"หัวปลา" คือเป้าหมายของการทำ KM ต้องมีเคล็ดลับในการ "ปรุงหัวปลา" เพื่อให้อร่อย อร่อยในที่นี้คือถูกจริตคนกินหรือคนทำ KM นั่นเอง ซึ่งก็คือต้องเป็น "หัวปลา" ที่ตรงกับชีวิตจริง
ในการทำ KM Workshop ของ โครงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรทางการศึกษาด้วยการจัดการความรู้ ที่หาดใหญ่ เมื่อวันที่ ๑๔ กค. ๔๙ ผมได้เรียนรู้เทคนิควิธีกำหนด "หัวปลา" ของกลุ่มใน workshop
ใน workshop นี้ แบ่งกลุ่มย่อยออกเป็น ๘ กลุ่ม คือ สพท. ๒ กลุ่ม ผู้บริหาร รร. ๒ กลุ่ม และครู ๔ กลุ่ม การแบ่งกลุ่มครูแบ่งตามลักษณะงาน หรือสาขาวิชาที่เรียน/สอน ให้สมาชิกของแต่ละกลุ่มกำหนด "หัวปลา" ของกลุ่มกันเอง ได้ "หัวปลา" ดังนี้
กลุ่มที่ ๑ (สพท. ๑) การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมในการทำงานขององค์กรโดยมุ่งผลสัมฤทธิ์
กลุ่มที่ ๒ (สพท. ๒) การพัฒนาการนิเทศเพื่อการเรียนรู้
กลุ่มที่ ๓ (ผู้บริหารโรงเรียน ๑) การสร้างความเป็นเลิศทางวิชาการโดยใช้ฐานการพัฒนาบุคลากร
กลุ่มที่ ๔ (ผู้บริหารโรงเรียน ๒) การเพิ่มศักยภาพบุคลากรเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน
กลุ่มที่ ๕ (ครู ๑) ปรับการเรียน เปลี่ยนวิธีการสอน เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
กลุ่มที่ ๖ (ครู ๒) การพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน
กลุ่มที่ ๗ (ครู ๓) การใช้นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาคุณธรรมของผู้เรียน
กลุ่มที่ ๘ (ครู ๔) การจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย
เมื่อจบ workshop ก็จะนำผลการประชุมกลุ่ม ไปดำเนินการต่อที่โรงเรียน และ สพท. ได้ทันที โดยที่การดำเนินการของ สพท. ผู้บริหาร รร. และครู จะสอดคล้อง รับลูกซึ่งกันและกัน เพราะได้มาร่วมเวทีคิดด้วยกัน
ผมกลับจากหาดใหญ่ในวันนั้น ด้วยความสุข ที่ได้เรียนรู้เคล็ดลับนี้
วิจารณ์ พานิช
๑๖ กค. ๔๙
หลังจากทำหัวปลาแล้ว เรื่องเล่าก็สนุก ตารางแห่งอิสรภาพ แม่น้ำ และบันได ก็เป็นกิจกรรมที่สนุกกันทั้งผู้อบรมและวิทยากร ถือได้ว่าเป็นการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการที่ดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเสนอแนะของผู้เข้าร่วมประชุมที่มีประสบการณ์และมุมมองอย่างหลากหลาย
คณะนักวิจัยมีความยินดีที่จะได้เห็นองค์กรการศึกษาได้ใช้การจัดการความรู้เข้าช่วยให้บุคลากรในองค์กรทำงานอย่างมีความสุขมากขึ้น