การเปิดการค้าเสรี หรือ Free Trade Area นั้นเป็นการเปิดการค้าเสรีกันระหว่างประเทศคู่สัญญา โดยลดหรือยกเลิกภาษีระหว่างกัน ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนและเดินทางโดยเสรีของ สินค้า คน หรือ เงินทุน (Free Movement) ใช้กับการค้าภาคสินค้าและภาคบริการ
การค้าภาคบริการที่สำคัญ เพราะเป็นธุรกิจที่บ่งบอกถึงความมั่งคั่งของประเทศและผูกเกี่ยวกับเสถียรภาพเศรษฐกิจ คือ การเงินการธนาคารการเปิดการค้าเสรีทางด้านการเงินนั้น มีผลกระทบที่สำคัญ คือ
ด้านกฎหมายเมื่อมีการเปิดเสรีทางด้านการเงินแล้ว หมายความว่าย่อมมีการลงทุนระหว่างประเทศคู่สัญญามากขึ้น เมื่อเกิดปัญหาก็เท่ากับปัญหาต้องมีมากและมีความซับซ้อนขึ้นด้วย การที่กฎหมายของประเทศไม่มีการเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้อง ย่อมทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ครอบคลุมทั้งหมด ปัญหาที่อาจเกิดจากการที่มีการติดต่อระหว่างประเทศกันมากขึ้น ก็เช่น ปัญหาการฟอกเงิน เพราะเมื่อเปิดเสรีทางด้านการเงิน หมายถึงเงินสามารถหมุนเวียนระหว่างประเทศได้ง่ายขึ้น ย่อมเป็นช่องทางที่ทำให้เกิดการฟอกเงินที่ผิดกฎหมาย ในกลายเป็นเงินที่ถูกกฎหมายตามระบบได้ ซึ่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องก็คือ พระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน ที่ต้องตามอุดช่องโหว่ หรือช่องทางใหม่ที่ผู้กระทำความผิดนำมาใช้
ปัญหาต่อมาคือ กรณีการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศ กรณีที่เงินจากต่างประเทศเข้าธนาคารในประเทศไทย และเงินในประเทศไทยไหลออก หรือไปฝากในธนาคารต่างประเทศ การเกิดธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศนี้ เมื่อมีมากขึ้น ความผิดพลาดหรือปัญหาย่อมมีมาก และหลากหลายขึ้น
ปัญหาเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจบริการด้านการเงินก็เป็นอีกปัญหาที่สำคัญ คือเมื่อมีการเปิดเขตการค้าเสรี ย่อมรวมถึงภาคบริการด้านการเงินด้วย เช่นกรณีการถือครองหุ้นของต่างชาติในธนาคารสัญชาติไทย ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 25% ตามพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย แต่เพื่อให้การค้าเสรีเป็นไปได้หมายความว่าต่อไปในอนาคตคงต้องมีการปรับเปลี่ยนให้สามารถถือครองได้มากขึ้น หรือกรณีที่สาขาธนาคารต่างประเทศไม่สามารถเปิดสาขาย่อยได้ ซึ่งเมื่อมีการเปิดการเงินเสรีกันจริงๆ ไม่ทราบว่าข้อบังคับนี้จะใช้ได้ต่อไปหรือไม่ หรือแม้แต่กฎหมายเกี่ยวกับการที่ต่างประเทศจะประกอบกิจการธุรกิจทางด้านการเงินในประเทศไทย ตาม พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวที่มีข้อจำกัด ก็อาจจะต้องเปิดกว้างเพื่อรับการค้าเสรีมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ต้องพิจารณาประกอบกับความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจของประเทศด้วย
ด้านเศรษฐกิจเมื่อมีการเปิดเสรีทางด้านการเงิน หมายความว่าจะมีกระแสเงินไหลเข้า-ออกระหว่างประเทศอย่างเสรี ซึ่งถ้าประชาชนหันไปใช้บริการทางด้านการเงินของต่างประเทศกันมาก ย่อมก่อให้เกิดการลงทุนในต่างประเทศมากกว่าในประเทศ ถ้าเป็นกรณีที่ประเทศคู่สัญญาเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจดีกว่าประเทศไทย อาจทำให้ประเทศไทยเผชิญกับปัญหาการขาดดุลได้ ในข้อตกลงเปิดการค้าเสรีหลายฉบับประเทศไทยพยายามที่จะระบุเป็นข้อเงื่อนไขในสัญญาว่า ให้ประเทศไทยต้องมีอิสระในการดำเนินมาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาคและการเงินโดยไม่ผิดความตกลง ซึ่งในความเป็นจริงจะเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดก็ยังไม่แน่นอน เพราะประเทศคู่สัญญาเองก็คงต้องการความมั่นใจในการลงทุนในประเทศไทย หากประเทศไทยจะทำการอย่างใดอย่างหนึ่งเปลี่ยนแปลงเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจของประเทศ ก็อาจกระทบความเชื่อมั่นของคู่สัญญาได้
สถาบันการเงิน เป็นธุรกิจที่เกี่ยวพัน และสะท้อนถึงเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นการที่รัฐจะควบคุมทิศทางเศรษฐกิจของประเทศ ก็ย่อมต้องใช้ผ่านทางนโยบายและความร่วมมือจากด้านเอกชน แต่เมื่อสถาบันการเงินเป็นบริษัทของต่างชาติ หรือถือหุ้น หรือบริหารงานโดยต่างชาติ โอกาสที่รัฐจะสามารถทำให้เป็นไปได้ตามนโยบายย่อมเป็นเรื่องที่ลำบากขึ้น
ในแง่ของเอกชนปัญหาที่จะพบได้ คือ ปัญหาการแข่งขัน ซึ่งถ้าสถาบันการเงินของต่างประเทศมีระบบการจัดการที่ดีกว่า เมื่อเปิดเสรีต้นทุนย่อมต่ำกว่าสถาบันการเงินของไทย โอกาสที่สถาบันการเงินของไทยจะประสบปัญหาขาดทุน และปิดตัวลงจะเกิดขึ้นได้
นอกจากธุรกิจทางด้านธนาคารที่มีผลกระทบ ธุรกิจทางด้านอื่นที่อาจได้รับผลกระทบก็เช่น ทางด้านหลักทรัพย์ ทางด้านประกันภัย หรือการให้บริการทางด้านNon-bank
การเปิดเสรีทางด้านการเงินนั้น มีผลกระทบในหลายด้าน จึงต้องพิจารณาถึงผลดีผลเสียควบคู่กันไป รวมถึงแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นด้วย เพราะการเงินเป็นเรื่องที่สำคัญ เป็นตัวสะท้อนถึงความมั่นคง ความน่าเชื่อถือ รวมทั้งเป็นตัววัดความเจริญของประเทศอีกด้วย