เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของงานมหกรรม KM ราชการก้าวไกลสู่ LO


ยุทธศาสตร์บ้ายอ

               ดีใจคะที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของคณะทำงานมหกรรม KM ราชการไทยก้าวไกลสู่ LO ซึ่งในงานแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนนิทรรศการและส่วนสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ KM ในหัวข้อต่างๆ คือ KM กับการพัฒนาวิสัยทัศน์ร่วม, KM กับกระบวนการเรียนรู้ และ KM กับการพัฒนาบุคลากร (HRD) ดิฉันได้รับโอกาสให้เป็นผู้ประสานงาน (ซึ่งทาง สคส. เรียกว่า คุณประสาน) ประจำห้องสัมมนา C ในหัวข้อ KM กับการพัฒนาบุคลากร (HRD)  

  
                ก่อนถึงวันจัดงาน ก็ไม่ค่อยยุ่งยากมากนักแต่หนักใจนิดหน่อยกับผู้ที่จะเป็นวิทยากรในงาน (ซึ่ง พี่ธวัช ซึ่งเป็น moderator ประจำห้อง C ได้ประสานงานวิทยากรให้ก่อนแล้ว) วิทยากรประจำห้อง C ประกอบด้วย 3 หน่วยงาน คือ  วิทยากรจากจังหวัดนครศรีธรรมราช, กรมราชทัณฑ์ และกรมศุลกากร  วิทยากรจาก 2 หน่วยงานแรกนั้นไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ ....แต่วิทยากรจากกรมศุลกากรนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาและไม่สามารถให้ความชัดเจนได้ว่าใครจะมาเป็นวิทยากร  จนกระทั่งถึงวันงานวันที่ 21 ก.ค.49 ก็พยายามติดต่อขอรายชื่อวิทยากรจากกรมศุลกากรตลอดช่วงเช้าก็ยังได้รายชื่อไม่ครบเหลืออีก 1 ท่าน (วิทยากรจากกรมศุลกากร 2 ท่าน ก็ระบุไม่ได้ว่าอีก 1 ท่านนั้นใครจะมา และข้อมูลนำเสนอก็ยังไม่ให้...ยังดีนะคะที่ช่วงเช้าเป็นวิทยากรจากนครศรีธรรมราชซึ่งทุกอย่างก็เรียบร้อยดี) จนในที่สุดวิทยากรท่านสุดท้ายของกรมศุลกากรก็มาพร้อมกับ note book ซึ่งเตรียมข้อมูลสำหรับนำเสนอไว้แล้ว  เดินเข้าห้องสัมมนา C ในเวลา 12.20 น.  แล้วก็เริ่มชุลมุนในการเซตข้อมูลในการนำเสนอช่วงบ่ายกันทั้งของกรมศุลกากรและกรมราชทัณฑ์ (เนื่องจากทั้ง 2 หน่วยงานนำ note book มากันเองทั้งคู่)    เมื่อความชุลมุนสิ้นสุดทุกๆ อย่างก็พร้อมก่อนที่การสัมมนาช่วงบ่ายจะเริ่มขึ้น

                พูดถึงประเด็นวิทยากรประจำห้อง C ไปมากแล้ว จะขอพูดถึงบรรยากาศในห้อง C บ้างนะคะ ในภาคเช้าเป็นกรณีศึกษาของจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งผู้เข้าร่วมสัมมนาส่วนใหญ่ให้ความสนใจมากจนต้องเพิ่มเก้าอี้เสริม (ประมาณ 220 คน) และส่วนใหญ่ขอกระดาษสำหรับจดรายละเอียดการสัมมนา ซึ่งดูแล้วก็ตั้งใจฟังกันดี แต่ตอนให้ซักถามกลับถามเพียง 2 คำถาม   พอภาคบ่ายเป็นกรณีศึกษาของกรมราชทัณฑ์และกรมศุลกากร ผู้เข้าร่วมสัมมนาก็ให้ความสนใจมากเช่นกันแต่น้อยกว่าในภาคเช้า (ประมาณ 180 คน) เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมสัมมนาเดินเข้าออกห้องอยู่เสมอ  ซึ่งอาจเป็นเพราะอยากไปดูห้องอื่นๆ บ้างว่าเป็นอย่างไร
 
              ได้ฟัง อาจารย์วิจารณ์ กล่าวปิดงาน ซึ่งอาจารย์พูดถึงยุทธศาสตร์บ้ายอ ทำให้ผู้ร่วมสัมมนาทุกท่านถึงกับหัวเราะและดิฉันก็ได้เอากลับมาย้อนคิดถึงประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาว่าไม่เห็นเคยมีใครใช้ยุทธศาสตร์บ้ายอกับการทำงานเลย....ใช้แต่ยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาเอาแต่ปัญหาที่พบมาพูดถึงไม่เห็นเอาส่วนดีมาพูดเลยหรือจะพูดก็พูดน้อย..เพราะทุกครั้งที่ประชุมกันที่เคยผ่านมาเค้าก็เอาแต่ปัญหามาถกกันทั้งนั้น....สิ่งนี้มันก็เลยอาจทำให้คนทำงานเห็นแต่ปัญหามังคะ...ก็เลยไม่ค่อยเห็นคุณค่าของงานที่ทำแล้วประสบผลสำเร็จจริงๆ ..คนทำงานก็เลยรู้สึกหดหู่เพราะวันๆ คิดถึงแต่ปัญหาและวนเวียนอยู่กับการแก้ไข  ทำให้จิตใจไม่ฟูฟองและไม่ภูมิใจกับงานที่ทำแล้วประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร

                จะว่าไปแล้วการเป็นคุณประสานของงานมหกรรม KM ฯ งานนี้ยังมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ข้างทางอีกมากมายที่ทำให้เราได้เรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของการทำงาน, ความเอื้ออาทรของเพื่อนร่วมงาน และการเผชิญกับปัญหาที่เราไม่คาดคิดมาก่อน   ถึงแม้จะเคยทำงานลักษณะนี้มาบ้างแล้วแต่เมื่อมาอยู่ในองค์กรใหม่ ซึ่งต้องพบกับวัฒนธรรมองค์กรใหม่ๆ, เพื่อนร่วมงานใหม่ๆ และรูปแบบการทำงานใหม่ๆ   มันทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เหล่านี้เพิ่มขึ้น    ซึ่งถึงแม้เป้าหมายการทำงานขององค์กรจะคล้ายกันคือทำงานเพื่อสังคม แต่มันคงเป็นความเหมือนที่แตกต่าง ซึ่งก็คงต้องเรียนรู้ต่อไปอีกเรื่อยๆ .......

                และวันนี้ดิฉันก็ได้รับโอกาสอีกครั้งในการได้ไปเรียนรู้การจัด workshop เรื่อง KM สู่การพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้สำหรับหน่วยงานนำร่องของกรมทางหลวง   งานนี้ดิฉันก็คาดหวังว่าจะได้เห็นเทคนิคและรูปแบบการจัด workshop เรื่อง KM ที่เต็มรูปแบบซะที...

คำสำคัญ (Tags): #kmi#km#coordinator
หมายเลขบันทึก: 40421เขียนเมื่อ 23 กรกฎาคม 2006 13:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 15:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • เข้ามาอ่าน Blog นี้เป็นครั้งแรก เพราะตั้งใจจะติดตามผลของการจัดงาน "มหกรรม KM ราชการไทยก้าวไกลสู่ LO" พบว่ามีสาระที่เกิดจากการทำงานภายใน ส.ค.ส. ดี ๆ หลายเรื่อง
  • จะติดตามอ่านอยู่เรื่อย ๆ ครับ

 

  • เล่าได้สนุกดีครับ และได้ความรู้ในการทำงานครับ
ขอบคุณคะ...ที่มีผู้สนใจ.....แล้วจะเขียนให้บ่อยขึ้นนะคะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท