ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณา ปรานีเสมอ
ขอความสันติสุข จงมีแด่ศาสดามุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามตามท่านและผู้อ่านทุกท่าน
วันที่3-4 พฤศจิกายน 2548 จะเป็นวันอีดิลฟิตรี (ฉลองหลังถือศีลอดหรือฮารีรายอในภาษามลายูถิ่น)
เพื่อการเรียนรู้ในศาสนาและวัฒนธรรมในสังคมไทยร่วมกัน ผู้เขียนขอนำเสนอหลักปฏิบัติซึ่งเป็นวิถีชีวิตมุสลิมในวันอีดและหลังรอมฎอนดังนี้
1. การจ่าย ซะกาต (ศาสนทาน)
หลักการซะกาต (ศาสนทาน) เป็นโครงสร้างสำคัญ 1 ใน 5 ของหลักปฏิบัติอิสลาม
ท่านญิบรีล(เทวทูตของพระเจ้า) ได้มาถามท่านนบี ศ็อลฯ (ศาสดา) ว่าอิสลามคืออะไร ท่านนบี ศ็อลฯ ตอบว่า "อิสลามคือการปฏิญาณตนว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ และมุฮัมมัดเป็นรสูลแห่งอัลลอฮ การดำรงนมาซ การบริจากซะกาต การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน และการทำฮัจย์" รายงานโดย บุคอรี-มุสลิม
ซะกาตมีกล่าวถึงในอัล-กุรอ่านมากกว่า 80 อายะห์ (โองการ) โดยควบคู่ไปกับการละหมาด นั่นแสดงว่า เป็นบทบัญญัติที่มีความสำคัญยิ่งของอิสลาม อัลลอฮ ฺ( ซ.บ). ทรงวางโทษของคนมีทรัพย์ที่ไม่ยอมจ่ายซะกาตในแนวทางของพระองค์ไว้อย่างน่าสะพรึงกลัวว่า ความว่า
"และพวกที่สะสมทองคำและเงิน โดยไม่บริจาคซะกาต และไม่นำออกมาใช้จ่ายในวิถีทางศาสนาของอัลลอฮฺ มุฮัมมัด จงแจ้งข่าวการทรมานอันสาหัสที่เป็นข่าวดีสำหรับพวกนั้น ณ วันที่ไฟนรก "ญะฮันนัม" จะทำให้เกิดความร้อนแรง แล้วมันจะถูกนำมารีดบนหน้าผาก สีข้าง และหลังของพวกนั้น นี่แหละผลร้ายของพวกเจ้าทั้งหลายที่พยายามสะสมไว้สำหรับการส่วนตัวของพวกเจ้า โดยไม่ยอมบริจาคซะกาต ดังนั้นพวกเจ้าจงลิ้มรสทรัพย์ที่พวกเจ้าได้สะสมมันไว้โดยไม่ยอมบริจาคเถิด" (อัต-เตาบะห์ 9:35)
อับดุลลอฮฺ อิบนิมัสอูด (อัครสาวกศาสดา) รายงานว่า "พวกเราได้รับคำสั่งจากท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ให้ดำรงละหมาด และบริจาคซะกาต และว่าผู้ใดไม่บริจาคซะกาต การละหมาดของผู้นั้นก็ไม่มีความหมายเลย"
2 ประเภทซะกาตที่มุสลิมจะจ่ายช่วงวันอีด
1. สำหรับทุกคน(ส่วนใหญ่) คือ ซะกาตฟิตเราะห์
ซะกาตฟิตเราะฮฺ คือ ซะกาตที่จำเป็นจะต้องจ่ายอันเนื่องจากหมดภาระถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ซึ่งจำเป็น (วาญิบ) แก่มุสลิมทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ เพศชาย หรือหญิง แต่ผู้ที่จะเป็นผู้จ่ายนั้น จะ เป็นหัวหน้าครอบครัว และผู้อุปการะผู้อื่นโดย จ่ายเพื่อตัวเขา และเพื่อคนที่อยู่ในครอบครัวทุกคน และคนที่ต้องรับผิดชอบด้วย
สำหรับปริมาณที่ต้องจ่าย คนละ 1 ศออฺ (ในภาษาอาหรับ)หรือประมาณเกือบ 4 ลิตรของอาหารหลักในท้องถิ่นนั้น ๆ เช่น ในประเทศไทยคือข้าวสาร เป็นต้นโดยจะจ่ายให้คนยากจน หรือให้เจ้าหน้าที่เก็บซะกาตของมัสญิดก็ได้ เพื่อจะได้แจกจ่ายให้แก่ผู้มีสิทธิ์รับซะกาตต่อไป
2. สำหรับคนรวยหรือมีเงื่อนไขครบ ซะกาตที่ต้องจ่าย มีดังนี้
อัล-ซะกาต |
มีอะไรบ้างที่ต้องจ่าย |
- เงินแท่งทองแท่ง
- รายได้จากปศุสัตว์
- รวยได้จากพืชผล
- รายได้จากการค้า
- ขุมทรัพย์
อัตราจ่าย ซะกาต อูฐ แพะ แกะ และวัวควาย มีดังนี้
อัตราจ่ายซะกาต อูฐ |
จำนวนอูฐ |
จ่ายซะกาต |
อูฐ 5 ตัว ถึง 9 ตัว |
แกะ 1 ตัว |
อูฐ 10 ตัว ถึง 14 ตัว |
แกะ 2 ตัว |
อูฐ 15 ตัว ถึง 19 ตัว |
แกะ 3 ตัว |
อูฐ 20 ตัว ถึง 24 ตัว |
แกะ 4 ตัว |
อูฐ 24 ตัว ถึง 35 ตัว |
ลูกอูฐตัวเมียอายุย่างเข้า 2 ขวบ 1 ตัว |
วัวและควาย |
จำนวนวัว |
จ่ายซะกาต |
30 ตัว |
ลูกวัวอายุ 1 ขวบ 1 ตัว |
40 ตัว |
ลูกวัวอายุ 1 ขวบ 1 ตัว |
60 ตัว |
ลูกวัวอายุ 1 ขวบ 2 ตัว |
70 ตัว |
ลูกวัวอายุ 1 ขวบ 1 ตัว กับอีก 2 ขวบ 1 ตัว |
80 ตัว |
ลูกวัวอายุ 2 ขวบ 2 ตัว |
90 ตัว |
ลูกวัวอายุ 1 ขวบ 3 ตัว |
100 ตัว |
ลูกวัวอายุ 2 ขวบ 1 ตัว กับอีก 1 ขวบ 2 ตัว |
แพะแกะ |
จำนวนแพะหรือแกะ |
จ่ายซะกาต |
40 ถึง 120 ตัว |
1 ตัว |
121 ถึง 200 ตัว |
2 ตัว |
211 ถึง 399 ตัว |
3 ตัว |
400 ถึง 499 ตัว |
4 ตัว |
500 ถึง 599 ตัว |
5 ตัว |
มีเกินกว่านี้ |
จ่าย 1 ตัว ต่อ 100 ตัว |
อัตราจ่ายซะกาตสำหรับเงิน (ที่ใช้จ่าย) ทองคำและเงินแท่ง
จำนวนเงินครบอัตราจ่ายเป็นซะกาต
เท่ากับราคาทองคำซึ่งหนัก |
= 20 ดีนาร (หรือมิษกอล) |
หรือ |
= 85 กรัม |
หรือ |
= 5.6667 บาท (น้ำหนักทองคำ) |
อัตราจ่ายซะกาต |
= 2.5 % |
ทองคำครบ 20 ดีนาร |
= 5.6667 บาท |
จ่ายเป็นซะกาต |
= 0.5 ดีนาร |
หรือ |
= 2.125 กรัม |
หรือ |
= 0.14167 น.น.ทองคำ |
เงินแท่งครบ 200 ดิรฮัม จ่ายเป็นซะกาต |
= 5 ดิรฮัม |
หรือเท่ากับทองคำซึ่งหนัก |
= 3.5 ดีนาร |
หรือ |
= 14.875 กรัม |
หรือ |
= 0.99167 บาท |
หมายเหตุ ดินาร หรือมิษกอล เป็นมาตราชั่งน้ำหนักทองคำ ดิรฮัม เป็นมาตราชั่งน้ำหนักเงิน
|
ซะกาตจะเป็นสูตรแก้ปัญหาความยากจน และสังคมเบื้องต้น หากการจ่ายซะกาตสัมฤทิ์ผลในชุมชนใดทำให้คนจนมีหลักประกันชีวิต ทำให้สังคมรักสมัครสมานกันระหว่าวคนรวยกับคนจน เห็นอกเห็นใจกัน ช่วยเหลือ กันออมีความอบอุ่นมั่นคงในชีวิต ความเห็นแก่ตัวเอาตัวรอดจะจางหายไป สังคม
เพราะฉะนั้นจะเห็นชาวบ้านจำนวนมากจะออกจากบ้านในคืนสุดท้ายหรือช่วงเช้าของวันอีด (ฮารีรายอ) ไปหาคนยากจนหรือเจ้าหน้าที่มัสยิด
|
2. ภารกิจมุสลิมวันอีด (ฮารีรายอ)
เมื่อสำนักจุฬาราชมนตรีประกาศวันอีดมุสลิมจะมี หลักปฏิบัติในวันอีดพอสรุปได้ดังนี้
- กล่าวตักบีร (สรรเสริญความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า)
เมื่อมีการประกาศกำหนดวันอีดแล้ว มุสลิมทั้งชายและหญิงควรกล่าวตักบีรไปเวลาละหมาดอีด โดยให้กล่าวว่า “อัลลอฮุ อักบัร, อัลลอฮุ อักบัร, อัลลอฮุ อักบัร, ลาอีลาฮาอิลลัลลอฮ วัลลอฮุอักบัร, อัลลอฮุ อักบัร วะลิลลาฮิลฮัมดฺแปลว่า อัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ และมวลการสรรเสริญมอบแด่พระองค์” และการกล่าวเช่นนี้ในชุมชนมุสลิมจะเปิดเครื่องขยายเสียงดังที่มัสยิด
- อาบน้ำและทำความสะอาดร่างกาย
ควรมีการอาบน้ำชำระล้างและทำความสะอาดร่างกาย ก่อนสวมใส่เสื้อผ้าไปยังที่ละหมาด พร้อมทั้งขจัดขนอวัยวะเพศ ขนรักแร้ ตัดเล็บ กลิ่นกายที่น่ารังเกียจและรบกวนผู้อื่น
- แต่งกายด้วยอาภรณ์ที่ดี
ควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ดี ที่สามารถหามาได้ พร้อมกับใช้น้ำหอม ยกเว้นบรรดาสตรี ซึ่งไม่อนุญาติให้พวกนางใช้น้ำหอมในการไปละหมาด
-ไปยังที่ละหมาดตั้งแต่เช้า
สำหรับผู้เป็นมะมูม(ประชาชนทั่วไป) ควรรีบออกไปยังที่ละหมาดตั้งแต่เช้า ทั้งนี้เพื่อไปจองที่และรอละหมาด ยกเว้นผู้เป็นอิมาม(ผู้นำละหมาด)ให้ออกไปเมื่อใกล้เวลาละหมาด โดยการออกไปยังที่ละหมาดควรปฏิบัติดังนี้
ก. – ควรออกไปและกลับด้วยการเดินเท้า นอกจากมีเหตุจำเป็น เช่นไม่สบาย เป็นไข้ อยู่ไกล เช่นนี้อนุญาตให้ใช้พาหนะได้ ข.- กล่าวตักบีรตลอดทางไปสู่ที่ละหมาด ค.-เดินเท้าไปและกลับควรใช้เส้นทางต่างกัน ง.- พาครอบครัวไปด้วยกัน จ.- ควรพาครอบครัว ลูก ภรรยา ไปที่ละหมาด เพื่อร่วมละหมาดหรือฟังคุฏบะฮฺ (ธรรมเทศนา) เช่นปีที่ผ่านมา(2547) ปัตตานีจัดละหมาดอีดที่สนามโรงเรียนเบญจมราชูทิศมีผู้เข้าร่วมเกือบหมื่นคน |
-ภารกิจหลังละหมาดอีด
หลังละหมาดให้ต่างคนต่างแสดงความดีใจและยินดีซึ่งกันและกัน โดยให้กล่าว (ตะก๊อบ บะลัลลอฮู มินนา วะมินกุม แปลว่าขอให้อัลลอฮฺเจ้าจงตอบแทนความดีของเรา) และอภัยซึ่งกันและกันหลังจากนั้นให้มีการบริจาคทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาสตรี สุดท้ายไปเยี่ยมญาติและเพื่อนๆ
3. ถือศีลอดอีก 6 วัน หลังจากวัน อีดิ้ลฟิตร์แล้ว
หลังรอมฎอนแล้วมุสลิมที่มีความสามารถควรถือศีลอดอีก 6 วัน ซึ่งเป็นการถือศีลอดซุนนะฮฺ (ตามความสมัครใจและตามแบบฉบับศาสดา)
ตามรายงานของอะบีอัยยู๊บ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮฺ (อัครสาวกศาสดาท่านหนึ่ง) แจ้งว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ กล่าวว่า "ผู้ใดถือศีลอดเดือนรอมฎอนแล้วติดตามหลังจากรอมฎอนอีก 6 วันจากเดือนเซาวัล เสมือนกับว่าเขาถือศีลอดทั้งปี" บันทึกโดยมุสลิม ในการถือศีลอดซุนนะฮฺ 6 วันนี้ไม่มีเงื่อนไขให้ถือติดต่อกันไป แต่ควรให้กระทำหลังจากวันอีดทันที
นี่คือหลักปฏิบัติของอิสลามพอสังเขปซึ่งเป็นวิถีชีวิตของชุมชนมุสลิมภาคใต้และมุสลิมที่อื่น ซึ่งอยากจะให้เจ้าหน้าที่ของรัฐนำเป็นกรอบในการกำหนดนโยบายและปฏิบัติในพื้นที่
ในขณะเดียวกันการเรียกร้องให้องค์กรของรัฐและสังคมอื่นเข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา ได้ดีอย่างสมบูรณ์ได้นั้น มุสลิมเองต้อง มีคุณลักษณะและแสดงความเป็นมุสลิมที่ดีตามแนวทางศาสดาทุกอริยะบทของการดำเนินชีวิต และเข้าใจ เข้าถึงและร่วมมือกับสังคมอื่นตามกรอบที่ศาสนาได้กำหนดไว้เช่นกัน รับรองสังคมไทยจะอยู่ร่วมอย่างสมานฉันท์และหวังว่าตากใบสองคงไม่เกิดในช่วงท้ายรอมฎอนอีกครั้งในปีนี้
สุดท้ายขอประณามเหตุการณ์ล่าสุดผู้ที่ฆ่าพระ ทำลายทรัพย์สินของวัดเพราะเป็นการขัดคำสั่งท่านศาสดาที่ ได้เน้นย้ำไว้อย่างมากคือ อย่าฆ่าสตรี เด็ก คนแก่ หรือนักบวชที่อยู่ ในโบสถ์ของเขา และห้ามตัดต้นไม้
หวังว่าศาสนธรรมและสันติธรรมไม่ใช่เป็นเพียงเป้าหมายเท่านั้น แต่เป็นวิถีทางที่สำคัญในการอยู่ร่วมอย่างสันติและขอดุอาอ์ (พร) จากอัลลอฮ ซุบฮานะฮุ วะ ตะอาลาโปรดทรงรวมพลังของพวกเราให้อยู่บนทางนำ และรวมหัวใจของพวกเราอยู่บนความรักฉันท์พี่น้อง และความมุ่งมั่นของพวกเราอยู่บนการงานที่ดีและขอทรงทำให้ วันนี้ของพวกเราดีกว่าเมื่อวาน และให้ พรุ่งนี้ของพวกเราดีกว่าวันนี้ แท้จริงพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงได้ยินและทรงอยู่ใกล้
และนำความสงบสุขสู่จังหวัดชายแดนใต้และประเทศชาติทั้งมวลด้วยเทอญ สุขสวัสดีวันตรุษอีดดิลฟิตรี 1426 อามีน