หน้าแทรก 2


เป้ดคับแค กำลังถูกคัดทิ้ง?

บันทึกนกแอ่นกินรัง เล่มนี้ขอมีหน้าแทรกอีกหน ก็อยากเขียนถึง

เป็ดคับแค ในสถานการณ์ล่อแหลม

เรื่องนี้ มีฉากอยู่ที่หลังม.นเรศวร พิษณุโลก ฝั่งตะวันออก มีพื้นที่เขียวที่เหลืออยู่เป็นหย่อมท่ามกลางป่าคอนกรีต ของมหาวิทยาลัยเป็นศูนย์กลาง

ด้านหลังนี้มีบ้านจัดสรร หอพักนิสิต อพาตเมนท์ ร้านค้า ร้านอาหารของเอกชนผุดขึ้นมาเหมือนดอกเห็ดยามหน้าฝน สารพัดmicro-projectที่ทำให้เศรษฐกิจจะเบ่งบานภายในเวลา10 ปีย้อนหลังและไปข้างหน้า

ความเจริญนี้มันมาพร้อมความไม่งดงามของผังเมือง สาธารณูปโภคที่ขัดขาดเป็นระยะ น้ำท่วมขังหลังฝนตกหนักไม่กี่นาทีเพราะไม่มีทางระบายน้ำ ที่สำคัญ พื้นที่และแหล่งบำบัดน้ำเสียไม่มี! การจราจรเกิดจราจล โกลาหนแทบทุกระยะที่นิสิตยังตื่นนอนกันอยู่ ดังนั้นรถยนต์หรือมอ'ไซด์ที่จอดอยู่มีสิทธิ์โดนขีดข่วนตลอดเวลา และมักจอดแบบตามใจฉัน

นิสิตคนหนึ่งเขาสนใจดูนก เขาเช่าบ้านอยู่ด้านหลังมอนี้ ซึ่งพื้นที่ต่อจากบ้านเช่าก็เป็นที่นา บางบริเวณถูกถมดินแล้ว รอเวลาปลูกสร้างหอพัก  (ระหว่างนี้ก็มีฝูงวัวมาขอใช้พื้นที่ไปพรางๆ) และผืนนาหน้าฝนก็กลายเป็นสระน้ำตื้นขนาดย่อม เป็นแหล่งนกน้ำให้ได้อาศัยระยะหนึ่งหลังจากที่พวกมันหนีความวุ่นวายในรั้ว มน.ออกมารอบนอก

สระน้ำตื้นนี้กักน้ำด้วยขอบคันเล็กๆ มีหญ้าขนและวัชพืชอื่นๆขึ้นจับจองในน้ำมีหญ้าเน่า ผักตบชวากอย่อมๆ กระจาย 2-3 จุด และหอยเชอรี่ มองออกไปไกลๆ เป็นป่าอ้อผืนใหญ่ 

ในน้ำใกล้จะเน่านั้นนกอีโก้งได้ปล่อยไข่และลูกอ่อนไว้ 2 ตัว มีนกอีล้ำ 2-3 ตัว นกกวัก อีแจวอย่างละ 2-3 ตัว นกยางไฟและยางควายอย่างละ 1 นกอีเสือหัวดำได้สร้างรังบนไม้พุ่มต้นสูงข้างขอบสระทางป่าอ้อ และกระเต็นอกขาวส่งเสียงร้อง แต่เก็บตัว ผิดกับนกเอี้ยงด่าง เอี้ยงสาริกาที่present ตัวเองอย่างเต็มที่ และปรากฏตัวทุกที่ที่มีงานเลี้ยง(ในร้านอาหารและบ้านคน)

และนกเป็ดตัวขาวอย่างปุยฝ้ายก็มาลงสระน้ำนี้ 1 คู่

ใช่ละ Cotton pygmy- goose เป็ดคับแค ตามหนังสือคุณหมอบุญส่ง(แฮะ แฮะ ขอโทษนะที่เขียนผิดในครั้งแรก)

นิสิตดูความน่ารักของมันอยู่ระยะหนึ่ง ก็ถ่ายรูปมาให้ดูกันในรายวิชาปักษีวิทยา แล้วเขาก็เฝ้าดูมันว่าจะทำรังไหม แบบว่าทำวิจัยย่อยๆ

เมื่อวานเขามาบอกว่านั่งซุ่มสักพัก รอให้เป็ดมาใกล้จุดซุ่มดู เพื่อที่จะได้ถ่ายรูป--ที่ใกล้และชัดเจนกว่าที่เคยถ่ายได้(เป็นความภูมิใจที่ได้ถ่ายน่ะ ทั้งๆ ที่กล้องก็ไม่ได้เริดหรูหรอก) กำลังจะได้โอกาสอยู่ทีเดียว คนหาปลา-นักวางข่ายดักปลามาจากไหนไม่รู้โผล่พรวดมา เป็ดกระเจิง

เราเลยคิดว่า จะร้องขอชาวบ้านเหล่านี้อย่างไรดี ว่าขอให้เป็ดและนกน้ำอื่นๆได้อาศัย แม้ว่าชาวบ้านไม่กินเป็ดหรือนกน้ำอื่นๆ แน่ แต่การทำมาหากินของพวกเขาอาจรบกวนมันจนต้องหนี

คนก็ต้องเอาไว้ นกก็อยากเอาไว้ 

นี่ลูกนกอีโก้งหายตัวไปหลังจากเข้าพรรษาแล้ว ครอบครัวนกอีล้ำกำลังทำรังใหม่ก็อาจจะเป็นคิวต่อไป

ส่วนเป็ดคับแคแน่นอน โดนเลือกคัดทิ้งแน่ ในฐานะผู้อ่อนไหว

เราไม่ใช่คนรักษ์นกจนไม่ห่วงใยชีวิตคนด้วยกัน

แต่การร้องขอกับคนชาวบ้านทั่วไปว่า "ทำมาหากินตามปกติ แต่อนุญาตให้นกได้อยู่ร่วมด้วยได้ไหม?" มันยากจริงๆ  

ครูเล็ก

 

คำสำคัญ (Tags): #นกแอ่นกินรัง
หมายเลขบันทึก: 38942เขียนเมื่อ 15 กรกฎาคม 2006 11:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 09:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขอขอบคุณอาจารย์ศุภลักษณ์...

  • ขออนุโมทนาในกุศลเจตนาที่อาจารย์แสดงความเอื้อเฟื้อ อนุเคราะห์ ปรารถนาดีต่อสัตว์ และสิ่งแวดล้อม
  • อ่านแล้ว... ขอแสดงความดีใจกับ "Green blog" หรือบล็อกที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม...
  • ขอเรียนอาจารย์ว่า ถ้ามีภาพประกอบน่าจะทำให้บันทึกของอาจารย์โดดเด่นมาก

ขอขอบคุณครับ

เรียนท่านอาจารย์หมอ

เป็นเกียรติอย่างสูงที่อาจารย์หมอได้กรุณาเข้ามาเยี่ยมบันทึกนี้  ขอเชิญชวนอ่านบันทึกนกแอ่นกินรังบ้างนะค่ะ

และขอบขอบคุณอาจารย์หมอที่ให้คำแนะนำเรื่องใส่รูปนก แต่ครูเล็กเป็นคน low tech. สุดๆ ใส่รูปลงไปใน blogไม่เป็นน่ะค่ะ แม้ว่าจะได้รับคำแนะนำจากคุณบอยแล้วก็ตาม และ beeman เองก็เคยแนะนำ ขอโทษท่านผู้ชมจริงๆ 

แล้วครูเล็กจะรีบๆ เรียนรู้ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ครูเล็ก

ที่บอกว่าคนหาปลา ไม่ตั้งใจเกี่ยวข้องกับนก อาจไม่จริงซะแล้ว เพราะข่าวล่ารายงานมาว่า ณ. ฉากเดิม นกอีล้ำที่จับคู่กันและกำลังสร้างรังเมื่อหลังเข้าพรรษาที่ผ่านมา การสร้างรังของมันสะดุด ทำไมสะดุด เพราะว่าไข่ของมันเจ็ดใบ (ถูก)"ต้มให้ลูกๆ กินไปเรียบร้อยแล้ว..." เสียงเฉลยมาจากลุงนักหาปลา อึ้งฮ่ะ ก็เพราะพิษเศรษฐกิจยุคน้ำมันสามลิตรร้อย ประกอบกับในสถานที่สาธารณะนั้น ปลาและนกเป็นของสาธารณะ ผู้มีบารมีเหนือ....(ก็เหนือน่านน้ำสาธารณะนั้นแหละน่า...ไม่ใช่อะไรหรอกนะ)ก็ย่อมจะหยิบฉวยได้อย่างเสรี แต่อดสงสัยไม่ได้ว่า หากคนมีอาหารการกินไม่ขาดแคลน คนจะยังพิศมัย "ลาภลอยน้ำ" ใบจิ๋วๆ นั้นหรือไม่ แม้ว่าช่วงการสร้างรังของมันสะดุด แต่ชีวิตคู่ของมันยังไม่ล่มสลาย เพราะนิสิตเห็นว่ามันยังว่ายน้ำคู่กันอยู่ แต่ไม่มีพฤติกรรมกกไข่ ไม่เหมือนนกอีแอ่นเลยนะ คุณนกอีล้ำเนี่ย นกอีแอ่นน่ะ แม้ว่าไข่ของมันจะร่วงหล่น หรือหายไป ก็สามารถไข่(laying)ได้อีก อย่างน้อยก็อีก 2-3 หน ยกเว้นแต่ว่าไม่มีรังให้กกไข่ ก็ต้องตั้งตาสร้างรังใหม่ ต้องติดตามกันต่อไปว่านกอีล้ำจะไข่ใหม่ได้กี่หน หรือว่าไข่ใหม่แล้ว แต่ลงหม้อไปอีกแล้ว... ถ้าอีล้ำไข่เพียงหนเดียว แล้วหมดก๊อก อัตราการสูญพันธุ์ก็เร็วขึ้นเป็นที่แน่แท้

เหมือนรายงานข่าวการเมืองที่เปลี่ยนแปลงรายวันเลยค่ะ

ตอนนี้นิสิตคนเดิมรายงานข่าวสถานการณ์สิ่งแวดล้อมรอบนอกรั้ว มน. บริเวณเดิม

พื้นที่นาที่น้ำท่วม ตอนนี้มันเริ่มแห้ง

คนหาปลาหากินให้ขวักไขว่ เขาได้ปลาวันละมากโขอยู่ ดีใจกับเขาด้วย

คนดักข่าย วางเบ็ดราวก็แฮปปี้ คนดำนาก็แฮปปี้ ดี้ด้าที่จะได้ทำนาครั้งใหม่

ที่ไม่สบายใจก็มีอยู่ 2 คนคือคนเฝ้าระวังเป็ดคับแคและพรรคพวกของมัน(พวกwadering ทั้งหลาย)หนึ่งกับคนที่รอรับฟังข่าวอย่างเราหนึ่ง

เพราะรายงานข่าวล่าบอกว่า

นกทุกชนิดที่ลอยน้ำ หรือเดินหากินบนน้ำบริเวณนี้

 หายไปหมดแล้ว...

ที่บอกว่าสัตว์ป่าและนกหลายชนิดจะสูญพันธุ์กันในรุ่นของเรา สงสัยจะเป็นจริง

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท