บันทึกของฉัน "สอนน้องให้ฟัง"


ฟังคนอื่นเขาพูด...เราจะเห็นและรู้อะไรอีกเยอะ...ฟังคนอื่นเขาพูดจนจบ...เราจะมีสติ...ทันตาเห็น
    

        ในเดือนพฤษภาคม เดือนมิถุนายน 2549  ดิฉันมักจะพูดกึ่งบ่นกับน้อง ๆ     รุ่นหลังที่อายุน้อยกว่าเสมอว่า ให้ฟังบ้างว่าเขาพูดอะไร...อย่าเพิ่งเถียงหรือ        โต้ตอบ  หรือ  ลองฟังเขาพูดให้จบก่อน...อย่าเพิ่งแทรก  หรือ ทนฟังคนอื่น พูดให้จบได้มั้ย?  หรือ "ถ้าทุกคนพูดกันทุกคน... แล้วใครจะเป็นคนฟังละ" หรือ เมื่อฟังคนอื่นพูดได้จบแล้ว...สรุปได้มั้ยว่า....เขาพูดอะไรบ้าง?  ซึ่งจะทำเช่นนี้กลับไปกลับมาบ่อยครั้งมาก  เพื่อเตือนสติให้รู้จักฟังคนอื่นเขาพูดบ้าง                       

        บางครั้งก็ลำบากใจเหมือนกันที่ต้องทนฟังคนอื่นพูด ๆ ๆ ๆ ในเรื่องราวที่ขาดประสบการณ์และไม่เปิดหูเปิดตาฟังคนอื่นบ้าง จึงเป็นห่วงคนรุ่นหลัง (ข้าราชการรุ่นใหม่) ก็จะถูกความคิดเก่า ๆ และการทำงานแบบเดิม ๆ เข้ามาครอบงำ โดยสิ่งเหล่านี้จะถูกซึมซับและแทรกแซงเข้าไปในความรู้สึกนึกคิดที่ถ่ายทอดให้คนรุ่นใหม่แบบค่อย ๆ เป็น ค่อยๆไป จนกลืนไปทั่วร่างกาย  ซึ่งเมื่อนั้นคงจะยากที่จะปรับเปลี่ยนได้  

       ถ้าเริ่มแรกเรารู้จักฟังคนอื่นพูดให้จบ ก็แสดงว่า เรานิ่งพอใช้ได้  แต่สำหรับดิฉันเพิ่งมาฝึกการฟังเมื่อประมาณ 3 ปี ที่ผ่านมาโดยมีเป้าหมายเพื่อนำมาแก้ไข   จุดอ่อนที่เป็นคนใจร้อน และมีความนิ่งไม่พอ จึงทำให้ทำงานบางอย่างไม่บรรลุผล จึงหันกลับมาทบทวนตนเอง แล้วจึงฝึกสมาธิ  ฝึกฟังคนอื่นพูดแล้วสรุปให้ได้ว่า ตกลงแล้ว...เขาพูดอะไรบ้าง?...ตกลงแล้วเขาต้องการอะไร?....  ซึ่งถ้าเราทนฟังไม่ได้ก็ให้จดหรือเขียนไปด้วย เพราะเป็นทางออกที่ดีมาก  และถ้าทนฟังไม่ได้   สุด ๆ ก็ให้ลุกออกจากห้องไปห้องน้ำ หรือไปดื่มน้ำ หรือไปชมวิว ซัก 5 10 นาที เพื่อไปสงบจิตสงบใจ แล้วค่อยเข้ามาฟังคนอื่นเขาพูดต่อ                                 

          ฟังคนอื่นเขาพูด...เราจะเห็นและรู้อะไรอีกเยอะ                               

          ฟังคนอื่นเขาพูด...เราจะได้อะไรอีกเยอะ                               

          ฟังคนอื่นเขาพูด...เราจะได้พันธมิตรอีกเยอะ

          ฟังคนอื่นเขาพูดจนจบ...เราจะมีสติ...ทันตาเห็น  

       ฉะนั้น ช่วงแรก ๆ เราก็ฝึกฟังอย่างเดียวก่อน (แต่มิใช่ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา)    จับใจความได้บ้างไม่ได้บ้างก็ไม่เป็นไร หลังจากนั้นก็จะค่อย ๆ เป็น และค่อย ๆ  ฟังรู้เรื่องขึ้นว่า  คนนั้นคนนี้พูดอะไรบ้าง  แต่ถ้าตบะแตก ก็ให้เริ่มต้นใหม่ แสดงว่าเราสอบตก  เพราะ การฟัง  เป็นทักษะเบื้องต้นของงานส่งเสริมการเกษตรที่เราต้องฟังเกษตรกรเขาพูดนั่นเองค่ะ.

หมายเลขบันทึก: 39453เขียนเมื่อ 18 กรกฎาคม 2006 13:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท