ขวัญและกำลังใจในการทำงาน


ขวัญและกำลังใจคืออะไร

 ตามศัพท์ภาษาไทยแล้ว "ขวัญและกำลังใจ" สามารถแยกได้ 2 คำ คือ "ขวัญ" และ    "กำลังใจ" มีความหมายดังนี้ 
          " ขวัญ" หมายถึง สิ่งที่ไม่มีตัวตน      นิยมกันว่ามีอยู่ประจำชีวิตของคนตั้งแต่เกิดมา
เชื่อกันว่าถ้าขวัญอยู่กับตัวก็เป็นสิริมงคล  เป็นสุขสบาย จิตใจมั่นคง ถ้าคนตกใจหรือเสียขวัญ
ขวัญออกจากร่างไปเสีย ซึ่งเรียกว่าขวัญหาย  ขวัญหนี  ขวัญบิน เป็นต้น

           " กำลังใจ" หมายถึง    สภาพของจิตใจที่มีความเชื่อมั่น    และกระตือรือร้น พร้อมจะ
เผชิญกับเหตุการณ์ทุกอย่าง

       "ขวัญและกำลังใจในการทำงาน" คือ สภาพทางจิตใจของผู้ปฏิบัติงาน เช่นความรู้สึก
นึกคิดที่ได้รับอิทธิพล  แรงกดดัน     หรือสิ่งเร้าจากปัจจัยหรือสภาพแวดล้อมในองค์การที่อยู่
รอบตัวเขา และจะมีปฏิกิริยาโต้กลับ  คือพฤติกรรมในการทำงาน ซึ่งมีผลโดยตรงต่อผลงานของบุคคลนั้น

         ขวัญและกำลังใจเป็นอย่างไร
          ขวัญและกำลังใจ  เป็นสภาพทางจิตใจ  ทัศนคติ และความรู้สึกที่มีผลส่วนหนึ่งมาจาก
การปฏิบัติงานร่วมกับกลุ่มโดยอาจเกิดร่วมกันเป็นกลุ่มในแต่ละบุคคลได้
          ขวัญและกำลังใจ อยู่ที่สภาพจิตใจ  ทัศนคติ  อารมณ์ ของผู้ปฏิบัติงานแต่ละคน รวมทั้งทีมงานทั้งหมด
          ขวัญและกำลังใจ  มีผลกระทบต่องาน  ผลผลิต  ความร่วมมือ  ความกระตือรือร้น  วินัย  และความสำเร็จของหน่วยงาน
          ขวัญและกำลังใจ  มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานกับหัวหน้างาน  ผู้บังคับบัญชา  ลูกน้อง  รวมไปถึงผู้มารับบริการและชุมชน  
          ขวัญและกำลังใจ  มีผลต่อความมุ่งมั่นและความเต็มใจในการทำงานเพื่อพัฒนางาน
และหน่วยงานของตนเอง
       แม้ว่าขวัญและกำลังใจเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นและวัดได้ยากแต่เราก็สามารถรู้สึกและ
สังเกตได้  นอกจากนั้น  ขวัญและกำลังใจยังเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้บริหารควรรับรู้  เพราะขวัญและ
กำลังใจเป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จหรือความล้มเหลวได้
          ปัจจัยที่มีผลต่อขวัญและกำลังใจ
          การยกระดับขวัญและกำลังใจทำได้โดยการควบคุม ดูแล ให้ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อ
ขวัญและกำลังใจอยู่ในสภาพที่ดีมีปัจจัยภายนอกหลายประการที่ส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจ
ดังนั้น  ผู้บริหารควรตระหนักและพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องภายในหน่วยงานของ
ตนเอง  รวมทั้งหาทางปรับปรุงแก้ไขสิ่งต่าง ๆ ที่คิดว่าเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานเพื่อให้
ขวัญและกำลังใจของผู้ใต้บังคับบัญชาสูงขึ้น
          จากการปฏิบัติงานประจำกัน  ถ้าเราใส่ใจและลองสังเกตสภาพการณ์ทั่ว ๆ ไป ภายใน
หน่วยงานของตนเอง เราจะพบอาการที่สามารถบ่งชี้ถึงสภาพขวัญและกำลังใจที่ตกต่ำหรือ
สูงได้

          ถ้าหน่วยงานของท่านมีสภาพ  ดังนี้
          - การโต้เถียงกันอย่างรุนแรงเอาเป็นเอาตายระหว่างประชุม
          - การทำงานไม่มีคุณภาพ
          - การปฏิเสธงานที่ได้รับมอบหมาย                                          
          - การขัดคำสั่ง ไม่เชื่อฟังหัวหน้างาน
          - การขาดงานบ่อย ๆ
          - สภาพเต็มไปด้วยข่าวลือ
          - มีการกลั่นแกล้งกันในเรื่องงาน
          - งานไม่บรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
                                             ฯลฯ

คือ  อาการของ "หน่วยงานที่ขวัญและกำลังใจตกต่ำ"
         ถ้าหน่วยงานของท่านมีสภาพ  ดังนี้
           - ความขัดแย้งภายในมีน้อย
           - มีความไว้วางใจซึ่งกันและกันสูง
           - สามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
           - กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ชัดเจน
           - กำหนดบทบาทและความรับผิดชอบชัดเจน
           - มีการสื่อสารและระบบการสั่งงานที่ดี
           - ยอมรับในผู้นำ
           - การจัดทรัพยากรที่เป็นธรรม

คือ  อาการของ "หน่วยงานที่ขวัญและกำลังใจดี"
          เพื่อให้ง่ายในการสังเกต เราสามารถตรวจสอบสภาพขวัญและกำลังใจของคนในหน่วย
งานได้จากการพิจารณาสิ่งต่าง ๆ  เหล่านี้
          - นโยบายและเป้าหมายของหน่วยงาน
          - ภาพพจน์ของหน่วยงาน
          - การสื่อสารจากผู้บังคับบัญชาถึงผู้ใต้บังคับบัญชา
          - การสื่อสารจากผู้ใต้บังคับบัญชาถึงผู้บังคับบัญชา
          - ความสัมพันธ์ของบุคลากรภายในหน่วยงาน
          - ระดับความพอใจในงาน
          - วินัยของผู้ปฏิบัติงาน
          - บรรยากาศในการทำงาน
          - โอกาสในการศึกษา  พัฒนาและฝึกอบรม
          - สิ่งอำนวยความสะดวกในการทำงาน
          - ค่าจ้างและเงินเดือน
          - ความสะอาดและสุขลักษณะของสถานที่ทำงาน
          - ความปลอดภัยในการทำงาน
          - การมีส่วนร่วมในกิจกรรมกลุ่มย่อย
          - ความภักดีต่อหน่วยงาน
          - สิ่งอำนวยความสะดวกทั่ว ๆ ไป
          เมื่อพบจุดตรวจใดเป็นจุดบกพร่อง  เราต้องการหาทางปรับปรุงจุดต่าง ๆ เหล่านั้น เพื่อยกระดับขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานให้สูงขึ้น  ในยุคของเทคโนโลยีที่ทันสมัย และ
การสื่อสารไร้พรมแดน  สิ่งที่ทำให้การดำเนินงานของหน่วยงานมีประสิทธิภาพและประ
สิทธิผลแตกต่างกันกับหน่วยงานอื่น ๆ คือ "คน" ซึ่งกิจกรรมที่จะนำมาใช้เพื่อการพัฒนา
หน่วยงาน เช่น กิจกรรม 5 ส กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์  เป็นต้น  โดยมีเป้าหมายเพื่อ
          - พัฒนาให้มีความรู้  ความสามารถ  และทักษะในการปฏิบัติงานที่สูงขึ้น
          - เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในการปรับปรุงงาน
          - ฝึกให้เป็นคนช่างสังเกต
          - พัฒนาให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์

