ไม่ต้องตกใจไปนะคะทุกท่านเพราะเราไม่ได้มาวิเคราะห์ภาษีแต่เรามาวิเคราะห์ภาษา(อังกฤษ)ที่เกี่ยวกับภาษี(Request ของคุณขจิตค่ะ)
อยากจะเสนอคำว่า Tax ที่ทุกคนเข้าใจว่า มันเเปลว่าภาษี แต่ก็มีความหมายอื่นอีกนะคะ พร้อมกับคำศัพท์ที่ควรรู้เกี่ยกับภาษีค่ะ
คำว่า Tax ใน Oxford Advaned Learner's Dictionary ได้ให้ความหมายว่า
กรณีที่Tax ทำหน้าที่เป็นnoun หมายความว่า money that you have to pay to the government so that it can pay for public services.แปลว่า เงินซึ่งประชาชนผู้มีรายได้ต้องจ่ายแก่รัฐเพื่อว่ารัฐจะได้นำเงินดังกล่าวไปใช้ในการจัดทำบริการสาธารณะ ตัวอย่าง People pay tax according to their income and businesses pay tax according to their profit.ประชาชนเสียภาษีเนื่องจากพวกเขามีรายได้และธุรกิจต่างๆเสียภาษีเนื่องมากจากพวกเขามีกำไร
กรณีที่ Tax ทำหน้าที่เป็น Verb มีหลายความหมายค่ะ แต่จะอยู่ในนัยที่ว่า"ภาระหน้าที่"ที่ต้องปฏิบัติ
๑.to put a tax on someone/something ; to make someone pay tax. แปลว่าผลักภาระในการจ่ายเงินหรือเสียภาษีให้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือสิ่งใดสิ่งหนี่ง ตัวอย่าง Any interest payments are taxed as part of your income.ไม่ว่าการจ่ายดอกเบี้ยใดๆ ย่อมถูกผลักภาระให้เสียภาษีในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของรายได้ของคุณ
๒.(BrE) to pay tax on a vihicle so that you may use it on the roads. จ่ายเงินสำหรับยานพาหนะเพื่อที่ว่าจะได้ใช้ยานพาหนะได้หรือเรียกให้เข้าจ่ายๆ คือการจ่ายภาษียานพาหนะนั่งเอง ตัวอย่าง The car is taxed until July. รถยนต์ต้องได้รับการเสียภาษีจนกระทั่งเดือนกรกฎาคม
๓.to need a great amount of physical or mental effort. จำเป็นต้องใช้ความพยายามอย่างหนักทางด้านร่างกายหรือจิตใจหรือกล่าวอีกนัยหนึ่งแปลว่าทำให้ได้รับภาระหรือแรกกดดันหนัก ตัวอย่าง The problem is currently taxing the brain of the nation's expert.(making them think very hard)ปัญหาคือในปัจจุบันทำให้ผู้เชี่ยวชาญของชาติใช้สมองอย่างหนัก
๔.(to tax someone with something) to accuse someone of doing something wrong. ตำหนิ ประณาม หรือกล่าวหาบุคคลใดบุคคลหนึ่งจากการกระทำบางสิ่งที่ผิด ตัวอย่าง I tax him with avoiding his responsibility as a parent.ฉันตำหนิเขาที่หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นผู้ปกครอง
ส่วนคำศัพท์ที่เกี่ยวกับภาษีที่ควรรู้ ตัวอย่าง เช่น
taxation หมายความว่า การบังคับจัดเก็บภาษีจากบุคคลหรือองค์การเพื่อทำให้รัฐบาลมีรายได้เพื่อใช้จ่ายในการบริหารประเทศ พัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
taxable income หมายความว่า เงินได้พึงประเมินสุทธิที่เป็นฐานในการคำนวณภาษีเงินได้คือเงินได้ต่างๆที่กฎหมายบัญญัติให้ผู้มีรายได้ต้องนำมาประเมินภาษีหักด้วยค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนต่างๆแล้วนำมาเป็นฐานในการคำนวณภาษีเงินได้ตามอัตราที่กฎหมายบัญญัติ
taxable estate หมายความว่า เงินได้จากอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องนำมาคำนวณภาษี หักด้วยค่าใช้จ่ายต่างๆตามที่กฎหมายบัญญัติ แล้วจึงนำมาเป็นฐานเพื่อคำนวณภาษีเงินได้ที่ผู้มีรายได้มีหน้าที่ต้องชำระ
tax avoidance หมายความว่า การเลี่ยงภาษี เป็นวิธีการที่ทำให้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลผู้มีหน้าที่เสียภาษี เสียภาษีน้อยลงกว่าที่ควรจะเป็นโดยไม่ผิดกฎหมาย แต่อาศัยช่องว่างของกฎหมายทำให้เสียภาษีน้อยลง
tax evasion หมายความว่า การหนีภาษี เป็นกรณีที่ไม่เสียภาษีอากรตามที่กฎหมายบัญญัติหรือเสียภาษีน้อยกว่าที่ควรจะเป็นโดยผิดกฎหมาย
tax liabilities หมายความว่า หนี้ภาษี เป็นจำนวนภาษีที่ได้จากการนำฐานภาษีไปคำนวณตามอัตราภาษีที่กฎหมายบัญญัติให้ผู้เสียภาษีต้องชำระ
tax rate หมายความว่า อัตราภาษี เป็นการกำหนดร้อยละของรายได้ มูลค่าสินค้าที่ซื้อขายหรือมูลค่าของทรัพย์สินหรือกำหนดเป็นจำนวนเงินต่อหน่วยของสินค้า
tax subsidies หมายความว่า ภาษีอุดหนุน เป็นเงินอุดหนุนที่จ่ายผ่านระบบภาษีให้แก่อุตสาหกรรมบางประเภทในรูปของการให้สิทธิพิเศษทางภาษี เช่น ยกเว้นภาษีเงินได้แก่กิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากรัฐ
tax system progessivity หมายความว่า ระบบภาษีที่เป็นอัตราก้าวหน้า ทำให้ผู้ที่มีรายได้สูงต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงกว่าผู้มีรายได้ต่ำ
tax shifting หมายความว่า การผลักภาษี เป็นกรณีที่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีตามกฎหมายผลักภาระการเสียภาษีให้กับบุคคลอื่นรับภาระในการเสียภาษี เช่น ผู้ผลิตมีหน้าที่เสียภาษี แต่ผลักภาระนั้นให้กับผู้บริโภค โดยบวกภาษีเข้าไปกับต้นทุนสินค้า ทำให้ราคาขายสูงกว่าราคาต้นทุน
tax capacity หมายความว่า ความสามารถในการเสียภาษี ซึ่งเมื่อฐานภาษีมีขนาดใหญ่ขึ้น ประชาชนก็จะมีความสามารถในการเสียภาษีที่สูงขึ้น
tax base หมายความว่า ฐานภาษี เป็นมูลค่าที่เป็นตัวเงินของสิ่งต่างๆ ที่รัฐกำหนดให้ใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษีที่ต้องชำระในอัตราที่กฎหมายบัญญัติ เช่น รายได้ รายจ่าย มูลค่า
etc.
ส่วนถ้อยคำเชิงเหน็บแนมข้างบน Tax--The rich get richer , the poor get poorer. แปลว่า การเสียภาษีทำให้คนรวยก็รวยยิ่งขึ้น คนจนก็ยิ่งจนลง ก็ที่ทราบกันนะคะว่าในทางปฏิบัติคนจนจะต้องเสียภาษีมากขึ้นเพราะไม่มีอำนาจใดๆจะไปต่อรองกับหน่วยงานที่มีหน้าที่เก็บภาษี ส่วนคนรวยมีทั้งอำนาจทางการเมืองและอำนาจทางเศรษฐกิจแทบไม่เสียภาษี(ไม่จ่ายเองมากกว่า)ทั้งมีวิธีเลี่ยงภาษีอีกร้อยแปดเพื่อให้ธุรกิจตนเสียภาษีน้อยที่สุด ...ก็น่าแปลกนะคะเพราะควรจะกลับกันมากกว่า...
หมายเหตุ เหตุที่ get ไม่อยู่ในรูปกริยาเอกพจน์บุรุษที่สามเพราะ the rich และ the poor เป็นคำนามพหูพจน์ค่ะ
synonym words ของคำว่า tax เช่น (noun) custom, duty, excise, levy, tariff(ในกรณีหมายความว่าเงินค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เอกชนต้องจ่ายให้แก่รัฐ) และ burden, demand, drain, pressure,strain(ในกรณีหมายความว่าสิ่งที่ทำให้มีภาระหนักขึ้น)
ที่มาของคำเจ็บๆนี้ : อยู่ในคอลัมภ์ "รงค์ วงษ์สวรรค์ ๒ นาที เรื่อง Tax--The rich get richer, the poor get poorer.(HA-HA) "ในมติชนสุดสัปดาห์ฉบับประจำวันที่ ๒๑-๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ปีที่ ๒๖ หน้า ๕๑
ยินดีค่ะ ชอบแลกเปลี่ยนความรู้อย่างนี้มากเลยค่ะ รู้สึกว่าเราไม่ได้คิดอะไรคนเดียวและทุกคนก็สามารถให้ความรู้ในเรื่องที่เราไม่รู้ได้
อีกประการหนึ่งเราไม่ได้อยู่บนโลกคนใบนี้เพียงคนเดียว ใน gotoknow ทำให้โลกทางวิชาการเล็กลงมาก ได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในหลายๆ ด้าน รวมทั้งด้านภาษาที่ปัจจัยแรกที่ทำให้มนุษย์เกิดปฏิสัมพันธ์และสื่อสารกันเข้าใจ...และภาษาอังกฤษก็เป็นสื่อการ ที่เป็นประโยชน์ที่สุดคือหากได้มีความรู้จากหลายๆคนมาแสดงความเห็นว่าพวกเขาเข้าใจคำๆนี้ว่าอย่างไรตามประสบการณ์และความคิดเห็นต่างๆ
ขอบคุณคุณขจิต...ที่เสนอความหมายเพิ่มเติม
ชอบอ่านงานอาจารย์เหมือนกันค่ะเพราะเป็นการนำกฎหมายที่บังคับใช้อยู่มาปรับกับข้อเท็จจริง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องคนต่างด้าว อาจารย์ท่านจะลงพื้นที่ด้วยค่ะ ... เห็นอาจารย์ทำงานแล้วเหนื่อยแทน...
ยังไม่ได้สอบค่ะ แต่จะสอบวันพฤหัสที่ ๓ ส.ค. นี้ค่ะ
ส่วนงานในgotoknow นี่ต้องสอบตัวเองทุกสัปดาห์...ทดสอบความพากเพียร,ทดสอบสติปัญญา,การจัดระเบียบความคิดและพัฒนาการของงานเขียนที่ส่งอาจารย์แหวว สงสัยจะเริ่มติดการเขียนบล็อกแล้วค่ะ
'รงค์ วงษ์สวรรค์ พญาอินทรีแห่งฟ้าวรรณกรรม ผู้ยืนอยู่ในบรรณภิภพอย่างซื่อสัตย์ และยังไม่มีท่าจะหยุดยั้ง
สำรวมต่อผู้ยากไร้ และกักขฬะต่อนักการเมือง(อุจจาระยังเป็นปุ๋ย ทุชนพวกนี้รงค์ย่ำเหยียบ และกดชักโครกทิ้งอย่างไม่แยแส ฉะนั้นอึหอม(ha-ha))
turn on, tune in, drop out ของ timothy leary-ศาสตราจารย์ ผู้ออกมาตามหาความจริงเสมือน ในนิยามของแอลเอสดี มีอิทธิพลอย่างสูงในชีวิตรงค์ รังพญาอินทรี ณ เชียงใหม่ นามกรคือ สวนทูนอิน นักจาริกแสวงบุญหลากหลาย-ณาติน้ำหมึกมากหน้าำ้้ได้เยือนเยี่ยม แต่ยังไม่ถึงสักการะ (รงค์ ยังไม่ริลงโลง ความตายยังไม่อนุญาตเขา)
เป็นผู้บุกเบิกงานเขียนที่มีสไตล์และเป็นบลูบลัดทางภาษาอย่างจริงแท้ยิ่งกว่าพระอาฑิตย์ขึ้นตะวันออก
น้อมกราบ และขอให้ความนิยมอย่างสุดสวิงริงโก้ ที่กิ๊ก อ่านท่าน เหมือนท่านอ่านผองเรา (มนุษย์)
ขอให้ดื่มด่ำ ดูดดื่ม ด๊วบๆ 5555
สบายดีค่ะ ตอนนี้กำลังเตรียมวิจารณ์หนังสือกฎหมายเศรษฐกิจระหว่างประเทศอยู่ ต้องเตรียมตัวหนักเพราะนี่คือสอบปลายภาค...ขอบคุณที่เข้าแวะเยี่ยมนะคะ
สบายดีค่ะ...ขอบคุณค่ะ