“ต้นทุนการผลิตสูง : จุดอ่อนที่เป็นวิกฤติ”
“จากเรื่องเล่าคุณสมหมาย พลอาจ ผ่าน Blog พี่สิงห์ป่าสัก” เมื่อวันที่ 23 ก.ค.49ทำให้ผมมีความเข้าใจมากขึ้น และมีความเห็นที่สอดคล้องครับว่าในการประกอบอาชีพการเกษตรของพี่น้องของเกษตรกรไทย ส่วนใหญ่ต้นทุนการผลิตสูง และมักจะขาดการจดบันทึก ไม่รู้ว่าในสิ่งที่ตนเองทำลงทุนไปเป็นเงินเท่าไหร่ อีกทั้งขายผลผลิตได้เงินมาเท่าไหร่ก็ไม่สามารถตอบได้ และจากการสอบถามส่วนใหญ่จะบอกว่าขายได้เท่าไหร่ก็เอาเท่านั้น
“จุดอ่อนที่เป็นวิกฤติ” การผลิตที่ไม่รู้ต้นทุน (cost) และไม่รู้ว่าตนเองขายได้เท่าไหร่ (income) แต่สุดท้ายมีหนี้สินพร้อมดอกเบี้ย (liability and interest) เกิดขึ้นกับครอบครัวและนับวันจะทวีจำนวนขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับสังคมไทยในปัจจุบัน ซึ่งผมเห็นว่าเป็นจุดอ่อน และเป็นวิกฤติขั้นรุนแรง ถึงเวลาแล้วที่นักวิชาการ และนักพัฒนาที่เราจะต้องช่วยเหลือเกษตรกรให้หลุดพ้นจากบ่วงกรรมนี้
“วิกฤตินี้แก้ไขได้อย่างไร” จากปรากฏการณ์ที่หยั่งรากลึกมาช้านานยากนักที่จะแก้ไขให้ได้ในเร็ววัน แต่ก็เป็นเรื่องที่ท้าทาย ในฐานะที่เป็นนักศึกษาปริญญาเอก สาขาพัฒนบูรณาการศาสตร์ (Integral Development Studies) จึงใคร่ขอเสนอแนะแนวทางในการ แก้ไขวิกฤติดังนี้
1. “กระบวนการติดอาวุธทางปัญญา” เป็นการฝึกให้
เกษตรกรได้คิดทบทวนในกระบวนการประกอบอาชีพที่ผ่าน
มาว่าทำอย่างไร จะแก้ไขให้ดีขึ้นได้อย่างไรอาจจะใช้เครื่องมือ
ที่เรียกว่า SWOT Analysis เข้ามาช่วยในกระบวนการตัดสินใจ
ซึ่งเน้นข้อมูลมากกว่าความรู้สึกในการตัดสินใจ <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 84pt; text-indent: -48pt; tab-stops: list 84.0pt" class="MsoNormal">2. “เน้นการผลิตที่เกื้อกูล” เพื่อเป็นการลดต้นทุนการ</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 84pt; text-indent: -48pt; tab-stops: list 84.0pt" class="MsoNormal"> ผลิตโดยการผลิตที่หลากหลาย เพื่อใช้ทรัพยากรร่วมกัน อีก</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 84pt; text-indent: -48pt; tab-stops: list 84.0pt" class="MsoNormal">ทั้งลดการนำเข้าปัจจัยการผลิตจากภายนอก เช่น ปุ๋ยเคมี สาร</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 84pt; text-indent: -48pt; tab-stops: list 84.0pt" class="MsoNormal">เคมี และอื่นๆ ที่ไม่จำเป็น เน้นการผลิตเพื่อทดแทน เช่นปุ๋ย</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 84pt; text-indent: -48pt; tab-stops: list 84.0pt" class="MsoNormal">หมัก ปุ๋ยคอก น้ำหมักชนิดต่างๆ ตลอดทั้งการผลิตที่หลาก</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 84pt; text-indent: -48pt; tab-stops: list 84.0pt" class="MsoNormal">หลายจะสามารถลดความเสี่ยงด้านการตลาดได้ อีกทั้งมีรายได้</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 84pt; text-indent: -48pt; tab-stops: list 84.0pt" class="MsoNormal">หมุนเวียนตลอดทั้งปี และเน้นการปลูกทุกอย่างที่ตนเองกิน</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 84pt; text-indent: -48pt; tab-stops: list 84.0pt" class="MsoNormal">และกินทุกอย่างที่ตนเองปลูก (ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง)</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 84pt; text-indent: -48pt; tab-stops: list 84.0pt" class="MsoNormal">ที่เหลือนำไปขายเพื่อนำรายได้เข้าครอบครัว</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 84pt; text-indent: -48pt; tab-stops: list 84.0pt" class="MsoNormal">3. “เน้นกระบวนการคิดเป็นตัวเลข” ส่งเสริมและฝึก</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 84pt; text-indent: -48pt; tab-stops: list 84.0pt" class="MsoNormal">ให้เกษตรได้ฝึกคิดและทำการบันทึกรายรับ-รายจ่าย ที่เกิดขึ้น</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 84pt; text-indent: -48pt; tab-stops: list 84.0pt" class="MsoNormal">ในครอบครัว (บัญชีครัวเรือน) ซึ่งจะสามารถวิเคราะห์ถึงต้น</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 84pt; text-indent: -48pt; tab-stops: list 84.0pt" class="MsoNormal">ทุน –กำไรของตนเองได้ เมื่อเกษตรกรเห็นตัวเลขที่แท้จริง ที่</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 84pt; text-indent: -48pt; tab-stops: list 84.0pt" class="MsoNormal">เกิดขึ้นในครัวเรือนผมเชื่อเหลือเกินว่าจะเป็นแรงกระตุ้นให้</p> เกิดการเปลี่ยนแปลง <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 36pt" class="MsoNormal"> 4. “เน้นกระบวนการออมที่เกิดรายได้” ในการออมนั้นมีหลากหลายรูปแบบ แล้วจะออมอย่างไรล่ะที่เกิดรายได้อย่างสัมบูรณ์ เพื่อเป็นแรงจูงใจในการออม เช่น ฝากกับธนาคาร ตั้งเป็นกลุ่ม หรือสหกรณ์ เป็นต้น เพื่อให้เขาได้เห็นความสำคัญและความจำเป็นในเรื่องของเงินออม</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 84pt; text-indent: -48pt; tab-stops: list 84.0pt" class="MsoNormal">5. “ส่งเสริมสวัสดิการชุมชน” เมื่อเกษตรกรสามารถที่</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 84pt; text-indent: -48pt; tab-stops: list 84.0pt" class="MsoNormal">จะพึ่งตนเองได้แล้ว ควรจัดให้มีสวัสดิการชุมชน เพื่อเชื่อม</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 84pt; text-indent: -48pt; tab-stops: list 84.0pt" class="MsoNormal">โยงกระบวนการผลิต และสวัสดิการให้เกิดขึ้นในชุมชน ใน</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 84pt; text-indent: -48pt; tab-stops: list 84.0pt" class="MsoNormal">การดูแลสมาชิกของชุมชนเมื่อคราวจำเป็น เช่น เจ็บไข้ได้ป่วย</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 84pt; text-indent: -48pt; tab-stops: list 84.0pt" class="MsoNormal">หรือตาย เป็นต้น</p>
อุทัย อันพิมพ์
24 ก.ค.2549
ดีมากที่มามองมุมนี้ แต่อยากให้ระวังว่า ก่อนจะจัดการกับปัญหาภายนอก ต้องมาจัดการกับปัญหาภายในเสียก่อน นั่นก็คือกิเลศ โลภ โกรธ หลง ที่ทำให้ความรู้และงานเดินผิดทางและมีปัญหาต่างๆตามมาเป็นพรวน ความรู้ที่สร้างบนกิเลศกับความรู้ที่สะอาดจะต่างกันโดยสิ้นเชิง ต้องอยู่กับธรรมชาติ จึงจะรอด