ผมว่า พื้นฐาน รากฐานของการแก้ปัญหาในองค์กร อยู่ที่ อารมณ์ ความเครียด EQ ของแต่ละคนในองค์กร
ดูหนังเรื่อง Crash แล้ว จะเข้าใจที่ผมพยายามจะนำเสนอ
ตอนนี้ ได้ข่าว คนดอย ปูนแก่งคอยฯ เชิญ คุณหมอ อาจารย์พยาบาล จาก วิทยาลัยพยาบาลฯ มาช่วย ประเมิน ศึกษา สภาพจิต พนักงาน
พนักงาน มีความเครียด จาก ครอบครัว นิสัยที่ไม่ดีของคู่ครอง (เลือกมาแล้ว เปลี่ยนไม่ได้สะด้วยสิ) การเงิน หนี้สิน การเมือง การงาน สุขภาพกาย ฯลฯ แต่ก็หาทางออกไม่เจอ
มีนักวิชาการมากมาย คุยเรื่อง อารมณ์ แต่ ที่ ลงมือทำจริงๆ มีกรณีศึกษาให้อ่าน ฯลฯ น่าจะมา Show&share กันครับ
เช่น พนักงานเป็นหนี้ ทำไง
พนักงานโดนสามีซ้อม ตบตี ทำไง
ภรรยา มีชู้ ทำไง
ลูก เกเร ทำไง
เจ้านาย กดดัน ไม่ยุติธรรม ทำไง
ฯลฯ
คนเป็น facilatator หรือ Chatter (คนร่วม chat) หรือ Caretaker (พวก finland ใช้คำนี้ เพราะ ฟังดูดีกว่า facilitator หน่อย)
ก็ต้อง เข้าค่ายอบรมจิตด้วย ส้างกำลังสติด้วย ใช้ U theory เป็นด้วย มิฉะนั้น จะเกิดอาการ "เข้าเนื้อ"
"เข้าตัว" ทำให้ ผู้บำบัดเอง ย่ำแย่ได้
น่าจะมี Fac of Fac อีกทีหนึ่ง
จิตบำบัดเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ไม่ใช่เรื่อง่าย ๆ เพราะเป็นการรักษาด้วยการใช้สัมพันธภาพเรื่องตัวเชื่อมที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์ ผู้ทำต้องเป็นคนดีพอควรและมีความระมัดระวังในการรักษาขอบเขตความสัมพันธ์ให้มีความพอเหมาะพอควร เป็นความสัมพันธ์เชิงวิชาชีพครับ
ผมว่าบางครั้งอยู่ที่บรรยากาศองค์การและวัฒนธรรมองค์การครับ...
บรรยากาศองค์การที่เป็นกันเอง ลูกน้องคุยกับหัวหน้าได้ทุกเรื่อง...
มีปัญหาเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัวสามารถปรึกษาเพื่อนร่วมงานได้...
เรื่องของการสนับสนุนทางสังคมก็ช่วยลดระดับความเครียดได้ระดับหนึ่งครับ...
ขอบคุณมากครับ...