วันจันทร์ ที่ 17 กรกฎาคม 2549 วันนี้มีนัดกับคุณอำนวยตำบลปากพูน ให้ไปช่วยนำกระบวนการแต่ช่วงเช้าวันนี้ยุ่งมากเลยขอตามไปทีหลังด้วยมอเตอร์ไซด์พร้อมกับ ครูแต้ว ไปถึงที่ทำเวที (วัดท่าม่วง) เวลา 10.00 น. พอดี มีคุณอำนวยตำบลทำหน้าที่ทำกระบวนการในช่วงแรกไปแล้ว พอไปถึง ดูบรรยากาศแล้วการทำงานกลุ่มของคุณกิจสนุกสนาน มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ คณะคุณอำนวยที่เป็นพี่เลี้ยงก็ทำหน้าที่คอยตั้งคำถามกระตุ้นให้กลุ่มสามารถกำหนดเป้าหมายออกมาให้ได้ ซึ่งผลก็ปรากฏออกมาเป็นที่น่าพอใจ กลุ่มสามารถกำหนดเป้าหมายในการแก้จนได้
มีอยู่กลุ่มหนึ่งที่น่าทึ่งมากคือสมาชิกในกลุ่มมีปัญหาในเรื่องที่ทำกิน แม้แต่ที่ปลูกผักสวนครัวก็ไม่มี กลุ่มยังสามารถคิดหาวิธีการในการปลูกผักสวนครัวให้กับสมาชิกได้ และความคิดนี้ถูกปิ๊งในกลุ่มให้ออกมานำเสนอที่น่าเวที ที่บอกว่ามันเป็นความคิดที่แน่มากคือ
พี่เค้าบอกว่า…. แม้ไม่มีที่ทำกินก็สามารถปลูกผักได้ โดยการรื้อต้นดอกไม้ที่ในกระถางหน้าบ้านออกให้หมดแล้ว แล้วปลูกผักสวนครัวแทน เช่น ขมิ้น พริก ข่า ตะไคร้ คะน้า โหระพา กะเพรา ปลูกมันในกระถาง ถ้าทำให้ดี มันก็ดูสวยงามไม่แพ้ไม้ดอก แถมยังกินได้อีก และที่สำคัญยังปลอดภัยจากสารเคมีอีก ด้วยนะจะบอกให้….
อีกอย่างที่นำมาเล่ากันในเวทีวันนั้นคือเรื่องรายรับไม่คุ้มกับรายจ่าย มีการยกตัวอย่างกันมากมายความคิดมาสะดุดอยู่ที่กลุ่มหนึ่งในเรื่อง ของการซื้อหวย มีการพูดคุยกันโดย คุณป้า….(จำชื่อไม่ได้ครับ) บอกว่าการซื้อหวยเป็นเรื่องที่รายรับไม่คุ้มกับรายจ่าย แกบอกว่าในหนึ่งเดือน ซื้อหวย 3 งวด เป็นเงินหลายบาท (งวดละ 2,000 กว่าบาท) และในสองพันกว่าบาทนั้นซื้อเลขหลายชุด เมื่อนำมาคิดรวมกัน 1 ปี เป็นเงิน หลายหมื่น บาท แกบอกว่า ในปีที่ผ่านมาไม่เคยถูกเลย แสดงว่าเสียเงินเปล่า ๆ ไม่มีรายได้เกิดขึ้น นี่คือรายรับไม่คุ้มกับรายจ่าย คุณป้า….บอก และมีสมาชิกอีกกลุ่มหนึ่ง (มีอาชีพขายหวย) ถามว่า หากมันเกิดถูกขึ้นมาจะคุ้มหรือเปล่า คุณป้า…. ก็สวนออกมาทันทีว่า…. ซื้องวดละสองพันกว่าบาท และเป็นการซื้อเลขหลายชุด 1 เดือน มี 3 งวด หนึ่งปี คิดดู ว่ากี่งวด ถูกหวย 1 งวด ในหนึ่งปี มันคุมกันหรือเปล่า ในเมื่อจ่ายงวดละ สองพันกว่าบาท และเลขชุดที่มันถูกอาจจะซื้อแค่ ยี่สิบบาท คิดเอาเองว่ามันจะคุ้มหรือไม่คุม เล่นเอาบรรดาคอหวยถึงบางอ้อกันทั้งศาลาโรงธรรมเลยครับ…..