การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนตามแนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 นั้น จะยึดตามตัวชี้วัด จะประเมินโดยใช้วิธีการ 4 รูปแบบ (โดยสถานศึกษา / ครูผู้สอนเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง) ดังนี้
รูปแบบที่ 1 การบูรณาการตัวชี้วัดการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ร่วมกับการประเมิน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้
รูปแบบที่ 2 การใช้เครื่องมือหรือแบบประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน
รูปแบบที่ 3 การกำหนดโครงการ/กิจกรรมส่งเสริมความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนให้ผู้เรียนปฏิบัติโดยเฉพาะ
รูปแบบที่ 4 การบูรณาการตัวชี้วัดการประเมินความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนร่วมกับการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ข้อเสนอแนะ
• สถานศึกษาส่วนใหญ่จะใช้รูปแบบที่ 1 คือ บูรณาการร่วมกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้
• การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ควรประเมินในห้องเรียนตามปกติเป็นดีที่สุด
• หากประเมินโดยใช้เวลานอกห้องเรียน ควรมอบหมายให้ผู้เรียนทำงานกลุ่มที่สะท้อนความสามารถการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนเป็นพิเศษ
• จัดกิจกรรมการเรียนการสอนและการประเมินเป็นครั้งๆ แล้วนำผลมาสรุปรวมโดยควรแบ่งระยะเวลาสรุปเป็นช่วงๆ
สำหรับตัวชี้วัดความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนในระดับประถมศึกษามีดังนี้
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3
1. สามารถอ่านหาประสบการณ์จากสื่อที่หลากหลาย
2. สามารถอ่านจับประเด็นสำคัญ ข้อเท็จจริง ความคิดเห็นเรื่องที่อ่าน
3. สามารถเปรียบเทียบแง่มุมต่างๆ เช่น ข้อดี ข้อเสีย ประโยชน์ โทษ ความเหมาะสม ไม่เหมาะสม
4. สามารถแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องที่อ่าน โดยมีเหตุผลประกอบ
5. สามารถถ่ายทอดความคิดเห็นความรู้สึกจากเรื่องที่อ่านโดยการเขียน
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6
1. สามารถอ่านเพื่อหาข้อมูลสารสนเทศเสริมประสบการณ์จากสื่อประเภทต่างๆ
2. สามารถจับประเด็นสำคัญ เปรียบเทียบ เชื่อมโยงความเป็นเหตุเป็นผลจากเรื่องที่อ่าน
3. สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของเรื่องราว เหตุการณ์ของเรื่องที่อ่าน
4.สามารถแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องที่อ่านโดยมีเหตุผลสนับสนุน
5. สามารถถ่ายทอดความเข้าใจ ความคิดเห็น คุณค่าจากเรื่องที่อ่านโดยการเขียน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน
การตัดสินผลการประเมินเพื่อเลื่อนชั้น → ใช้ผลการประเมินปลายปี
การตัดสินผลการประเมินเพื่อจบระดับการศึกษา→ ใช้ผลการประเมินปลายปี
สุดท้ายของระดับการศึกษา
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน มี ๔ ระดับ ดังนี้
ดีเยี่ยม หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และ
เขียนที่มีคุณภาพดีเลิศอยู่เสมอ
ดี หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และ
เขียนที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ
ผ่าน หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และ
เขียนที่มีข้อบกพร่องบางประการ
ไม่ผ่าน หมายถึง ไม่มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์
และเขียน หรือถ้ามีผลงาน ผลงานนั้นยังมีข้อบกพร่องที่ต้อง
ได้รับการปรับปรุงแก้ไขหลายประการ
อยากได้แบบบันทึกการการอ่าน คิดวิเคราะห์ และ เขียนพอจะมีบ้างไหมค่ะ คิดคะแนน เท่าไรดี
ใครมีแบบประเมินการอ่าานคิดวืิเคราะห์ ตามลส.51 บ้าง ช่วยโพสต์ขึ้น web หน่อยนะ จะขอบคุณมาก หรือส่งมาทาง mail ก็ได้ค่ะ
ชั้นไหนดี ตามนี้ก่อน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3
ขอบเขตการประเมิน |
การอ่านจากสื่อสิ่งพิมพ์ และหรือสื่อประเภทต่าง ๆ ที่ให้ความเพลิดเพลิน ความรู้ ประสบการณ์และมีประเด็นให้คิดและเขียนบรรยายถ่ายทอดประเด็นที่คิดด้วยภาษาที่ถูกต้องเหมาะสม เช่น อ่านนิยาย เรื่องสั้น นิทาน นิยายปรัมปรา |
|
ตัวชี้วัดความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน |
1. สามารถอ่านและหาประสบการณ์จากสื่อที่หลากหลาย |
2. สามารถจับประเด็นสำคัญ ข้อเท็จจริง ความคิดเห็นเรื่องที่อ่าน |
3. สามารถเปรียบเทียบแง่มุมต่าง ๆ เช่น ข้อดี ข้อเสีย ประโยชน์ โทษ ความเหมาะสม |
4. สามารถแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องที่อ่าน โดยมีเหตุผลประกอบ |
5. สามารถถ่ายทอดความคิดเห็นความรู้สึกจากเรื่องที่อ่านโดยการเขียน |
สวัสดีค่ะ'Krupuk'
การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานครูผู้สอนสามารถใช้การประเมินทั้ง 4 รูปแบบ ให้มีความสอดคล้องและสัมพันธ์กันโดย
ในรูปแบบที่ 1 การบูรณาการตัวชี้วัดการประเมินความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนฯร่วมกับการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้
1.การเขียนแผนการสอนทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยมีการประเมินความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนฯในเนื้อหาบทเรียนนั้นๆสามารถวัดได้ในเชิงประจักษ์(การสังเกต/การร่วมกิจกรรมในลักษณะต่างๆตามเนื้อหาบทเรียน)ตามมาตรฐานการเรียนรู้ในแต่ละกลุ่มสาระฯ
2.แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ มีการประเมินความสามารถการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนฯ อาจวัดเป็นระยะๆหลังจบบทเรียน หรือ ทำ 2 ครั้ง คือสอบปลายภาคและ สอบปลายปีตามมาตรฐานระดับชั้นเรียน
*** ทั้ง 2 วิธี แต่ละกลุ่มสาระจะต้องกำหนดตัวชี้วัดตามมาตรฐานชั้นเรียนและมาตรฐานช่วงชั้น จากการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ก่อนปิดภาคเรียนทุกปีการศึกษา
ในรูปแบบที่ 2 การใช้เครื่องมือหรือแบบประเมินความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนฯ จะใช้เพื่อวัดเพื่อการประเมินผลความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนฯในการจบตามมาตรฐานช่วงชั้น,มาตรฐานการศึกษาภาคบังคับ(6ปี)และมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน(12ปี)
***ตัวเครื่องมือหรือแบบประเมินความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนฯต้องครอบคลุมทั้ง8กลุ่มสาระการเรียนรู้
ในรูปแบบที่ 3 การกำหนดโครงการ/กิจกรรมส่งเสริมความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนฯ ให้ผู้เรียนปฏิบัติโดยเฉพาะ ต้องมีโครงการในแผนปฏิบัติงานประจำปีของโรงเรียนเพื่อรองรับงบประมาณประจำปีและมีความสอดคล้องกับแผนการศึกษาแห่งชาติและนโยบายของต้นสังกัด โครงการรักการอ่านของห้องสมุดจึงจะเป็นร่มใหญ่ของนโยบายส่วนสายชั้นต่างๆก็จะมีโครงการย่อยที่ส่งเสริมการรักการอ่านให้เกิดให้มีขึ้นในตัวผู้เรียน โดยผ่านกิจกรรมของสายชั้นต่างๆ
***สิ่งสำคัญต้องกำหนดตัวชี้วัดกิจกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมของผู้เรียนด้วยดังนั้นกิจกรรมแต่ละสายชั้นจึงไม่ควรมีมาก
ในรูปแบบที่ 4 การบูรณาการตัวชี้วัดการประเมินความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนฯร่วมกับการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ส่วนมากกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนจะเป็นกิจกรรมลูกเสือยุวกาชาด โฮมรูม และชมรม ซึ่งจะขออธิบายการใช้กิจกรรมชมรมเพื่อประเมินความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนฯ การจัดชมรมสามารถจัดได้ทั้งในเวลาเรียนและนอกเวลาเรียน ชมรมควรอยู่ในขอบข่ายของ 8 กลุ่มสาระฯเป็นกิจกรรมเสริมไม่ใช่การสอนซ่อมเสริม จำนวนครู 1 คน ต่อเด็กไม่เกิน 10-15 คน ก็จะมีชมรม ประมาณ 15 ชมรม เพราะกลุ่มฯการงานอาชีพและเทคโนโลยี อาจมีได้หลายชมรมเช่นชมรมคอมพิวเตอร์,ชมรมงานประดิษฐ์และชมรมงานเกษตร,กลุ่มศิลปะ สามารถแยกออกเป็นชมรมศิลปะและชมรมดนตรีไทยดนตรีสากล,กลุ่มภาษาต่างประเทศ อาจแยกออกเป็นชมรมภาษาอังกฤษ,ชมรมภาษาจีน และสาระฯอื่นๆถ้ามีครูหลายคนก็อาจมีหลายกิจกรรมโดยแบ่งเด็กไปตามความสามารถและความแตกต่างของผู้เรียนได้เช่นชมรมภาษาไทย เด็กโตหน่อยก็อาจเป็นกิจกรรมโต้วาที , กิจกรรมร้องเพลงลำตัด,กิจกรรมทำหนังสือนิทานฯลฯ เป็นต้น
ดังนั้นนักเรียน 1 ห้อง เมื่อถึงชั่วโมงชมรมก็จะแยกย้ายกันไปเข้าชมรม โดยแต่ละชมรมกำหนดคุณสมบัติในการรับสมัครเข้าชมรม เช่นคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, ความถนัด, ความชอบ,ความพร้อม ฯลฯ
***มีการลงเวลาการเข้าชมรม เมื่อใกล้เวลาสอบ ชมรมต่างๆควรสรุปผลงานชมรม มีการจัดนิทรรศการ การแสดงผลงานต่างๆ การแสดงความสามารถ ซึ่งอาจทะยอยจัดบนเวทีหน้าเสาธงในช่วงเช้า หรือกลางวัน วันละ 1-2 ชมรม หรืออาจจัดทั้งวันรวดเดียวจบก็แล้วแต่ความเหมาะสมค่ะ
***ถ้ามีเวลาจะเขียนบันทึกในบล๊อกการศึกษาอีกทีค่ะ
ตอนนี้ได้รับผิดชอบการทำเครื่องมือแบบประเมินการอ่าน คิด วิเคราะห์เขียน โดยที่โรงเรียนเลือกที่จะทำแบบที่2 แต่ตีความที่จะทำแบบประเมินตามตัวชี้วัด ข้อที่1 ของระดับมัธยมศึกษาตอนต้น คือ สามารถคัดสรรสื่อ ที่ต้องการอ่าานเพื่อหาข้อมูลสารสนเทศได้ตามวัตถุประสงค์ สามารถสร้างความเข้าใจและประยุกต์ใช้ความรู้จากการอ่าน เราจะสร้างแบบประเมิน แบบไหนที่จะเข้ากับตัวชีัวัดนี้