          - รู้จักทำงานเป็นทีม  เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาและปรับปรุงงาน
          - รู้จักใช้ความคิดอย่างเป็นระบบและมีเหตุผล
          - สร้างเสริมวินัย
          - เพิ่มความสามัคคี
                                                 ฯลฯ
นอกจากจะให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมแล้ว  ยังเน้นให้ทุกคนรู้จักปรับปรุงงาน
ของตนเองเป็นหลัก  เพราะผู้ปฏิบัติย่อมรู้ดีว่าปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานเป็น
อย่างไร  โดยเริ่มจากการสังเกตสภาพแวดล้อมในการทำงานรอบ ๆ ตัวของเราก่อน
          ลองสังเกตสถานที่ทำงานว่ามีสภาพเช่นนี้หรือไม่
          - ห้องที่เต็มไปด้วยโต๊ะทำงาน
          - มีเสียงโทรศัพท์ดังตลอดเวลา
          - แสงสว่างไม่เพียงพอ
          - มีเครื่องถ่ายเอกสาร  แต่ใช้งานไม่ได้หรือได้ไม่ดี
          - อุปกรณ์เครื่องใช้ใหม่  แต่ไว้ใจไม่ได้พร้อมที่จะเสียตลอดเวลา
          - เครื่องปรับอากาศที่เย็นเกินไป  ร้อนเกินไป
          - ทางเดินที่คับแคบ  มีสิ่งของวางกีดขวาง
          - มีเสียงดัง  รบกวนการทำงานเป็นระยะ
          - สิ่งอำนวยความสะดวกไม่ดีพอ เช่น ห้องน้ำสกปรก  โรงอาหารไม่ถูก
             สุขลักษณะ ฯลฯ           
          - มีวัสดุอุปกรณ์ไม่เพียงพอ
          - การระบายอากาศที่ไม่ดีพอ
                                                  ฯลฯ
           คุณคิดอย่างไรกับสภาพที่ทำงานข้างต้น?
           - เรื่องอย่างนี้พบเห็นในที่ทำงานจนกลายเป็นเรื่องปกติแล้ว
           - อยู่ไปก็ชินเอง
           - เราต้องปรับตัวให้เข้ากับสิ่งเหล่านี้ให้ได้
           - เบื่อ!...แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
           - ควรจะปรับปรุงให้สถานที่ทำงานมีสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น  ทำงานได้สะดวกขึ้น 
           - ถ้าทุกคนในหน่วยงานร่วมมือกันก็จะสามารถแก้ไขได้
           ในการทำงานหนึ่ง ๆ   นั้น  งานจะออกมามีคุณภาพหรือไม่  เสร็จทันเวลาหรือได้รับ
ความร่วมมือจากผู้ร่วมงานหรือไม่ ฯลฯ  ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในการทำงาน
เพราะสภาพแวดล้อมในการทำงานจะส่งผลต่อความคิด ความรู้สึก  อารมณ์ของผู้ปฏิบัติงาน
ซึ่งก็หมายถึงขวัญและกำลังใจในการทำงานด้วย  ด้วยเหตุที่บรรยากาศในสถานที่ทำงาน
ความสัมพันธ์ที่ดีของกลุ่มทำงาน  สนุกกับการทำงานร่วมกันเป็นทีม  เห็นประโยชน์  รับฟัง
ความคิดเห็นซึ่งกันและกัน  ช่วยกันแก้ไขปัญหาในงาน  พฤติกรรมที่แสดงออกทางสีหน้า
และท่าทาง  สิ่งเหล่านี้ถ้าทุกคนร่วมมือร่วมใจกันก็จะมีผลให้สถานที่ทำงานน่าทำงานและ
สามารถทำงานได้ง่ายขึ้น  สะดวกสบายขึ้น  ปัญหาที่เคยมี เราก็จะมีส่วนในการแก้ไขปัญหา
เราก็จะรู้สึกมั่นใจ  ภาคภูมิใจ  ได้รับการยอมรับ  ฯลฯ  ผลก็คือ  ขวัญและกำลังใจในการ
ทำงานที่สูงขึ้นนั่นเอง

คำบันดาลใจ
          หัวหน้าที่เอาแต่ด่าลูกน้อง
         โดยไม่ยอมชี้ให้เห็นว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้องอย่างไร
                              ย่อมไม่ใช่หัวหน้าที่ดี
                              แต่พูดให้ถึงที่สุดแล้ว  ควรต้องบอกว่า
                              ความผิดซ้ำๆ บางอย่างเป็นเรื่องง่ายที่จะแก้ไข
                             คนที่ทำผิดแล้วเปลี่ยนเป็นถูก
                             คนที่ไม่ทำความผิดซ้ำ
                             คือ  คนที่สามารถจะพัฒนาตนเองให้ก้าวไปได้


คัดจากจุลสารกองการเจ้าหน้าที่ ปีที่ 4                                                          eat... 

 

คำสำคัญ (Tags): #บันทึกกิจกรรม#km
หมายเลขบันทึก: 3857เขียนเมื่อ 13 กันยายน 2005 19:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 01:34 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

   ขอบคุณมากนะคะที่ค้นหาสิ่งดี ๆ มาให้ชาวชุมชนเสมอ อ่านแล้วได้ประโยชน์ ทำให้ชีวิตมีพลัง เพื่อที่จะขับเคลื่อนตัวเอง และองค์กร ไปสู่องค์กรแห่งคุณภาพ และองค์กรแห่งการเรียนรู้

                              ศิษย์สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานชุมพร

เนาวรัตน์ วงษ์นิ่ม

482679166

ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลดี ๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท