จะรักกันอย่างไร ในเมื่อเรายังไม่เข้าใจกัน


หนังสือเพื่อลดความเกลรยดชังและความกลัวต่อกัน

       เมื่อวานไปร้านหนังสือ   เจอเล่มหนึ่งพลิกไปพลิกมาน่าสนใจ   เลยซื้อกลับมาอ่าน   อ่านรวดเดียวจบครับ  น่าสนใจและมีประโยชน์มากใน การทำความเข้าใจปรากฏการณ์ทางสังคมหลายๆอย่างในตอนนี้   ทั้งปรากฏการณ์เสื้อแดง  เสื้อเหลือง   ปัญหาสังคม    ปัญหาเด็กและเยาวชน  ความรุนแรง  และ ทางออกของสังคม

 

      ชื่อหนังสือ "จะรักกันอย่างไร  ในเมื่อเรายังไม่เข้าใจกัน" 

 

      ผู้เขียน คือ  ดร. อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ 

 

      โดยรวบรวมบทความจากคอลัมน์ "ใต้กระแส" หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

 

      (เสียดายครับ ที่ไฟล์อัลบั้มมีปัญหา เลยยังไม่สารถนำภาพหนังสือมาโชว์ได้) 

 

       เขียนโปรยในบทนำว่า

 

       "ในวันนี้  สังคมไทยดำลังเปราะบางอย่างยิ่ง เพราะเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความกลัวซึ่งกันและกัน 

 

         ในสภาวะเช่นนี้  ความเข้าใจที่คนไทยแต่ละกลุ่มที่มีต่อคนอื่นๆ ที่อยู่ร่วมสังคมเดียวกันนับว่ามีความสำคัญเป็นพิเศษ   เพราะความเข้าใจบริบทหรือเงื่อนไขแวดล้อมกันซับซ้อนที่ผลักดันพฤติกรรมทางสังคมของคนแต่ละกลุ่มอย่างลึกซึ้งรอบด้านเท่านั้น ที่จะช่วยลดความเกลี่ยดชังและความกลัวต่อกันและกันได้   จนสามารถจะมองเห็นซึ่งกันและกันในฐานะเพื่อนมนุษย์

 

         ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นเพื่อนมนุษย์ที่ต่างก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจของเงื่อนไขแสดล้อมเศรษฐกิจ การเมือง  วัฒนธรรมของแต่ละคน หรือ แต่ละกลุ่มเช้นเดียวกับมนุษย์ทั้งหลายในโลกเท่านั้น   แต่ยังเป็นเพื่อนมนุษย์ที่มีชะตากรรมร่วมกันอยู่อย่างมาก 

 

        เพราะต่างก็สังกัดอยู่ในสังคมเดียวกัน  ได้รับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงของสังคมร่วมกัน  และ หากมีความรุนแรงเกิดขึ้น  ก็ต้องรับผลแงความรุนแรงนั้นร่วมกัน ไม่โดยตรงก็โดยอ้อม"

 

       ผมอ่านจบแล้วหูตาสว่างขึ้นอีกมากครับ  เล่มนี้   เหมาะสำหรับหลายๆ  " นัก "   ครับ  ทั้ง นักการศึกษา  นักการเมือง  นักปกครอง    นักการศาสนา    นักมนุษยย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์   ฯลฯ

 

      เพราะเป็นการวิเคราะห์ปรากฏการณ์ทางสังคมด้วยมุมมองที่ลุ่มลึก ผ่านเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ว่ามีผลเกี่ยวโยงต่อสังคมปัจุบันอย่างไร    ผ่านมุมมองของผู้เขียน  ที่ว่า

 

      "ถ้าเราไม่มองลึกลงไปเกินกว่าตัวปรากฏการณ์   สุดท้าย เราจะไม่เห็นแม้แต่ตัวปรากฏการณ์เองด้วยซ้ำ"

 

       ครับ   ที่ผ่านมา เวลามีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น  เช่น   ปัญหาการชุมนุมของเสื้อแดง  ปัญหาที่เกิดจากเด็กและเยาวชน   ปัญหาสังคม    ปัญหาความเหลือมล้ำ     ปัญหาการศึกษา     เรามักจะแก้กันง่ายๆ  มองกันง่ายๆ   โดยมองกันแค่เหตุการณ์ในปัจจุบัน    และก็มักจะแก้กันง่ายๆที่ปลายเหตุ    โดยขาดมุมมองที่ลุมลึกไปถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาที่มีที่มาจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน

 

        ลองซื้อมาอ่านดูครับ 180  บาท อ่านสนุก   ได้มุมมองทางประวัติศาสตร์ ที่น่าจะนำมาปรับใช้ในการแก้ปัญหาและการพัฒนาได้ครับ

 

         โดยเฉพาะ "ชาวการศึกษา"

 

หมายเลขบันทึก: 398395เขียนเมื่อ 26 กันยายน 2010 09:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 12:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

ว้าวววววววววววววววว ดูชื่อบันทึกสิ

ไม่ต้องอ่านก็โดนแล้ว ชื่อเหมือนหนังเกาเหลาเลย

หนังเกาหลีเค้ารักและเข้าใจกัน

หนังเกาหลารักกันไม่เข้าใจกัน ไม่กินเส้น

Ico32คุณไผ่ไม่มีกอครับ

   ครับ ชื่อเหมือนหนังรัก   แต่ เนื้อหา เป็นหนังประวัติศาสตร์ ครับ

Ico32คุณไผ่ไม่มีกอครับ

  หนังเกาเหลา  เป็นหนังไม่กินเส้นกัน  คงต้องกินกับข้าวเปล่านะครับ จะได้อยู่ท้อง

 

สวัสดีค่ะท่านsmall man
       ดีจังค่ะ เป็นการแนะนำหนังสือที่น่าอ่าน เข้าทางการจัดกิจกรรมส่งเสริมรักการอ่านจังค่ะ  ขอบคุณที่นำเสนอสิ่งดีๆ ค่ะ

Ico32คุณเมียวดีครับ

  ลองหาซื้อมาอ่านดูนะครับ แล้วนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน

                     ขอบคุณครับ

น่าสนใจมากเลยค่ะ

หากมีเวลาก็จะลองไปหามาอ่านดู เพื่อที่จะได้เข้าใจกันมากขึ้น

ขอบคุณค่ะที่นำสิ่งดี ๆ มาเสนอ

  • สวัสดีครับ อาจารย์ small man
  • น่าสนใจดี ต้องหามาอ่านบ้างแล้ว
  • ขอบคุณครับ

สังคมไทยกำลังเปราะบางอย่างยิ่ง เพราะเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความกลัวซึ่งกันและกัน

  • เท่าที่ติดตามข่าวคราวมาโดยตลอด ผมว่าสาเหตุสำคัญน่าจะมาจาก..หนึ่งข้อมูลข่าวสารในสังคมที่มีอยู่ไม่ดี ไม่ถูกต้อง นำเสนอเพียงด้านเดียว เพื่อจงใจให้คุณแก่ฝ่ายตัวเอง และจงใจให้โทษกับฝ่ายตรงข้าม สองนักการเมืองคิดจะเอาแต่ประโยชน์ตัวเอง ไม่คำนึงถึงชาวบ้าน(ที่ตัวเองอ้างถึงตลอด) ไม่คำนึงถึงบ้านเมือง วิธีแก้ คือ ต้องให้ความรู้คน ให้การศึกษา เพื่อให้ทันคนครับ
  • ท่านรองฯวิชชาพูดถึงหนังสือเสียน่าอ่านเลย..ขอบคุณครับ

Ico32คุณอรอุมาครับ

  ลองอ่านดูแล้วนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันครับ

                 ขอบคุณครับ

Ico32อ.ฐานิศวร์ครับ

  ลองหามาอ่านดูนะครับ แล้วนำมาคุยกัน

                    ขอบคุณครับ

Ico32อ.ธนิตย์ครับ

    ปัญหาบ้านเมืองในตอนนี้

   หนึ่งข้อมูลข่าวสารในสังคมที่มีอยู่ไม่ดี ไม่ถูกต้อง นำเสนอเพียงด้านเดียว เพื่อจงใจให้คุณแก่ฝ่ายตัวเอง และจงใจให้โทษกับฝ่ายตรงข้าม

    (ครับ ประมาณว่า "สื่อเลือกข้าง")

    สองนักการเมืองคิดจะเอาแต่ประโยชน์ตัวเอง ไม่คำนึงถึงชาวบ้าน(ที่ตัวเองอ้างถึงตลอด) ไม่คำนึงถึงบ้านเมือง

     (การเมือง เป็นเรื่องของผลประโยชน์ทั้งนั้นนะครับ)

  วิธีแก้ คือ ต้องให้ความรู้คน ให้การศึกษา เพื่อให้ทันคนครับ

            ขอบคุณมากครับ

    ยังไงละก็ ลองหาซื้อมาอ่านดูนะครับ แล้วนำมาคุยกัน

สวัสดีค่ะท่านรอง

"จะรักกันอย่างไร  ในเมื่อเรายังไม่เข้าใจกัน" 

  • คงต้องหามาอ่านแล้วหล่ะค่ะ ชอบเรื่องแนวนี้อยู่เหมือนกัน
  • จะเรียนท่านรองว่า "มารไม่มี บารมีไม่เกิด"
  • ที่ท่านรองมอบให้เมื่อวันก่อนนั้น
  • เป็นประโยคสั้น ๆ ที่ทำให้ ฮึดสู้อย่าเต็มพิกัดเลยค่ะ
  • ณ วันนี้ ส่งผลงานเรียบร้อยแล้วค่ะ
  • แวะมาขอบพระคุณท่านรองค่ะ
  • และเรียนเชิญท่านรองไปเติมเต็มด้วยบทกลอนที่  หอมความดี แด่พี่ครูคิม (เนื่องในโอกาสเกษียณอายุ) ด้วยค่ะ

Ico32ครูอิงจันทร์ครับ

 *  เล่มนี้ลองอ่านดูนะครับ ไม่หนา และ เนื้อหาไม่หนัก มีพูดถึงเรื่องการศึกษาไว้หลายตอน   อ่านแล้ว นำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนะครับ

  *  สำหรับผลงาน   ส่งไปแล้ว ก็ดีใจด้วยครับ  ขอให้ผ่านโดยเร็วไว

  *  บันทึกให้พี่คิม ดีมากเลยครับ

                     ขอบคุณครับ

  • สวัสดีครับ
  • เมื่อเกิดความเกลียดชัง ก็เท่ากับปิดประตูหัวใจ ไม่รับฟังใคร โดยลืมไปว่าเหรียญมีสองด้าน มีทั้งดี ทั้งไม่ดี ทุกวันนี้เรามองอะไรด้านเดียว ไม่รับฟังเหตุผลอย่างอื่นก็เลยเกิดความวุ่นวายอย่างที่เห็นครับ
  • คิดให้กว้าง คิดให้นาน คิดให้ยาว รู้จักรับฟังเรื่องราวด้วยสติ ใช้เหตุผลในการแก้ไขปัญหา ตามเหตุ ตามผล อาจทำให้อะไรๆ ที่ยุ่งยากดีขึ้นบ้างครับ

 

สวัสดีค่ะท่านรอง ฯ มาเยี่ยมอ่านสาระน่าเรียนรู้ทำให้ได้รู้จักหนังสือดีๆอีกเล่มหนึ่งค่ะ ขอบคุณค่ะยังคงติดตามอ่านบันทึกอยู่ค่ะแต่ไม่ค่อยได้เข้ามาบันทึกไว้ อิอิ

Ico32คุณชำนาญครับ

  การเมืองต้องมองรอบด้านจริงๆ ครับ  มองด้านเดียวแบบแบ่งขั้ว แยกข้าง หาทางออกลำบากครับ

                 ขอบคุณครับ

  

Ico32อ.Rindaครับ

  หนังสือเล่มนี้ ลองติดตามอ่านดูนะครับ มีมุมมองเรื่องการศึกษาไว้น่าสนใจ

                    ขอบคุณครับ

+ สวัสดีค่ะท่าน...Ico32 small man

เรามักจะแก้กันง่ายๆ  มองกันง่ายๆ   โดยมองกันแค่เหตุการณ์ในปัจจุบัน    และก็มักจะแก้กันง่ายๆที่ปลายเหตุ    โดยขาดมุมมองที่ลุมลึกไปถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาที่มีที่มาจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน

+ ประทับใจและเห็นด้วยกับความคิดนี้ค่ะ...ไม่ว่าปัญหาใด ๆ คนเรามักเป็นเช่นนี้  เราจึงแก้ไขปัญหาอะไรไม่มีคุณภาพซะที่ค่ะ...และยังแต่นำมาซึ่งปัญหาอื่น ๆ เกี่ยวโยงกันไป

Ico32ตุณแอมแปร์ครับ

   หายไปนานเลยนะครับ -  ขอบคุณมากครับที่เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยครับ

               สบายดีนะครับ

               (ข้อความโดนใจค่ะ)......ความเข้าใจที่คนไทยแต่ละกลุ่มที่มีต่อคนอื่นๆ ที่อยู่ร่วมสังคมเดียวกันนับว่ามีความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะความเข้าใจบริบทหรือเงื่อนไขแวดล้อมกันซับซ้อนที่ผลักดันพฤติกรรมทางสังคมของคนแต่ละกลุ่มอย่างลึกซึ้งรอบด้านเท่านั้น ที่จะช่วยลดความเกลี่ยดชังและความกลัวต่อกันและกันได้ จนสามารถจะมองเห็นซึ่งกันและกันในฐานะเพื่อนมนุษย์ ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นเพื่อนมนุษย์ที่ต่างก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจของเงื่อนไขแวดล้อมเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรมของแต่ละคน หรือ แต่ละกลุ่มเช่นเดียวกับมนุษย์ทั้งหลายในโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนมนุษย์ที่มีชะตากรรมร่วมกันอยู่อย่างมาก เพราะต่างก็สังกัดอยู่ในสังคมเดียวกัน ได้รับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงของสังคมร่วมกัน และ หากมีความรุนแรงเกิดขึ้น ก็ต้องรับผลแห่งความรุนแรงนั้นร่วมกัน ไม่โดยตรงก็โดยอ้อม" ผมอ่านจบแล้วหูตาสว่างขึ้นอีกมากครับ

              ครูตาได้อ่านเพียงใน blog ของท่านรองฯ  ก็นึกถึงสภาพองค์กร/สังคมเดียวกันของ ศูนย์การเรียนรวมแม่ก๋งวิทยาเลยค่ะ   กลุ่มคนที่ย้ายอยู่ในสังคมเดียวกันตั้ง 4  โรงเรียน  ยากมากที่จะเข้าใจวัฒนธรรมของโรงเรียนใหม่ที่มาอยู่ด้วย  ในเมื่อแต่ละคน หรือกลุ่มคนต่างยึดติดกับ paradigm เดิม ๆ  วัฒนธรรมเดิม ๆ ซึ่งขาดการหลอมรวมใจกัน (ยากจัง) เมื่อจัดกิจกรรมแต่ละครั้ง แม้เราจะคิดว่าเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่กลับยุ่งยากไปหมด  ท่านคิดว่าปัญหาอย่างนี้   จะรอเวลา  หรือว่า รีบจัดการดีคะ ? 

Ico32ครูตาครับ

  *    ขาดการหลอมรวมใจกัน (ยากจัง) เมื่อจัดกิจกรรมแต่ละครั้ง แม้เราจะคิดว่าเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่กลับยุ่งยากไปหมด  

  *   ท่านคิดว่าปัญหาอย่างนี้   จะรอเวลา  หรือว่า รีบจัดการดีคะ ? 

        ขอตอบตามความคิดของผมนะครับ  ผมว่าทางแก้ที่ดีที่สุด (แต่ทำยากที่สุด) ต้องแก้ด้วย Dialogue  ครับ    นำมาล้อมวง Dialogue  กันบ่อยๆ ก็จะค่อยๆเข้าใจกันครับ

        แต่ Dialogue ทำยากครับ เพราะขัดกับวัฒนธรรมของเรา

        ตอนนี้ ที่จะพอทำได้ คือ คงต้อง "แก้ที่ตัวเอง" ครับ

                      ขอบคุณครับ

คุณsmall man ค๊ะ ขอเชิญชวนกันมาคิดบวก ในความต่างเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องดีที่ท้าทายและเป็นรางบอกเหตุหนสู่ความเป็นประชาธิปไตยไงอยากบอกว่าน้อยคนนักที่จะรักแรกพบ ดังนั้นการที่มีความไม่เข้าใจกัน เพียงให้เวลาติดตามตรึกตรองมองหลายมุม ใจนิ่ง ใจเย็น ใจกว้าง ก็จะเห็นความเป็นธรรมดา เริ่มจากตัวเราเปลี่ยนไม่ใช่คนอื่น เรื่องง่ายๆ คิดได้แล้ว เริ่มทำเลย จะเห็นความเป็นธรรมดาที่ว่านี้ทันที

คุณทองครับ

  *  ขอเชิญชวนกันมาคิดบวก ในความต่างเป็นเรื่องธรรมดา

            (ดีมากเลยครับ

 

*  เป็นเรื่องดีที่ท้าทายและเป็นรางบอกเหตุหนสู่ความเป็นประชาธิปไตย

     (ประชาธิปไตย ต้องยอมรับความต่างครับ)

*   ดังนั้นการที่มีความไม่เข้าใจกัน เพียงให้เวลาติดตามตรึกตรองมองหลายมุม ใจนิ่ง ใจเย็น ใจกว้าง ก็จะเห็นความเป็นธรรมดา

     (ครับ มองหลายแง่หลายมุม)

 

*  เริ่มจากตัวเราเปลี่ยนไม่ใช่คนอื่น เรื่องง่ายๆ คิดได้แล้ว เริ่มทำเลย จะเห็นความเป็นธรรมดาที่ว่านี้ทันที

      (ดีมากครับ เริ่มที่ตัวเราก่อน)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท