หนังสือน่าอ่านคงไม่เริ่มจากหน้าปกต้องเปิดอ่านดูข้างในก่อนอีกอย่างนิสัยรักการอ่านต้องปลูกฝังตั้งแต่วัยเด็กแต่ก็ต้องเข้าใจบริบทของแต่ละคนด้วยเช่นกัน
*บริบท=สภาพเเวดล้อม
สวัสดีครับ ลูกเทาเหลืองทุกคน
....สำหรับเรื่องการอ่านจากเท่าที่ทราบมาข้อมูลที่มีคนทำวิจัยบอกว่าเด็กไทยอ่านหนังสือปีละประมาณ 8 บรรทัด ก็ตกใจอยู่เหมือนกัน คงมีหลายปัจจัยเหมือนกันที่ทำให้เด็กไทยอ่านหนังสือกันน้อยลงอันนี้คงไม่อยากโทษใคร แต่ว่าเราควรมาเริ่มหาทางแก้ไขกันก่อนดีกว่า แต่ว่าโดยส่วนตัวแล้วเห็นว่า
การที่จะเริ่มอ่านหนังสือนั้นไม่จำเป็นต้องอ่านแต่หนังสือตำราเรียน อย่างเดียว เด็ก ๆ ด้วยแล้วการเริ่มอ่านในสิ่งที่เค้าอยากอ่านมากที่สุด คิดว่าทุกคนควรสนับสนุนนะ ไม่ว่าจะอ่านอะไร หมายถึงอาจจะอ่านการ์ตูน นิยาย เรื่องสั้น ที่ตนเองชื่นชอบ พออ่านไปได้สักพักหนึ่งเด็กจะเกิดการเรียนรู้ คืออ่านเยอะขึ้นเพราะอ่านแล้วสนุกแล้วจะเกิดนิสัยรักการอ่านโดยไม่รู้ตัว และจะขยายทักษะการอ่านของตัวเองมากขึ้นอาจ อ่านหนังสืออื่น ๆ มากขึ้นนั่นก็เป็นแง่ดี
ส่วนผู้ปกครองหรือครู อาจจะดูห่าง ๆ คอยชี้แนะ และสนับสนุนเด็ก
หากทำได้อย่างนี้คิดว่าสักวันประเทศไทยของเราจะมีนักอ่าน มากขึ้น และถ้าเค้าอ่านมาก ๆ อารมณ์ที่เค้าอยากเขียนหรืออยากมีหนังสือของตัวเองสักเล่มที่เค้าสร้างสรรค์มันขึ้นมา ก็เป็นได้.......
อ่านมากย่อมรู้มาก อ่านน้อยก็ไม่ใช้ว่ารู้น้อย บางคนไม่ชอบอ่านหนังสือเรียน แต่อาศัยการสักถามความสนใจก็ย่อมรู้มากเช่นกันคนที่ขี้เกลียดอ่านหนังสือไม่ใช่ว่าคนโง่แต่ไม่ยากเป็นคนโง่ก็ต้องขยันหาวิธีที่จะได้ความรู้มา เพราะไม่มีใครที่ให้ความรู้เราดีเท่ากับตัวเราเองที่ศึกษาค้นคว้าทำความเข้าใจด้วยตนเองไม่เข้าใจก็ถามไม่รู้ก็หา ถ้าเราไม่หัดเป็นคนยากรู้ยากเห็นในสิ่งที่ควรรู้ในสิ่งที่ควรศึกษาแล้วละก็เราก็จะเป็นเหมือนบัวใต้ต่มที่ไม่มีวันเห็นแสงสว่างของชีวิต แล้วชีวิตเราจะเกิดมาเพื่ออะไรถ้าไม่คิดที่จะเจริญก้าวหน้าในชีวิตการเรียนการทำงานการดำรงชีวิตที่ไม่ประมาณเพราะเวลาไม่คอยใครและไม่สามารถจะย้อนกับมาในสิ่งที่ผิดพลาดควรจะทำถ้ามีโอกาส
ชีวิตตัวเราเองที่เป็นผู้กำหนด
การอ่านทำให้เกิดจินตนาการนะ หลายตนอาจจะไม่เข้าใจในเรื่องนี้ก็ได้ ก็เลยไม่ชอบอ่าน คงคิดว่าดูทีวีดีกว่าเพราะมีภาพและเสียง
ม้นก็ดีนะคะการอ่านน่ะ (ใครก็รู้บอกทำไมฟะ)
จาก บรรณารักษ์2008เอง ^_^