ภาพรวมขบวนองค์กรการเงินชุมชน จากประสบการณ์ในพื้นที่ (ครูชบ ยอดแก้ว)ตอนแรก


การพัฒนาคน กับทุนทางสังคม
เราจะเดินอย่างไรผมยังยืนหยัดอุดมการณ์เดิมไม่มีเพี้ยน อุดมการณ์เดิมของผม คือการพัฒนาคน เพราะผมเชื่อว่าทุนในสังคมนี้มีอย่างน้อย 7 ทุน

                1)  ทุนคน ในคนมี 2)  ภูมิปัญญาในสมอง เพราะฉนั้นห้ามดูถูกในภูมิปัญญาซึ่งกันและกันอาจจะน้อย ปัญญาน้อยจริงแต่เขาอาจจะมีภูมิปัญญาในเรื่องอื่น 3) ทุนศาสนาและวัฒนธรรม 4)  ทุนทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่า  5)  ทุนแรงงาน ทุกคนเกิดมามีแรงงานหมด 6)  ทุนเวลา เวลานี้เท่ากันหมด ผมให้ความสำคัญในทุนที่เป็นเงินตราอยู่อันดับที่ 7 เลย แต่ขณะนี้ท่านคิดว่าเงินตรานี้มาแรงเลย มาจนทำกระบวนการทุนที่ 1 ถึง 5 ล้มเลย เพราะฉนั้นทำอย่างไรให้ทุนทั้ง 7 ทุนในสังคมมันสมดุล ถ้าเกิดความสมดุลเกิดความพอเพียงสังคมเราก็มีความสุข สังคมดี คนมีความสุข ผมเชื่ออย่างน้ผมก็เริ่มพัฒฬนาคนมาตั้งแต่ ปี 2525 สมัยที่มีพระราชาดำรัสออกมา เรื่องคุณธรรม 4 ประการ มันมี สัจจะ ทมะ ขันติ จาคะ ละความชัวอะไรต่อะไรเยอะมากออกมา ผมก็เลยคิดกลุ่มสัจจะออมทรัพย์แบบพัฒนาครบวงจรชีวิต โดยหลักคิดว่าเมื่อเงินมาแรงเราก็ใช้เงินเป็นเครื่องมือแต่ไม่ใช่เป้าหมาย เป้าหมายคือคน ที่นี้หลักการออมทรัพย์พัฒนาคุณธรรมครบวงจรชีวิตมี เราจะต้องพัฒนาคนเป็นอันดับแรกเลยหากพัฒนาคนนี้ได้ทุนก็จะฟื้นขึ้นมา ท่านทราบไหมว่าบางพื้นที่ในขณะนี้ขายลูกเลย ขอให้ได้เงิน ขายยาเสพติดก็ขอให้ได้เงิน ขายทุกเรื่องให้ได้เงิน ชั่ว ขาดศีลธรรมอย่างไรไม่เกี่ยวขอให้ได้เงิน แม้แต่ข้าราชการยังไม่รักศักดิ์ศรีของตัวเองยังมีการคอรัปชั่น โกงเพราะอยากได้เงินอย่างเดียวเพราะศักดิ์ศรีมันลืมแล้ว บางคนเชื่อว่าหากมีเงินแล้วทำอะไรได้ทุกอย่าง ผมค้านตลอดว่าไม่จริงหากเงินเป็นพระเจ้าจริงตอนนี้คนรวยต้องไม่ตายแต่ตอนนี้คนรวยก็ตายเหมือนกัน ตายเหมือนคนจนเลยไม่หายใจเหมือนกันเงินเป็นส่วนประกอบของทุน ตอนนี้ผมก็เลยต่อสู่กับระบบนี้ว่าทุนมันจำเป็นผมก็ไม่ปฏิเสธเพราะเรานั่งรถก็ต้องใช้น้ำมัน ใช้เงิน แต่เราก็จะต้องใช้อย่างพอเพียง เหมาะสมกับทุนอื่น ๆ ด้วยอย่าให้มันมากกว่าคน จากแนวความคิดนี้ผมคิดว่า จะต้องพัฒนาคนให้มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ปราศจากโรคภัยทุกชนิดเน้นอนามัยส่วนบุคคล อนามัยสิ่งแวดล้อม 2. จะต้องพัฒนาคนให้มั่นคงทางเศรษฐกิจเน้นการงานพื้นฐานอาชีพ 3 . จะต้องพัฒนาคนให้เป็นประชาธิปไตยโดยมีพระมาหากษัตริย์เป็นประมุขนั่นคือวัตถุประสงค์ เราต้องการพัฒนาคนให้เกิดพฤติกรรม 1)  พัฒนาคนให้พึ่งตนเอง มีความเสียสละ เห้นแก่ประโยชน์ส่วนรวมไม่เห็นแก่ตัว 2)  ต้องพัฒนาคนให้มีวินัยในตนเองมุ่งมั่นให้เกิดความสำเร็จ 3)  ต้องพัฒนาคนให้ขยัน หมั่นเพียร ซื่อสัตย์และอดทน 4)  ต้องพัฒนาคนให้รู้จักคิด วิจัย และคิดอย่างมีเหตุผล 5) ต้องพัฒนาคนให้มีน้ำใจเป็นนักกีฬา ยกย่องผู้อื่น 6)  ต้องพัฒนาคนให้ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ โดยการรู้จักเป็นผู้ให้ เป็นผู้รับ เป็นผู้นำ และเป็นผู้ตามที่ดีด้วย เพราะฉนั้นเราอยากพัฒนาคนให้เกิดดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ทำอย่างไรให้เกิดอย่างที่ผมพูด ผมก็เลยคิด เรื่อง กลุ่มสัจจะออมทรัพย์พัฒนาคุณธรรมครบวงจรชีวิตขึ้นมา เมื่อ ปี 2525 และตั้งได้เมื่อปี  2526 และทดลองในตำบลน้ำขาว 11 หมู่บ้านแรก ๆ คนไม่เชื่อ ท่านสุบิณ ท่านสนใจก็นำไปขยายทั่วประเทศ ส่วนผมไม่ได้ขยายเลยผมได้แต่ 11 หมู่บ้านเพราะผมเป็นข้าราชการไปไหนไม่ได้เลย มันาติดยู่ที่ราชการนี้แหละ  แต่แนวความคิดนี้ก็ไปตันเหมือนกันเพราะไปเจอกลุ่มออมทรัพย์ต่าง ๆ มากมาย ออมทรัพยเพื่อการผลิต ออมทรัพย์เพื่อกู้  กู้แล้วปันผลไม่ได้ทำเรื่องสังคมแต่แนวคิดสัจจะออมทรัพย์พัฒนาคุณธรรมครบวงจรชีวิต ได้มาเท่ไหร่มาแบ่งครึ่ง ครึ่งหนึ่งปันผลตามหลักสหกรณ์เราไม่ปฏิเสธตะวันตกโดยเอาเงินมาวัดเป็นมูลค่าของเงิน 50% เรามาคิดแบบพุทธโดยให้สวัสดิการ วิธีให้เราไม่ได้ให้ตัวเงินเป็นตัวกำหนด ออม 10 บาท กับ 100 บาทจะต้องได้เท่ากันโดยการเอาสัจจะมาตัดสิน ถ้าคนไหนสัจจะครบ 12 เดือน ไม่เคยขาดเลยคนไปนอนโรงพยาบาลทางกองทุนจ่ายเลยคืนละ 30 บาทไม่เกิน 600 บาท ต่อปีต่อคน เราเอาความเป็นคนมีธรรมะ มีสัจจะมาวัดเขาเรียกว่าคุณค่าของคน ทางซ้ายมูลค่าของเงิน ทางขวาคุณค่าของเงิน เราจะเน้นเรื่องคุณค่าของคนเป็นหลัก เพราะฉนั้นแนวความคิดนี้เป็นเรื่องของธรรมะแล้วผมขยายแนวความคิดนี้ไปมันก็ตันนะ ออมทรัพย์มันก็ยึดเหมือนเดิม ทำสวัสดิการภาคประชาชนนี้นะออมทรัพย์ก็ให้มา 5% 10% ผมว่ามันก็เบิกได้ 1 ราย 2 รายนี้แหละข้างหลังก็นั่งด่าละซิจะเบิกจากที่ไหนได้ผมบอกว่าความคิดนี้ล้มในประเทสไทยล้มแน่ๆ  เลย มันเป็นไปไม่ได้จมแน่ ๆ เลยคนที่มันออมน้อย ๆ ปีละ 100 บาทขอ 50% ให้คนที่ออมมาก ๆได้กำไร 4000 ต่อปีขอมา 2000 ไม่แล้วคนนี้เป็นคนที่มีอำนาจในกลุ่ม แล้วพวกเหล่านี้ไม่ยืมคนที่ยืมคือคนจน คนออมน้อยยืมเสียดอกเบี้ย ตัวอย่างนี้เป็นพัฒนาการนายทุนจากนายทุนคนมาเป็นนายทุนรวมแล้วเวลาปันผลได้มากกรรมการไม่ต้องทำอะไรเลย เป็นนายทุนแบบใหม่ ผมไปลำปางไปเจอลูกสามารถ เขาก็ทำออมทรัพย์วันละบาทนี่แหละ  ผมว่าเปลี่ยนเถอะมาวันละบาทนี้มาจัดสวัสดิการเสียเลยไม่ต้องไปนั่งบริหารเงินแล้ว ผมได้ทดลองและผมก็เดินสายต่อออมทรัพย์ผมหยุดพูดเลย เพราะมันจบแล้วต่อไม่ได้ ได้แค่นี้ก่อให้เกิดมีที่ตราด และจันทบุรี ผมเลยคิดต่อว่า ออมทรัพย์เราคิดมาจากรายได้ ได้รายได้แล้วมาออม ผมก็เปลี่ยนมาคิดใหม่ว่าให้ไปเอามาจากรายจ่าย เพราะฉนั้นให้ลดรายจ่ายมาคนละบาทให้ลดจริง หากลดได้ลดอบายมุขเป็นลำดับแรกที่ไม่จำเป็นไปไม่ใช่ลดเรื่องอาหารนะ ไปลดที่สิ่งไม่จำเป็นมา 1 บาทแล้วไม่เอามาก สวัสดิการ 9 เรื่องที่ผมจะกล่าวถึงต่อไปนี้ แต่ตอนนี้ใช้เวลามา 10 นาทีผมก็ต้องหยุดเพราะผมเป็นผู้ปฏิบัติตามกติกา คือ ทุนต้องใช้ให้เหมาะสม

คำสำคัญ (Tags): #ทรงพระเจริญ
หมายเลขบันทึก: 40884เขียนเมื่อ 26 กรกฎาคม 2006 08:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:27 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท