คุณแม่ดิฉันชอบติดตามข่าวการศึกษา โดยเฉพาะข่าวของมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร อาจจะด้วยอยากเอาใจช่วยลูกสาวในการทำงานที่ต้องแข่งขันกับตนเองเป็นสำคัญ! เพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงแข็งขันให้สถานศึกษาของชุมชนก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
"วันนี้แม่เจอข่าวมหาลัยฯ" กำลังชมข่าวตอนค่ำพร้อมกัน ท่านก็พูดขึ้นมาพร้อมกับรีบเดินออกไปจากห้องนอนของท่านเพื่อไปหยิบหนังสือพิมพ์ที่ชั้นล่าง โดยไม่ฟังเสียงดิฉันว่าเดี๋ยวไปหยิบเองจ้ะ (เข้าใจว่านั่นคือกลยุทธ์ลดหุ่นอย่างหนึ่ง)
ข่าวดังกล่าวเป็นของสำนักพิมพ์ระดับประเทศ ลงวันที่ 12 มกราคม 2549 ข่าวนี้เก่าหลายเดือนแล้วแต่แม่ไม่ทราบ ก็ด้วยเรื่องราวยังเป็นปัจจุบันโดยแท้!! ในข่าวมหาวิทยาลัยฯ นำนักศึกษาที่สังกัดโปรแกรมวิชาพัฒนาชุมชน นำทีมโดยท่านอาจารย์จิราภา จารุวัฒน์ ไปร่วมสัมมนาเกี่ยวกับโลกาภิวัตน์และผลกระทบต่อสังคมไทย และการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาสังคม
โดยข่าวได้สรุปข้อคิดเห็นของวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิว่า สังคมไทยต้องกลับคืนสู่รากเหง้าที่แท้จริงของตนเอง สามารถจัดองค์ความรู้เรื่องภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและ "บูรณาการชุมชนให้เข้มแข็ง พึ่งตนเองได้" ในขณะเดียวกันเป็นที่น่าห่วงว่าทุกวันนี้ "กระแสโลกาภิวัตน์แผ่รังสีอำมหิตเข้าครอบงำ" ทำให้ปัญหาสังคมมีความสลับซับซ้อน
จากข่าว ทำให้คิดสะท้อนใจและตระหนักอย่างมากว่า ขณะที่คนไทยเราล้วน "รักสงบ" ใฝ่หาชีวิตที่พอเพียงตลอดมาตามวิถี "ชาวพุทธ" กลับถูกกระแสโลกาภิวัตน์เข้ากรุ้มรุมทำร้าย จนไม่อาจไปถึงที่หมายอันร่มเย็นได้ง่ายดายนัก..
ดังเป็นที่ปรากฏว่า
โลกาภิวัตน์ที่อำมหิตดังกล่าว โดยเฉพาะวัตถุนิยมจัด และ ค่านิยมเสรีทางเพศ ส่วนหนึ่งได้สำแดงฤทธิ์ผ่านโลกสารสนเทศ ทั้งทีวีและอินเตอร์เน็ต ดูท่าทางสื่อเหล่านั้นจะมากไปด้วยพิษสง เพราะเราไม่สามารถห้ามมันไม่ให้แพร่กระจายความอำมหิตที่ว่าได้เลย เนื่องด้วยอานุภาพในการแพร่กระจายอย่างรอบทิศทาง (60 ล้านคน ก็ทีวี 15 ล้านเครื่องหากประเมินโดยประมาณ)
อย่างไรก็ตามการที่ได้มีโอกาสรู้จักกับ "การจัดการความรู้" หรือ "Knowledge Management" หรือ "KM" และ Gotoknow.org ดิฉันจึงมองเห็นว่า "เมืองไทยของเรายังพอมีหวัง..."
นั่นเพราะอินเตอร์เน็ตเองก็ได้เอื้อให้เหล่าผู้รักสงบสามารถรวมตัวกันเพื่อให้ "ความรู้" และ "กำลังความคิด" สามารถประสานและผนึกแน่นเป็นปราการหนามหึมาที่น่าจะช่วยลูกหลานและประเทศไทยของเราให้รอดพ้นจากภัยเหล่านั้นได้(อย่างน้อยตอนนี้ก็ 800,000 ครั้งต่อสัปดาห์แล้วที่คนเข้ามาสัมผัสบรรยากาศของการหลอมหัวใจคนไทยทั้งชาติผ่านศาสตร์ "การจัดการความรู้" )
สำคัญอยู่ที่ว่า เจ้าของบล็อก(blog)แต่ละท่านต้องร่วมแรงร่วมใจผลิตบันทึกที่มีคุณภาพ และร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อบูรณาการความรู้ไปใช้ประโยชน์กับชุมชนที่ตนอยู่อาศัยให้ได้มากที่สุด ต้นแบบดีๆ มีให้เห็นมากมาย เช่น ท่านเจ้าของรางวัลสุดคะนึงแต่ละท่าน เป็นต้น รวมทั้งต้องเรียกพลังประดุจซุปเปอร์แมนบวกกับมนุษย์แมงมุม ไม่ปล่อยให้เจ้ารังสีอำมหิตของโลกาภิวัตน์มาแผดเผาตัวเรา คนในครอบครัวของเรา เพื่อนหรือคนที่เรารัก และชุมชนของเราเป็นอันขาด!
นั่นคือ อนาคตของชาติจะรุ่งเรืองได้ด้วย "สติ" "ปัญญา" และ "ความร่วมแรงร่วมใจผสานกับความมุ่งมั่นทั้งหมดที่มีในตัวเราทุกคน" ที่สร้างจากเครื่องมือสุดวิเศษที่ชื่อ KM ณ แหล่งรวมบล็อกจัดการความรู้ของไทย หรือ Gotoknow.org แห่งนี้
"สังคมอุดมปัญญา" และ "สังคมพึงประสงค์" ดังใจปรารถนาคือความเป็นจริงที่รอคอยเราอยู่แน่นอนค่ะ
และเมื่อถึงวันนั้น รังสีอำมหิตอันเป็นคมดาบด้านมืดของโลกาภิวัตน์ ก็จะมีอานุภาพเหลือเพียงแค่แสงสะท้อนของเศษกระจกในถังผงที่เรียกร้องความสนใจจากเราให้เพียงชายหางตาไปมอง เท่านั้น!!!
คน QA (เจ้าของบันทึกค่ะ)
บล็อกของ KPRUQA Team จะมีอีกหลายบล็อกค่ะ ซึ่งทีมงานแต่ละท่านจะเข้ามาเพิ่มบันทึกอีกหลายๆประเด็นค่ะ ทั้งด้าน
เป็นต้น
ขอเรียนเชิญทุกท่านติดตามอ่านค่ะ
สำหรับบล็อกนี้ Dandelion 1 และฟ้าใสร่วมดูแลชั่วคราวค่ะ
Dandelion 1 (สมาชิก KPRUQA Team)