ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาท่านได้ยินข่าวจากสื่อทางทีวี. เกี่ยวกับสถาบันบำราศทารุณสัตว์ (สุนัข) มั๊ยคะ ?
ความจริงแล้วเป็นเรื่องของความไม่เข้าใจกันระหว่างฝ่ายชมรมคนรักสัตว์และทางสถาบันบำราศนราดูรซึ่งทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้น ดิฉันอยากจะมองว่าเป็นเรื่องของการทดสอบกรรม ณ เวทีที่บำราศนี้ได้เป็นสนามทดลองกรรมเสียแล้ว
ทำไมดิฉันกล้ากล่าวเช่นนี้ เป็นเพราะดิฉันเชื่อในเรื่องสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม คนเราทุกคนมีกรรมเป็นกำเนิด เคยทำกรรมอะไรไว้ ก็ส่งผลมาให้เกิดมาเป็นเช่นนั้นเอง บางคนอาจเคยคิดว่าเอ๊...เราไม่เคยทำไม่ดีเลย ทำไมยังไม่ได้ดีตอบกลับมาบ้างน้อ อย่าลืมค่ะ ชาติก่อนคงทำอะไรไม่ดีไว้แหละ จึงมีผลอย่างที่เห็น เพราะวันนี้ของเราเป็นผลมาจากการทำเหตุไว้จากชาติก่อน พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ว่า "ชีวิตมนุษย์เป็นเหมือนสนามทดลองแรงกรรม"
แต่ดิฉันก็ขอบังอาจชี้แจงข้อเท็จจริงให้กับผู้ที่เข้าใจในสถาบันไม่ถูกต้องนักฟังสักเล็กน้อย หวังใจว่าผู้ที่ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเมื่อได้ทราบรายละเอียดท่านคงจะพิจารณาและตัดสินต่อไปว่า "สนามทดลองแรงกรรมนี้ควรยุติได้หรือยัง"
เรื่องราวของกรรมของสถาบันบำราศฯ คือ สืบเนื่องจากมีสุนัขจรจัดจำนวน 10 กว่าตัวที่อาศัยอยู่ภายในสถาบัน ทั้งโรงอาหารและวิ่งเล่นไปทั่วสถาบัน
วันดีคืนร้ายเจ้าสุนัขจรจัดบางตัวก็ได้กัดผู้ป่วยบ้าง เจ้าหน้าที่บ้าง (รวมทั้งผ.อ.ด้วย) สาวยาคูลท์บ้าง เป็นเหตุให้มีเรื่องร้องเรียนถึงผู้บริหาร ด้วย ปัญหาดังกล่าวตลอดจนนโยบายของสถาบันซึ่งเป็นสถานที่ดูแลผู้ป่วยและป้องกันโรคติดต่อต่าง ๆ ที่สำคัญ คือ สุนัขนั้นอาจเป็นพาหะของโรคพิษสุนัขบ้าได้ ซึ่งเมื่อสุนัขจรจัดที่อาจมีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้ากัดก็จะนำเชื้อเข้าสู่ตัวผู้ป่วย ดังที่ทราบกันดีว่าเมื่อเกิดโรคพิษสุนัขบ้าแล้วอัตราตายจะเท่ากับ 100 เปอร์เซ็นต์ นั่นคือติดเชื้อเมื่อไหร่ก็ตายลูกเดียวค่ะ ผู้บริหารจึงต้องหาทางให้สุนัขจรจัดทั้งหมดเคลื่อนย้ายออกจากโรงพยาบาล
ผู้ป่วยติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า
การเคลื่อนย้ายสุนัขจรจัดนั้นมีทั้งการให้ผู้ที่มีความเมตตารับเอาไปเลี้ยง ซึ่งพยาบาลห้องผ่าตัดคือคุณกมลพร ศิริเดชะกุล ซึ่งมีความรักสัตว์เป็นทุนเดิมได้รับไปเลี้ยงจำนวนทั้งสิ้น 8 ตัว โดยที่ทางสถาบันได้ให้ค่าตอบแทนกับคุณกมลพรในการเลี้ยงดูเป็นเงินตัวละ 1000 บาท / ปี คุณกมลพรหรือน้องปุ๊ได้ให้ข้อมูลกับดิฉันว่า
"...ปุ๊เอาไปเลี้ยงทั้งหมด 8 ตัว ได้เงินตอบแทนมาทั้งหมดก็ 8,000 บาทก็จริง แต่ปุ๊ก็เอาไปลงทุนสร้างโรงที่พักให้หมดไปแล้ว 40,000 บาท ที่จริงไม่คุ้มหรอกพี่เล็กแต่ปุ๊สงสารเลยรับไปเลี้ยงถึง 8 ตัว..แต่ก่อนเอาไปเลี้ยงทางสถาบันก็ได้ทำหมันให้กับสุนัขทั้งหมดแล้วโดยติดต่อกับสัตวแพทย์เอื้ออาทรเป็นผู้ทำให้"
ทุกวันนี้ปุ๊จะกลับบ้านที่ปทุมธานีเพื่อซื้ออาหารสด และอาหารสำเร็จรูปสำหรับสุนัข พาสุนัขไปฉีดวัคซีนตลอดเวลา
สำหรับสุนัขจรจัดตัวที่ยังหลงเหลืออีก 3 ตัว ผู้บริหารได้กำหนดแนวทางให้มีการนำออกจากสถาบันอย่างปลอดภัยเช่นกัน โดยการติดต่อสัตวแพทย์มานำสุนัขเพศเมียไปทำหมันและทางชมรมคนรักสัตว์จะเป็นผู้ติดต่อหาบ้านใหม่ให้ ทราบมาว่าจะเป็นวัดบัวขวัญ
สุนัขเพศผู้อีกตัวหนึ่ง ได้ติดต่อเจ้าของที่มีบ้าพักอยู่ที่ร.พ.ศรีธัญญาให้มารับตัวไปแล้ว
สำหรับ1 ใน 3 ตัวสุดท้ายซึ่งขณะนี้ใคร ๆ ก็รู้จักชื่อ "โค้ก" จะได้รับการดูแลจากสถาบันฯ จนกว่าจะสิ้นอายุขัย เนื่องจากพิการไม่มีแรงที่จะไปไหนได้
เรื่องราวหัวข้อที่เป็นทอร์คออฟเดอะทาวน์ "หมากับหมอ..และความขัดแย้ง" หากเรามองและเข้าใจว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นเรื่องของแรงกรรมที่กระทำกันมาแต่ชาติปางก่อน รวมทั้งการทำความเข้าใจให้กับทุก ๆ ฝ่ายทราบ การให้อภัย การถอยคนละก้าว เพื่อลดความขัดแย้งและมีความสมานฉันท์ต่อกันก็จะทำให้สังคมสงบสุขนะคะ
เอ๊.!!!..ดิฉันว่าตอนจบคล้าย ๆ กับชีวิตจริงและการเมืองปัจจุบันยังไงก็ไม่รู้ ขอจบดีกว่า ตัวใครตัวมันนะค้า....
เห็นใจผู้ถูกกล่าวหาเช่นกันรู้สึกว่าผู้รักสัตว์มาก ๆๆๆจะถูกเขาขัดใจเลยหาเรื่องให้สถาบันบำราศเดือดร้อนเสียบ้างโดยลืมไปว่าสถาบันนี้เป็นที่ให้ชีวิตคนที่ถูกขัดใจ(โปรดทบทวนความสำนึกบ้างนะ) เลยไปหาแนวร่วมนอกสถาบันฯมาเป็นเครื่องมือจัดการแทนตัวเองถ้าทำเองก็กลัวตัวเองเดือดร้อนผู้ที่รักสัตว์ทั้งหลายขอได้โปรดมีเหตุผลไตร่ตรองคนที่เกี่ยวข้องกับสถานพยาลส่วนใหญ่ไม่มีใครใจร้ายอย่างที่พวกคุณเข้าใจ ถ้าเขาไม่ถูกสุนัขเร่ร่อนพวกนี้สร้างความเดือดร้อนให้เข้า พวกท่านอาจไม่ทราบว่าผู้รักสัตว์ท่นำอาหารมาแจกสุนัขเขามิได้มาให้อาหารอย่างมีระเบียบเรียบร้อยเธอนำมาให้วันละ 3 เวลาและที่ว่างอาหารเธอก็ว่างไปทั่วทุกมุมของสถาบันบำราศ
ป้าบวมเข้าใจสร้างอารมณ์ขันดีนะน่ารักจังที่เห็น"เจ้าโคก"ได้เป็น(หมา)Super Star เราก็อยากขอลายเซ็นมันเหมือนกันแต่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับมันเพิ่งรู้จักมันเมื่อไม่กี่วันนี่เอง เท่าที่ติดตามข่าวน่าจะจบด้วยดี ก็ขอให้สถาบันบำราศหมดเรื่องร้าย ๆเกี่ยวกับสุนัขเร่ร่อนโดยเร็วหวังว่า"เจ้าโคก" จะเป็นสุนับตัวสุดท้ายท่สถาบันจะรับอุปการะจนมันสิ้นอายุขัย สัตว์ทุกตัวมันมีอายุขัยเช่นเดียวกับคน อย่าไปยึดติดกับมันนักเลยหันมาดูแลตัวเองให้อยู่ในศีลธรรมให้ครบถ้วนไม่ดีกว่าหรือบางคนทำเป็นรักสัตวสุดหัวใจแต่ทบทวนดูตัวเองบ้างหรือเปล่าว่าที่ผ่านมาตัวเองทำบาปแบบมหันต์แล้วจะมาทำเป็นใจบุญรักสัตว์มันชดเชยกันไม่ได้หรอกนะท่านก่อนจะทำอะไรท่ว่าเพียงสะใจขอให้คิดหน้าคิดหลังให้ดี ๆระวังความเดือดร้อนมันจะย้อนมาเผาตัวท่านเองนะคนที่รักสัตว์สุดหัวใจ
เรียนคุณป้าบวมที่รัก เราทราบข่าวมาว่าคุณพยาบาลที่อาศัยหอพักพยาบาลอยู่แล้วรักหมามาก ๆและเป็นผู้รับสุนัขไป 8 ตัวพร้อมรับเงินจากโรงพยาบาลไปด้วยนั้น ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นไม่รู้คิดจะเอาเงินมาคืนพร้อมสุนัขแต่สถาบันต้องไปรับสุนัขไปปล่อยที่วัดให้ด้วย คิดดูว่าสถาบันต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อขึ้นอีกมากไม่จบสิ้นเสียที คุณพยาบาลคนนั้นเขาเป็นอะไรของเขานะไม่ยอมจบเรื่องหมา ๆเสียที่ ทั้ง ๆที่สถาบันก็พยายามหาทางออกให้อย่างนุ่มนวลที่สุดแล้ว ทำไมเธอยังไม่เลิกหรือหยุดก่อความวุ่นวายเสียที่ กลุ่มงานบุคคลช่วยสำเนาระเบียบวินัยข้าราชการพลเรือนให้เธออ่านบ้างว่าที่ผ่านมานั้นเธอมีพฤติกรรมผิดวินัยฯมาตราที่เท่าไร แต่ถ้าจะเมตตากันคุณพยาบาลคนนี้น่าจะได้รับการตักเตือนจากผู้ใหญ่บ้างให้อยู่อย่างสงบเสียที่ หันมาตั้งหน้าตั้งอกตั้งใจทำงานในหน้าที่อย่างให้ผิดจรรยาของพยาบาลจะดีกว่านะ
ดิฉันขอฝากข้อคิดให้กับทุกคนค่ะ จงเชื่อกรรม ผลแห่งกรรม ทำกรรมอะไรย่อมได้กรรมและสิ่งนั้นตอบแทน
อยากขอเบอร์ติดต่อ สัตวแพทย์เอื้ออาทร จังค่ะจะพาสุนัขจรจัดแถวบ้านไปคุมกำเนิด ช่วยบอกด้วยนะค่ะ