โรคหลอดเลือดแดงใหญ่คอดรุนแรง
Coarctation of the Aorta
คง บุญคุ้ม อนุ.รังสีเทคนิค
วิชุดา สิริเมธาธโนปกรณ์ วท.บ.รังสีเทคนิค
สุรีย์ พึ่งผลงาม วท.บ.รังสีเทคนิค
วันชัย ศรีประภาภรณ์ วท.บ.รังสีเทคนิค
ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
คง บุญคุ้ม, วิชุดา สิริเมธาธโนปกรณ์, สุรีย์ พึ่งผลงาม, วันชัย ศรีประภาภรณ์. โรคหลอดเลือดแดงใหญ่คอดรุนแรง.วารสารชมรมรังสีเทคนิคและพยาบาลเฉพาะทางรังสีวิทยาหลอดเลือดและรังสีร่วมรักษาไทย, 2552 ; 3(2) :79-89
โรคหลอดเลือดแดงใหญ่คอดรุนแรง (Coarctation of Aorta) เป็นภาวะความผิดปกติของระบบหลอดเลือดแต่กำเนิด มีรายงานการมีโอกาสเกิดได้ 5-8% ในชาวผิวขาว และ <2% ในชาวเอเชีย การคอดอย่างรุนแรงของหลอดเลือดแดงใหญ่ จะทำให้เกิดความดันโลหิตสูงในร่างกายท่อนบน การวินิจฉัยพบก็เมื่อผู้ป่วยมีอาการแล้ว ในเด็กทารกจะพบร่วมกับอาการของโรคหัวใจล้มเหลว และในเด็กโตจะพบร่วมกับภาวะความดันโลหิตสูง
ระดับการคอดมีหลายระดับ และเกิดได้ในหลายตำแหน่งของ aorta แต่มักพบในตำแหน่ง thoracic aorta ที่ต่อกับ left subclavian artery หากพบในตำแหน่ง thoracic aorta ช่วงต่อกับ abdominal aorta มักจะเป็น fusiform และจะเกิดเนื่องจกาการติดเชื้อ หรือเกิดจากโรค Takayasu artitis ในขณะเดียวกันตำแหน่งต่อจากรอยคอดจะมีการขยายของหลอดเลือด และจะมีหลอดเลือด collateral vessels มาต่อเชื่อมกับร่างกายส่วนบนในตำแหน่งที่ต่ำกว่ารอยคอดด้วย กลไกการเกิดรอยคอดนั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่มีสมมติฐานทางด้าน hemodynamic และทฤษฎีทาง ectopic ductal tissue ที่พอจะอธิบายได้
สาเหตุอีกอย่างหนึ่งในการเกิดรอยคอดนี้ก็คืออุบัติเหตุ โดยทำให้เกิด aortic dissection ซึ่งจะมีความคล้ายกับ coarctation แต่จะมีการลดลงของแรงดันเลือดที่ขา ซึ่งจำเป็นที่จะต้องทำการถ่างขยายหลอดเลือดด้วยวิธีการทางรังสีร่วมรักษา
อัตราการเสียชีวิตเนื่องจากภาวะรอยคอดของหลอดเลือดแดงใหญ่พบว่า จะทำให้เกิดการเสียชีวิตก่อนอายุ 50 ปี ได้ราว 90% โดยมีค่าเฉลี่ยอายุผู้ป่วยกลุ่มโรคนี้ที่ 35 ปี โดยมีรายงานว่า 25% ของผู้ป่วยกลุ่มนี้จะเสียชีวิตก่อนอายุ 20 ปี และ ราว 50% จะเสียชีวิตก่อนอายุ 30 ปี โดยสาเหตุของการเสียชีวิตคือผู้ป่วยจะมีอาการความดันโลหิตสูงทำให้เกิดเกิดเลือดออกในสมอง หรือ aortic rupture or dissection , ภาวะ endocarditis และ หัวใจล้มเหลว
ความชุกในการเกิดโรค พบว่าจะเกิดโรคนี้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิ ง 2:1 และพบว่าตำแหน่งในการเกิดที่ thoracic aorta จะเกิดมากกว่าตำแหน่ง abdominal aorta ถึง 1000 เท่า
การตรวจพบจะเกิดกับผู้ป่วยที่เป็นผู้ใหญ่ซึ่งมีภาวะความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง การพบในผู้ป่วยเด็กมักจะพบในช่วงอายุ 5 ปี ขึ้นไป สาเหตุเกิดจากบริเวณส่วนโค้งของหลอดเลือดแดงใหญ่ตีบแคบ (Coarctation of aorta; CoA) ชึ่งทำให้มีข้อจำกัดในการนำเลือดไปเลี้ยงร่างกายส่วนล่าง และทำให้ความดันโลหิตสูง ซึ่งอาจเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้
การตรวจวินิจฉัย
การตรวจร่างกาย อาจสังเกตจากความดันโลหิตในส่วนของหลอดเลือดแขนขาที่แตกต่างกันได้ การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ จะไม่แสดงความแตกต่างในเด็กโต
สำหรับผู้ใหญ่จะพบ left ventricular hypertrophy และสำหรับเด็กเล็ก จะพบ right ventricular hypertrophy หรือ biventricular hypertrophy
การตรวจวินิจฉัยทางรังสี
การตรวจ Chest X-ray จะสามารถสังเกตเห็นรอยคอดได้ ดังภาพที่ 2 แต่ไม่แน่ชัด จึงมักส่งตรวจทางรังสีอื่นเพื่อการยืนยัน
การตรวจ CTA of Aorta เป็นการตรวจเพื่อประเมินรอยโรคหลอดเลือดแดงใหญ่ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยอย่างเร่งด่วน เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต การตรวจ CTA of Aorta สามารถเห็นรายละเอียดภายในหลอดเลือด, ผนังหลอดเลือด , หลอดเลือดข้างเคียง รวมทั้งอวัยวะที่อยู่รอบๆได้อย่างละเอียด ใช้เวลาในการตรวจสั้น ได้ผลการตรวจที่ถูกต้องและรวดเร็ว
การตรวจจำเป็นต้องใช้เครื่อง CT แบบ MDCT ชนิดความเร็วสูง และใช้ร่วมกับเครื่องฉีดยา แบบอัตโนมัติ
การเตรียมตัวก่อนตรวจ
เทคนิคการตรวจ
สำหรับการส่งตรวจทาง angiogram นั้น ในปัจจุบันส่งตรวจน้อยลง เนื่องจากพัฒนาการของ CTA และ MRA อย่างไรก็ตามในผู้ป่วยบางรายที่พบความผิดปกตินี้ก็จะต้องทำการตรวจ โดยการใช้ catheter เช่น vertebral 4 Fr. หรือ อาจเป็น pigtail catheter ก็ได้วางไว้ในตำแหน่ง arch of aorta แล้วถ่ายภาพ ด้วยความเร็ว 3-6 Frame/sec ร่วมกับการฉีดสารทึบรังสี 40 mL ที่อัตราฉีด 12 mL/s
การรักษาผู้ป่วยภาวะ coarctation นั้น แพทย์ศัลยกรรมหลอดเลือด มีทางเลือกในการรักษาได้ด้วยวิธีการผ่าตัด หรือการใส่สายสวนที่มีลูกโป่งอยู่ตรงปลาย เพื่อขยายส่วนที่ตีบแคบหรือ ใส่ Vascular stent graft ซึ่งวิธีการหลังเป็นที่นิยมกว่า และเพื่อการติดตามผลการรักษาผู้ป่วยจะถูกส่งมาตรวจ CTA of aorta เพื่อยืนยันผลการรักษา
บรรณานุกรม
ไม่มีความเห็น