มีกลิ่น แต่ธรรมของเราจะมีผลดียิ่งแก่ผู้เรียนผู้ฟังโดยเคารพ"

ขอบคุณครับ อาจารย์ ;)

กราบนมัสการพระอาจารย์ค่ะ

เพลงดั่งดอกไม้บาน ฟังแล้วรู้สึกตรึงใจมากค่ะ

ฟังแล้วต้องกลับไปอ่าน บทความเราเป็นดั่งดอกไม้ของหลวงปู่ ติช นัท ฮันท์ อีกครั้ง

ขอบคุณมากค่ะ

^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^

สวัสดีค่ะอาจารย์ Wasawat Deemarn

ดอกไม้งามเพราะใจอันงดงามของคนที่มองค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท