JUS DISPOSITIVUM เป็นภาษาละติน แปลว่ากฎหมายไม่บังคับตายตัวหรือกฎหมายอันเกิดจากความยินยอม เป็นคำที่มีความหมายตรงข้ามกับคำว่า JUS COGENS ที่ได้เคยเสนอไว้แล้ว
jus dispositivum ตาม BLACK'S LAW DICTIONARY(2004)ได้ให้ความหมายว่า"(n)[Latin"law subject to the disposition of the parties"] International Law : A norm that created by the consent of participating nations, as by an international ageement , and is binding only on the nations that agree to be bound by it" jus dispositivum ดังกล่าวนี้ เป็นคำศัพท์ที่ใช้ในทางกฎหมายระหว่างประเทศ แปลว่าหลักเกณฑ์ที่ถือปฏิบติโดยความยินยอมในการเข้าร่วมทำความตกลงระหว่างประเทศและผูกพันเฉพาะกับรัฐที่ตกลงหรือยอมรับที่จะผูกพันตามข้อตกลงดังกล่าว โดย jus dispositivum นี้เป็นเรื่องความตกลงระหว่างประเทศหรือใช้หลักความยินยอมจึงจะผูกพัน
ซึ่งต่างจาก jus cogens ที่เป็นกฎหมายบังคับเด็ดขาด(Compelling Law or Peremptory Norm) อันเป็นกฎเกณในหลักกฎหมายทั่วไปที่ได้รับการยอมรับและได้รับความเห็นชอบในประชาคมระหว่างประเทศ ในฐานะกฎเกณฑ์ที่ถือปฏิบัติที่ไม่อาจมีกฎเกณฑ์ใดมาขัดหรือแย้งหรือยกเลิกกับหลัก jus cogensซึ่งมีลักษณะเป็นกฎเกณฑ์อันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน(Public Orders) เช่น การค้าทาส การฆ่าล้าเผ่าพันธุ์มนุษย์ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม jus cogens อาจถูกแก้ไขโดยกฎหมายที่เกิดขึ้นภายหลัง(กฎหมายใหม่ยกเลิกกฎหมายเก่า)โดยมีเงื่อนไขว่ากฎหมายที่เกิดขึ้นภายหลังต้องมีลักษณะเป็นและองค์ประกอบฐานะเป็น jus cogens เช่นกันจึงจะสามารถยกเลิกหรือแก้ไข jus cogens ที่มีอยู่เดิมได้
นอกจากความต่างในเรื่องของค่าบังคับของกฎหมายแล้ว jus cogens ยังมีลักษณะบังคับเป็นการทั่วไป(erga omnes) กล่าวคือบังคับทุกรัฐแม้รัฐนั้นจะไม่ได้ยอมรับจากความตกลงก็ตาม ก็มีความผูกพันเป็นการทั่วไป เนื่องจากเป็นกฎหมายบังคับเด็ดขาดและเป็นกฎเกณฑ์อันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยดังกล่าว ซึ่งต่างจาก jus dispositivum ที่ผูกพันเฉพาะรัฐภาคีที่เข้าร่วมทำความตกลงระหว่างประเทศเท่านั้นไม่มีผลผูกพันเป็นการทั่วไป
ขอบใจจ๊ะ
และถ้าจะดี ก็ต้องหาต่อว่า jus gentium คืออะไร ?
ขอบคุณค่ะที่เข้ามาติดตามอ่าน
ดิฉันก็ชอบศึกษาอะไรแปลกๆ เหมือนกันค่ะ เพื่อไม่ให้ใครเอาเปรียบได้
อีกประการหนึ่งการที่เรารู้ศาสตร์ต่างๆ หลายแขนงนั้น เรายังสามารถนำต้นทุนดังกล่าวไปแบ่งปันคนรอบข้างได้อีกด้วยค่ะ
สงสัยต้องใช้คำว่าการหาความรู้เปรียบเสมือนการบริโภคที่ไม่มีวันอิ่มล่ะมั้งคะคุณขจิต
ชอบจัง จริงๆเราเองชอบภาษาละตินมาตั้งแต่ตอนเรียนศัพท์Engกับอ.พินัยแล้ว รู้สึกว่าเป็นอีกหนึ่งภาษาที่น่าสนใจมากและเชื่อมโยงกับภาษาอังกฤษทำให้จำศัพท์ภาษาอังกฤษได้มากขึ้น
มีของมาฝากนะจ๊ะ
ไม่มีใครได้รับประโยชน์จากการกระทำผิดของตน
ความผาสุกของประชาชนเป็นกฎหมายสูงสุด
ขอบคุณมากจ้ะ วันนี้เห็นออนเอ็มเป็นภาษาละติน เชียว...ดีดีมาช่วยกันเผยแพร่ละตินเกี่ยวกฎหมายกันห้องเรียนจะได้น่าเรียน
อาจารย์ ดวงเด่น จิงๆด้วย ^^