โรคผึ้งจากงานวิจัยของอ.ที่มอ.ชอ.ค่ะ(กลอย)


อ่านหน่อยนะคะ
“สมุนไพร” บำบัดโรคผึ้ง งานวิจัยยกเกรดน้ำผึ้งเลี้ยง
รายละเอียด  
ผลิตภัณฑ์จากผึ้งสร้างรายได้เข้าประเทศในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท
 
       สกว. - วิจัยใช้สมุนไพรบำบัดโรคผึ้ง ชี้ชะเอมและอบเชยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและราก่อโรคได้ ไร้สารพิษตกค้าง ส่งผลดีต่อผู้บริโภค หวังทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะ สร้างมาตรฐานอุตสาหกรรมเลี้ยงผึ้งไทยแข่งตลาดโลก
       
       ปัจจุบันอุตสาหกรรมการเลี้ยงผึ้งนับเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ควรได้รับการส่งเสริมเพราะนอกจากไม่ต้องยึดครองพื้นที่ในการทำกินแล้วยังให้ผลผลิตที่ให้ประโยชน์มากมายมหาศาล สามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงไปสู่อุตสาหกรรมได้หลากหลาย อาทิ น้ำผึ้ง เกสร นมผึ้ง หรือ ไขผึ้งที่นำมาใช้ในอุตสาหกรรมยา เครื่องสำอาง และเทียนไข ซึ่งสร้างรายได้เข้าประเทศในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาทโดยมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ
       
       หากแต่ทุกวันนี้อุตสาหกรรมแมลงเศรษฐกิจชนิดนี้ ยังคงประสบกับปัญหา โรคผึ้ง ศัตรูตัวฉกาจ ยิ่งเฉพาะโรคที่เกิดจากแบคทีเรียรุนแรงแล้วนั้น ส่งผลกระทบให้ผลผลิตในแต่ละปีลดลงสร้างความเสียหายต่อเกษตรอย่างมาก โครงการ : การศึกษาโรคที่เกิดจากแบคทีเรียและเชื้อราในผึ้งพันธุ์และผึ้งโพรงและการใช้สารสกัดจากธรรมชาติในการบำบัด โดย ดร.ภาณุวรรณ จันทวรรณกูร ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) จึงเกิดขึ้น
       

ดร.ภาณุวรรณ จันทวรรณกูร ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นักวิจัย
 
       ดร.ภาณุวรรณ กล่าวว่า ปัญหาสำคัญและต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนขณะนี้สำหรับอุตสาหกรรมการเลี้ยงผึ้งคือ การแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคที่เกิดจากจุลินทรีย์ในตัวอ่อนผึ้ง เช่น โรคจากเชื้อราชอล์คบรูด (Chalkbrood) โรคที่เกิดจากแบคทีเรีย เช่น โรคตัวอ่อนเน่า (American foulbrood) และโรคตัวอ่อนเน่ายูโรเปียน (European foulbrood) เนื่องจากโรคเหล่านี้ก่อให้เกิดความเสียหายทำให้ตัวอ่อนผึ้งตาย อีกทั้งยังมีการแพร่ระบาดง่ายและรวดเร็วหากไม่มีการป้องกัน
       
       แนวทางการแก้ปัญหาที่ผ่านมาของเกษตรทั่วโลกจะใช้วิธีบำบัดและควบคุมโรคในผึ้งที่เกิดจากจุลินทรีย์โดยใช้สารปฏิชีวนะ เช่น เตตราไซคลีน (tetracycline) ทำให้มีสารตกค้างอยู่ในน้ำผึ้ง อันเป็นชนวนก่อให้เกิดปัญหาการกีดกันทางการค้าตามมา ในปี 2545 น้ำผึ้งจากประเทศจีนถูกห้ามการส่งออก โดยทาง Food Standard Agency มีการตรวจพบสารปฏิชีวนะ Streptomycin และ chloramphenical ในน้ำผึ้งที่นำเข้าจากจีน กระแสการต่อต้านการใช้สารปฏิชีวนะในการบำบัดและป้องกันโรคที่เกิดจากแบคทีเรียจึงเกิดขึ้น อีกทั้งในประเทศกลุ่มยุโรปยังได้ออกกฎหมายห้ามใช้สารดังกล่าวกับสัตว์ทุกประเภทตั้งแต่ปี 2537 (Food standard agency, 2002) โดยขณะนี้ในประเทศผู้ซื้อผลิตภัณฑ์จากผึ้งยังได้ตื่นตัวตรวจสอบสารดังกล่าวในน้ำผึ้งทั้งหมดที่นำเข้าจากประเทศต่างๆรวมทั้งประเทศไทย
       

       การเลิกใช้สารปฏิชีวนะในการรักษาโรคผึ้งไม่เพียงมาจากปัญหาการตกค้างในน้ำผึ้งเท่านั้น แต่ขณะนี้ยังพบว่าจุลินทรีย์บางชนิดสามารถต้านทานต่อยาปฏิชีวนะได้ จึงทำให้ยังไม่มีหนทางการรักษาใดที่ให้ประสิทธิผลนัก บางประเทศในแถบยุโรปถึงกับแก้ปัญหาด้วยมาตรการให้เผารังผึ้งทิ้งภายใน 24 ชั่วโมงหากตรวจพบว่าเกิดโรคตัวอ่อนเน่า (American foulbrood)ยังสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งทั่วโลก
       

โรคตัวอ่อนเน่ายูโรเปียน (European foulbrood)
 
       การนำสารสกัดจากธรรมชาติมาใช้จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่จะสามารถนำมาใช้ในการรักษาควบคุมโรคในผึ้งได้และไม่มีสารตกค้างมาสู่ผู้บริโภคด้วย อีกทั้งจากการศึกษาพบว่าสารสกัดธรรมชาติจากพืชบางชนิดนั้นมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อจุลินทรีย์บางอย่างได้ รวมถึงนมผึ้งหรือรอยัลเจลลี่(royal jelly)ที่เป็นแหล่งอาหารของตัวอ่อนผึ้งและพรอพอลิส(propolis) ซึ่งเป็นสารป้องกันเชื้อโรคในรังผึ้ง ดังนั้นในงานวิจัยนี้จึงได้ค้นหาสารประกอบธรรมชาติตัวใหม่ที่สามารถต้านทานจุลินทรีย์ทำให้เกิดโรคในผึ้งและทำการทดลองใช้สารสกัดดังกล่าวทั้งในห้องปฏิบัติการและเพื่อการประยุกต์ในอุตสาหกรรมการเลี้ยงผึ้ง
       
       ดร.ภาณุวรรณ กล่าวต่อว่า งานวิจัยนี้ได้เร่งสำรวจโรคในตัวอ่อนผึ้งแถบภาคเหนือตอนบนและนำมาแยกเชื้อในห้องปฏิบัติการ เพื่อหาสาเหตุและบ่งชนิดเชื้อต้นตอของโรคที่ถูกต้อง จากนั้นนำตัวอย่างเชื้อก่อโรคที่แยกได้มาทำการทดสอบกับสารสกัดสมุนไพรเพื่อหาสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพต้านเชื้อรังผึ้ง โดยขณะนี้พบว่า สารสกัดชะเอมและกานพลูสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย(Melisscoccus plutonius)สารสกัดอบเชยและพลูออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อรา(Ascoshaera apis)ได้ดีที่สุด สารสกัดจากสมุนไพรประเภทผสมจึงเป็นวิธีหนึ่งในการควบคุมโรคผึ้ง
       

       จากการศึกษาไม่เพียงทำให้เราพบสารสกัดสมุนไพรที่ออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อก่อโรคในไทยแล้ว ยังได้มีโอกาสทดสอบกับเชื้อก่อโรคที่แยกได้จากในรังผึ้งของประเทศออสเตรเลีย เยอรมัน และญี่ปุ่นพบว่าสารสกัดจากสมุนไพรที่ค้นพบสามารถยับยั้งเชื้อก่อโรคเหล่านี้ได้เช่นกัน
       

ภาวะมัมมี่ จากโรคราชอลค์บรูด
 
       อย่างไรก็ตามในส่วนของการนำไปใช้จริงในระดับอุตสาหกรรมการเลี้ยงผึ้งนั้น ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการเพื่อทดสอบว่าสารสกัดจากธรรมชาติยังสามารถออกฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อราและจุลินทรีย์ได้ประสิทธิภาพที่ดีเท่าเดิมหรือไม่ หากพบว่าได้ผลสำเร็จเชื่อว่าไม่เพียงสามารถช่วยเกษตรกรเพิ่มผลผลิตและรายได้อย่างมหาศาลแล้ว ยังส่งผลให้การสร้างสินค้าจากผลิตภัณฑ์ผึ้งไทยมีมาตรฐานทัดเทียมได้กับนานาประเทศด้วย
       
       นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการเลี้ยงผึ้งสองสายพันธุ์ได้แก่ ผึ้งโพรงและผึ้งพันธุ์ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงเพิ่มขึ้นลดการบุกทำลายรังผึ้งป่าอย่างผึ้งหลวงไปได้ จึงถือเป็นวิธีการหนึ่งที่จะสามารถอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพของสายพันธุ์ผึ้งในประเทศไทยได้ต่อไป



 แหล่งที่มา :  www.manager.co.th
คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 3922เขียนเมื่อ 14 กันยายน 2005 22:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 พฤษภาคม 2012 12:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

บริษัทพรหมภัสสร อินเตอร์พลัส จำกัด

70/44 ม. 11 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20230

โทร 0863287944 , 0805713666

www.konsangfun.tht/?id=kd002

เรียน ท่านผู้ประกอบการร้านค้าหรือ นักธุรกิจอิสระและเจ้าของสถานีวิทยุชุมชนที่เคารพ

เรื่อง รับสมัครผู้ดูแลเขตอำเภอ สิทธิ์ผูกขาดทั้งอำเภอแต่เพียงผู้เดียว

ขณะนี้ทางบริษัทฯ ได้ทำการตลาด น้ำสมุนไพรสมายบาล้านซ์ ซึ่งมีเขาทรายแกแล็ตซี่ แชมป์มวยโลก

เป็นพรีเซนต์เตอร์

1. ผู้ดูแลเขตอำเภอ รับสิทธิ์พิเศษดังนี้

1.1 ค่าดูแลเขตอำเภอ

ลำดับ รายการ ค่าแนะนำตรง ค่าดูแลเขตอำเภอ หมายเหตุ

1 Smile balance ญ 50 25 สินค้าไม่ได้ขายเองก็ตาม แต่ถ้ามีการซื้อขายกัน

2 Smile balance ล 20 10 ภายในอำเภอที่ท่านรับผิดชอบ

3 Blue balance ญ 50 25 ท่านจะได้รับค่าดูแลเขตทันที

4 Balance PAK ญ 80 40

5 Balance PAK ล 25 12.5

1.2 รับค่าบริหารเครือข่าย(ตามตารางดูจาก www.konsangfun.tht.in/?id=kd002)

1.3 กองทุน Active 25% (จากค่าแนะนำตรงทั้งประเทศ)

2. หน่วยบริการ สินค้า รับสิทธิ์พิเศษดังนี้

2.1 ค่าบริหารหน่วยบริการ 25% จากค่าแนะนำตรงทั้งประเทศ

2.2 รับค่าบริหารเครือข่าย(ตามตารางดูจาก www.konsangfun.tht.in/?id=kd002)

2.3 กองทุน Active 25% (จากค่าแนะนำตรงทั้งประเทศ)

สนใจติดต่อ คุณรัชกร ปรีชาไว ผู้ดูแลภาคตะวันออก โทร 0863287944 & 0805713666

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท