ตลาดนัดความรู้กรมอนามัย ... Shopping KM สไตล์ สบาย สบาย (2)


เรื่องของ KM จึงต้องทำกันในทุกคน ทุกระดับ ... โดยมีผู้บริหารทุกระดับต้องช่วยกันสนับสนุน ผลักดัน จะนั่งยัน นอนยัน ยืนยัน หรืออะไรก็ตามแต่ เพื่อให้ทุกคนสามารถจะทำ KM ได้ และไปให้ถึง นั่นก็คือ เราก็จะต้องไปด้วยกัน ทั้งหน่วยงาน

 

ตลาดนัดกรมอนามัย จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19-20 กรกฎาคม 2549 นะคะ ตลาดของเราอยู่ที่ รร.เฟลิกซ์ เมืองกาญจนบุรี ... เข้าเกณฑ์ตลาดน่าซื้อ น่าจับจ่ายของกรมอนามัย (สไตล์ KM กันเลยละค่ะ)

ท่านรองเสริฐ ของพวกเรา (น.พ.ประเสริฐ หลุยเจริญ รองอธิบดีกรมอนามัย) มาเปิดตลาดให้พวกเรา สไตล์ สบาย สบาย ... แบบใส่สูทค่ะ

"วันนี้ทุกท่านที่เข้าชมตลาดนัด จะได้มีโอกาสมาเรียนรู้กันในเรื่องหลายๆ เรื่อง ในกึ่งอบรม กึ่งการปฏิบัติจริง และที่สุดแล้วไม่ได้ทำไปเป็นเรื่องเล่นๆ เราทำไปเพื่อการพัฒนาองค์กรอย่างแท้จริง

นพ.ประเสริฐ หลุยเจริญ รองอธิบดีกรมอนามัยKM นั้น เราก็ได้ทำกันมาเรื่อยๆ และการที่บางคนถือว่าเป็นภาระงานของเรา บางคนที่รู้สึกเบื่อหน่าย บางคนรู้สึกว่าเป็นภาระงานที่เพิ่มขึ้น และบางคนก็รู้สึกว่า งาน KM นั้น ต้องให้หัวหน้างานมอบหมายให้ใครสักคนหนึ่ง หรือคณะทำงานสักชุดหนึ่ง ดำเนินการจัดการ เหมือนกับงานพัสดุ งานการเงิน มันก็น่าจะมีกอง KM รับทำไปเอง เป็นของกรมฯ หรือเป็นหน่วยงานไป แล้วเราก็ทำงานปกติที่เราทำอยู่ ตามที่เราถนัด ... ถ้าเราคิดอย่างนี้แล้ว ... ก็ถือว่า เป็นความล้มเหลว

เพราะ KM เป็นเรื่องของการพัฒนาอย่างหนึ่ง การพัฒนาคงไม่ใช่เรื่องของ การพัฒนาส่วนใดส่วนหนึ่ง ... แต่การพัฒนาหน่วยงานนั้น ต้องพัฒนาตั้งแต่ตัวที่เล็กที่สุด

เพราะฉะนั้น เราซึ่งเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ต้องมีส่วนในการพัฒนา ... เรื่องของ KM จึงต้องทำกันในทุกคน ทุกระดับ ... โดยมีผู้บริหารทุกระดับต้องช่วยกันสนับสนุน ผลักดัน จะนั่งยัน นอนยัน ยืนยัน หรืออะไรก็ตามแต่ เพื่อให้ทุกคนสามารถจะทำ KM ได้ และไปให้ถึง นั่นก็คือ เราก็จะต้องไปด้วยกัน ทั้งหน่วยงาน

บรรยากาศในการเปิดตลาดนัดความรู้กรมอนามัย

KM ไม่ใช่ภาระของใคร คนใดคนหนึ่งที่จะตั้งขึ้นมา แล้วทำ แต่มันเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องขึ้นไปทำ แต่คนบางคนก็อาจะต้องมีบทบาทหน้าที่ในการนำ เป็นพี่เลี้ยง เพื่อช่วยคนอื่น เพราะว่าในเรื่องของการพัฒนานั้น แต่ละคนทำได้ไม่เท่าเทียมกัน คนนำ หรือพี่เลี้ยง จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จไปพร้อมๆ กัน เพราะว่า หากหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งในกรม หรือในหน่วยงานนั้นไปได้ไกล แต่อีกหน่วยงานยังไปได้ไม่ถึงที่หมาย ความสำเร็จในการพัฒนาก็จะไม่ประสบผลสำเร็จ เราจึงต้องไปพร้อมๆ กัน ในที่สุด เราก็จะประสบความสำเร็จอย่างพร้อมเพรียงกัน ... และอย่าได้ถือว่า KM เป็นภาระหน้าที่ เป็นภาระที่เพิ่มขึ้นจากงานปกติ เพราะว่าแท้ที่จริงการพัฒนานั้น จะช่วยให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น โดยเฉพาะในปัจจุบันนั้น การทำงานปัจจุบันมีระบบตรวจสอบซึ่งเข้มงวด ทั้งจากภาครัฐด้วยกันเอง และหน่วยงานภายนอก ซึ่งเมื่อเรามีระบบงานที่ชัดเจน ก็จะสามารถทำให้เราทำงานด้วยความง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และที่สำคัญก็คือ ทำให้เราทุกคนในหน่วยงานสามารถทำงานทดแทน กับคนซึ่งบางครั้งเขาเคยทำหน้าที่นั้น และเขาไม่อยู่ ทุกคน หรือคนที่อยู่ข้างเคียงที่อยู่ก็สามารถทำงานแทนกันได้

เราคงจะรู้สึกเบื่อหน่าย ในเวลาที่เราไปติดต่องานที่ไหนและถูกปฏิเสธ เพียงเพราะเจ้าหน้าที่คนที่ปฏิบัติงานประจำวันนี้เขาไม่มา ขอให้มาพรุ่งนี้ หรืออาทิตย์หน้า ท่านก็อุตส่าห์เดินทางมาตั้งไกล ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว เป็นเพราะว่าคนที่อยู่ไม่รู้งานของเพื่อนข้างเคียงเลย ทั้งๆ ที่นั่งโต๊ะใกล้กัน ไม่รู้ว่าเขาวางเอกสารไว้ตรงไหน หรือเก็บ ไว้ตรงไหนอย่างไร เขาทำอะไรบ้าง ... เราก็ไม่รู้ และทำแทนเขาก็ไม่ได้ ... ทั้งๆ ที่บางเรื่องบางงานที่แค่ไปหยิบเอกสารที่เขาอนุมัติไว้เรียบร้อยแล้วมาส่งให้ เขาก็ไม่เสียเวลามาอีกวัน 2 วัน ถ้าเรามีอะไรที่มีการ ลปรร. ซึ่งกันและกัน มันก็จะเป็นอะไรซึ่งเราก็จะประสบความสะดวกสบาย ทั้งเพื่อนร่วมงานของเรา ลูกค้าของเรา ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าภายใน หรือลูกค้าภายนอก

ที่สำคัญก็คือ เรื่องของการทำงาน ต้องอาศัยความรู้ในการทำงานมาก ทั้งความรู้ที่เป็นพื้นฐานที่ทำให้เราทำงานด้วยความสะดวกรวดเร็ว กับอีกอันหนึ่งคือ ความรู้ที่เราจะต้องต่อยอดในการพัฒนาองค์กรของเรา พัฒนาตัวเราเอง หรือประเทศชาติ เราทำงานกันมา ทุกคน ผมเชื่อมั่นในประสบการณ์ เรามีความรู้ซึ่งเราสะสมกันมานาน เราทำงานมา บางคนก็ประสบความสำเร็จ บางคนก็ไม่ประสบความสำเร็จ เราเคยมีการพูดกันไว้ว่า เราทำงานสำเร็จเพราะอะไร แล้วไม่ประสบความสำเร็จกันเพราะอะไร ในเรื่องที่ไม่ประสบความสำเร็จนั้น จริงๆ เราก็สามารถที่จะนำมาบอกกล่าวเล่าสู่ให้ทุกคนรู้ได้ เชื่อว่าคนอื่นจะได้ไม่ทำผิด หรือทำซ้ำ หรือเสียเวลา หรือเสียทรัพยากรไปแบบที่เราเคยทำ อย่าคิดว่า การที่เราจะมาเล่าเรื่องอะไร หรือความรู้อะไรนั้น ต้องเป็นความรู้ที่ประสบความสำเร็จเสมอไป ความรู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จก็สามารถเอามาบอกเล่าเก้าสิบกันได้ เพราะผมเชื่อว่า คนที่ไม่ทำอะไรผิดก็คือคนที่ไม่ทำงานเท่านั้น ไม่ทำอะไร ก็คือ ไม่ทำความผิด แต่คนที่ทำ ผมเชื่อว่า ก็ต้องประสบความล้มเหลว ประสบความผิดพลาดอะไรกันมาบ้าง ก็มาบอกเล่าเก้าสิบกัน จะได้จดจำกันไว้

เรื่องที่จะยกตัวอย่างนี้บางท่านคงจะรู้แล้ว

  1. เรื่องของหลอดไฟ ... ท่านคงรู้ว่า เอดิสัน เป็นคนคิดไส้หลอดไฟขึ้นมา ไส้หลอดไฟอันนี้ เอดิสันใช้ทำการทดลองอยู่ 2,000 ครั้ง กว่าจะหาวัสดุที่จะนำมาทำหลอดไฟให้เราใช้กันทุกวันนี้ได้ มีคนไปถามเอดิสันว่า "ท่านทำการทดลอง fail มาตั้ง 2,000 ครั้งเลยหรือ กว่าท่านจะเจอไส้หลอดที่เหมาะสม" เอดิสันตอบว่า "ไม่ใช่หรอกครับ ผมไม่ได้ทำการทดลอง fail มา 2,000 ครั้ง แต่ผมรู้จัก 2,000 วิธี ของวัสดุที่ใช้ทำไส้หลอดไฟไม่ได้" เห็นไหมครับ เขาไม่ได้ประสบความล้มเหลวในการทดลอง 2,000 ครั้ง เพราะฉะนั้น ถ้าเอดิสันไม่ได้เขียนมา มันก็อาจมี 2,001 ของวิธีที่ใช้ทำหลอดไฟไม่ได้ หรือวิธีที่ 3,000 ก็ได้ เพราะฉะนั้น
    เราเขียนไปเถอะ เล่าประสบการณ์ให้กันและกันฟัง success story ที่เราเล่าในเรื่องของ KM นั้น ท่านก็ทำการเขียน หรือเล่าไว้ เพื่อที่คนรุ่นหลังจะได้รู้ คนรุ่นหลังจะได้ทำ และประสบความสำเร็จแบบเรา หรือไม่ทำในสิ่งที่เราเคยเสียเวลา เสียทรัพยากรไปมากมายแล้ว ตรงนั้น ในการที่เราจะไปทำ หรือสิ่งที่เราเล่านั้นก็อาจจะเป็นอะไรที่เขานำไปต่อยอด ทำให้มันดีขึ้นได้ ทุกอย่างต้องมีการพัฒนา และทุกอย่างไม่ได้มีการหยุดนิ่งอยู่กับที่
  2. กว่าเราจะมีเครื่องบินที่เรานั่งกันอยู่ทุกวันนี้ มันเริ่มมาจากความคิดของคนที่ AB-Normal ไม่กี่คนที่คิดอยากจะบิน เมื่อสัก 100 กว่าปีก่อนนั้น ถ้าเราเห็นมีคน AB-Normal ที่คิดอยากจะบิน เราก็คงจะคิดว่า มันไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเราเป็นคน normal เราไม่ใช้คน AB-Normal เราก็ไม่คิดว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นจะเป็นไปได้ และถ้าเราไปดูพิพิธภัณฑ์เครื่องบิน เรายิ่งประหลาดใจใหญ่เลยว่า ไอ้เครื่องบิน ไอ้วัสดุอย่างนี้เหรอที่มันบินได้ แต่มันก็มาจากความคิดของคน AB-Normal ไม่กี่คน และก็วัสดุที่มีรูปร่างประหลาดๆ ที่เราไม่คิดว่ามันจะบินได้น่ะแหล่ะครับ มันมาเป็นเครื่องบิน jet ในปัจจุบัน มันมาเป็นยาน discovery ที่ไปไหนต่อไหน และภายในอีก 10-20 ปีข้างหน้า สิ่งที่เราเห็น เครื่องบิน A-Bus A-300 ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ Off Service ไปแล้วครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นเพราะ เป็นเรื่องของการถ่ายทอดความรู้ทั้งนั้น ที่เขียนเอาไว้ บอกเล่ากันต่อมา ซึ่งถ้าหากทุกคนเก็บงำไว้เงียบ ก็เหมือนกับทำลายคัมภีร์ ทำลายบู๊ลิ้ม ที่เราอ่านบู๊ลิ้ม แล้วบอกว่า สามารถเหาะเหินเดินอากาศ ซึ่งจริงๆ ก็ไม่รู้ว่า จริงหรือเปล่า หรือเป็นเพราะตำราเหล่านั้น มันถ่ายทอดกันเฉพาะคนที่เป็นสายเลือด หรือตระกูลเท่านั้น และสักพักก็หายสาบสูญไป หรืออย่างตำราของ ฮูโต๋ว นั้น ที่เหลือมาก็เหลือแค่ตำราตอนใหญ่ ตำรารักษาผ่าหัวโจโฉว มันหายสาบสูญไปหมดแล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้น มันเป็นเพราะความใจแคบของคนรุ่นเก่าหรือเปล่า ตำนานว่า ตำนานรักษาของฮูโต๋วที่ดีที่สุด สามารถที่ผ่าหัวโจโฉวได้ เมื่อหลายพันปีก่อนโน้น มันก็เป็นเพียงแค่ตำนานบอกกล่าวเท่านั้นเอง ทั้งนี้ เราก็ไม่รู้นะครับ ถ้าเราไม่เขียนไปสักหน่อย เราก็อาจจะต้องกลับไปสู่ยุคที่เราจะต้องเดิน เพราะในเรื่องของเครื่องยนต์กลไก วิชาความรู้ต่างๆ มันสาบสูญหายไปหมด รวมทั้งงานที่เราทำอยู่ด้วย รวมทั้งองค์ความรู้ต่างๆ เสียหายสาบสูญไป

วันนี้ เราก็จะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ กับท่านวิทยากรทั้งหลาย ที่มาจากทั้งกรมอนามัย และวิทยากรพิเศษ จากสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร คุณวีรยุทธ สมป่าสัก (ฉายา สิงห์ป่าสัก) ... จากศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช คุณจำนง หนูนิล (ฉายา ครูนอกโรงเรียน) และวิทยากรจากกรมอนามัย ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสดี เพราะว่าท่านแต่ละท่านนั้น ภาระงานของท่านก็จะเยอะแยะไปหมด แต่ก็ได้สละเวลาอันมีคุณค่ายิ่ง ที่มาร่วมงานในวันนี้ ต้องขอขอบพระคุณท่านวิทยากรทุกท่านที่เสียสละเวลา ที่จะมาถ่ายทอดองค์ความรู้ซึ่งกันและกัน ขอขอบคุณพวกเราทุกคนที่มีใจมาร่วมตลาดนัดความรู้ในวันนี้ และเป็นโอกาสดียิ่งที่ได้มีหน่วยงานภายนอก กรมธนารักษ์ เข้ามาร่วมงานของกรมอนามัยด้วย ซึ่งต้องกราบเรียนอาจารย์เป็นพิเศษว่า เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ผมคิดว่า แต่ละหน่วยงานนั้น ต่างก็มีจุดดี และจุดเด่นซึ่งเพียงแต่ว่า ดีและเด่นในด้านไหน แต่ถ้าหากว่า เรามีดีและเด่นและเราเก็บไว้เอง เราก็ภาคภูมิใจในตัวของเราเอง แต่ถ้าหากว่าเราได้มีการ ลปรร. เทียบเคียงกัน Bencemark กัน มันก็จะทำให้เราสามารถโตแล้วเรียนลัด หรือโตแล้วเรียนลอก หรืออะไรก็ตามแต่ ที่เราไม่ต้องไปเริ่มเตาะแตะตั้งแต่ 1, 2 เราอาจจะก้าวไปที่ 10, 20 หรือก้าว 100 หรือ 1,000 ได้เลย โดยไม่นับหนึ่งใหม่ สิ่งนี้ก็เป็นการถ่ายทอดแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และหวังว่า ทุกหน่วยก็จะได้ไม่มีการปิดบังในเรื่องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันต่อไป

และสุดท้ายขอขอบคุณสำนักที่ปรึกษา และคณะ ที่เป็นผู้ดูแลเรื่อง KM กรมอนามัย และได้สละกำลังกาย กำลังใจ ทุ่มเทในการจัดงานวันนี้ให้สำเร็จขึ้นมา ผมขอเปิดการประชุม และหวังว่าการประชุมในวันนี้จะบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ต้องการ"

 

หมายเลขบันทึก: 40210เขียนเมื่อ 22 กรกฎาคม 2006 11:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • ขอบพระคุณมากครับที่บันทึกมาแบ่งปัน 
  • หากไม่ได้ไปร่วมงาน อ่านบันทึกของหมอนนท์ รับรองได้เลยว่า เหมือนได้อยู่ในบรรยากาศของตลาดนัดฯ (ขอยืนยันครับ)

 

โห รู้ได้ไงว่าชอบคำยอ ... แบบนี้ ทำจนตายเลยค่ะ

แต่ทว่า มี tricks อยู่อย่างหนึ่งนะคะ ว่า การถอดความละเอียด ก็เหมือนกับเราได้เรียนรู้อีกครั้งหนึ่ง การถอดอย่างนี้ใช้เวลาเหมือนกันนะคะ เพราะต้องเรียนรู้ตั้งแต่ตอนฟังด้วย และฟังอีกครั้งหนึ่งตอนถอดเทปด้วย แต่คิดว่า คุ้ม นะคะ เพราะว่า ได้เรียนรู้อย่างเข้ามากขึ้นด้วยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท