สวัสดีครับ
วันนี้ผมอยู่ที่เชียงใหม่ ในวันนี้น้ำปิงกำลังล้นตลิ่งเป็นครั้งที่ 2 ในรอบไม่ถึงเดือน(ตอนนี้ไหลเข้าท่วมอำเภอรอบนอกแล้ว ในเขตเทศบาลเมืองเหลือประมาณ30 เซ็นต์ ก็จะล้นตลิ่ง)โดยปรกติ ทุก1 -2 เดือน ผมมีภารกิจที่จะต้องขึ้นเชียงใหม่ประมาณ 1 สัปดาห์ (เป็นมา 8 ปีแล้วละครับ) แล้วทุกครั้งที่ขึ้นมาเชียงใหม่ก็จะต้องใช้เวลาในหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ประมาณวันละ 3 - 4 ชั่วโมง มันเหมือนกับการชาร์ตแบ็ตเตอรี่เลยครับ พอไฟเต็มก็ลุยได้เต็มที่ละครับ วันนี้ในหอสมุดของม.ช. นั่งอ่านหนังสือที่สนใจก็เลยอ่านเรื่องราวของ KM ก็พบว่าในโลกกว้างของการจัดการรู้ในระดับนานาชาติมีบริษัทยักษ์ใหญ่(บริษัทซีเมนต์ มีพนักงานมากกว่า 120,000 คนใน160 ประเทศและแม้กระทั่งยักษ์คอมพิวเตอร์อย่างบริษัทไมโครซอฟฟ์มีพนักงานมากกว่า 20,000 คน) ที่ใช้ KM ในการบริหารจัดการองค์การ เลยนำมาทบทวนการจัดการความรู้ในบ้านเรา ก็มีข้อสังเกตุต่อเนื่องจากคราวที่แล้วมาฝากดังนี้
จากที่เคยฝากประเด็นปัญหาการจัดการความรู้ของส่วนราชการว่า
1.การไม่สามารถนำไปเชื่อมโยงกับการปฏิบัติงานจริง (ที่ส่งผลชัดเจนต่อการเพิ่มขีดสมรรถนะของหน่วยงาน) ทำให้บางคนรู้สึกว่าเป็นเครื่องมือที่ขาดพลังที่จะนำไปสู่การปฏิบัติจริง
2.มุ่งเน้นในส่วนการจัดการความรู้อย่างแยกส่วนอยู่ในกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย (ไม่สามารถขับเคลื่อนองค์กรไปด้วยกันทั้งหมด) มีการดำเนินการแบบแยกส่วนในองค์การ
3.ขาดทิศทางในการขับเคลื่อนการจัดการความรู้ในระยะยาว (ไม่สามารถกำหนดตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์ในระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาวได้อย่างชัดเจน) ทำให้ไม่รู้ว่าที่ผ่านจะวัดความสำเร็จอย่างไร
และเคยฝากถึงสาเหตุหลักดังนี้
1.การมุ่งเน้นเทคนิคการจัดการความรู้ที่ขาดความเชื่อมโยงบริบทของการปฏิบัติงานที่แท้จริงของหน่วยงาน
2.การมองและพิจารณาการจัดการความรู้อย่างแยกส่วนขาดการมีส่วนร่วมของบุคลากรขององค์กร
3.การขาดการวางแผนยุทธศาสตร์การจัดการความรู้ในภาพรวมของหน่วยงาน(การนำการจัดการความรู้ไปเชื่อมโยงกับการวางแผนยุทธศาสตร์ของหน่วยงาน)
และเคยฝากถึงขั้นตอนของกระบวนการ KM ดังนี้
1.จำเป็นต้องมีการสร้างเครื่องมือ KM ที่เหมาะสม(เหมาะสมไม่ใช่สมบูรณ์แบบ)
2.จำเป็นต้องฝึกฝนผู้ใช้เครื่องมือ KM ชิ้นนั้นพอสมควร(สามารถใช้งานได้ไม่ใช่เชี่ยวชาญ)
3.จำเป็นต้องให้นำมาใช้ในงานจริง(การปฏิบัติงานจริงไม่ใช่วาดความฝัน)
ถึงตอนนี้ ก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นครับและคิดว่าเราน่าจะก้าวเข้าสู่ขั้นตอนที่ 3 ได้แล้วนะครับ ทั้ง 3 ประเด็นเลยนะครับ
1.การสกัดขุมความรู้จากการปฏิบัติงานจริง(Knowledge Assets)2.การจัดทำแผนที่ความรู้(Knowledge Mapping)ของหน่วยงาน
3.การกำหนดความเชื่อมโยงและการประเมินสมรรถนะหลักของหน่วยงาน(นำไปสรุปเป็นข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงของหน่วยงานในส่วนของบุคคลากร)
มีประเด็นที่อยากจะฝากเพิ่มเติม ก็คือ ขอให้ผู้ดูแลบล็อกของส่วนราชการของชุมชน Chumphon-KM-Station ทุกบล็อก กรุณากำหนดคำหลักในแต่ละบันทึกเพื่อจัดหมวดหมู่ของบันทึกนั้นๆ ทั้งในส่วนของคำหลักของชุมชนฯและคำหลักของบล็อก และขอให้กำหนดให้ถูกต้องกับประเภทของบันทึกด้วยเช่น
- ข่าวประชาสัมพันธ์ ขอให้ใช้ คำหลัก "ข่าวสารส่วนราชการเพื่อ...แจ้งประชาชน"
- ความรู้ที่ต้องการเผยแพร่ ขอให้ใช้ คำหลัก " ความรู้เพื่อประชาชน"
- ขุมความรู้จากการปฏิบัติงาน ขอให้ใช้ คำหลัก "ขุมความรู้จากประสบการณ์" (ระบุด้าน..........., ทั่วไป)
- กิจกรรม KM ขอให้ใช้ คำหลัก " บันทึกกิจกรรม KM"
- ประเด็นปัญหาข้อสงสัย KM ขอให้ใช้ คำหลัก "ถาม ตอบ ข้อสงสัย"
ในอนาคตอันใกล้ ปัญหาที่พวกเราจะต้องร่วมกันแก้ไขป้องกัน คือ การคัดกรอง บันทึกที่เป็นประโยชน์สำหรับสมาชิก เพราะในบันทึกจำนวนมหาศาลจะต้องถูกแยกแยะเพื่อสะดวกต่อการใช้งานจริง ในปีหน้าเราจะเชื่อมโยงเครือข่ายการจัดการความรู้ลงสู่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ชุมชนฯนี้จะเป็นสะพานเชื่อมโยงการจัดการความรู้ลงสู่ระดับพื้นที่
ขอให้ผู้ดูแลบล็อกพิจารณาให้ดีว่า ใครคือผู้ใช้ประโยชน์จากข้อมูล ข่าวสารที่ต้องการสื่อออกไปในบันทึกในแต่ละครั้ง (ประชาชน,เพื่อนขรก.,หน่วยงานอื่นที่ควรรับรู้ข่าวสาร,ท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง) เพื่อจะกำหนดคำหลักให้สามารถแยกแยะ ค้นหาบันทึกที่ต้องการได้ในระยะยาว วันนี้ชุมชนของเรามีบล็อก 72 บล็อก มีบันทึกหลายร้อยบันทึก(น่าจะถึงหลักพันในปีหน้า) การเขียนบันทึกในระยะต่อจากนี้น่าจะก้าวผ่านกิจกรรมในขั้นตอนที่ 2 ควรจะดำเนินการในระดับของกิจกรรมในขั้นตอนที่ 3 ในเดือนกันยายนนี้ การร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ น่าจะเป็นประเด็นต่างๆที่เกี่ยวข้องในสมรรถนะหลัก 2 ด้าน (ด้านบริหารจัดการองค์การ ด้านการบริการประชาชน) ตามสมรรถนะย่อยต่างๆหวังเป็นอย่างยิ่ง การขับเคลื่อนขบวนการจัดการความรู้ KM ของจังหวัดชุมพร จะส่งผลชัดเจนต่อการพัฒนาศักยภาพของหน่วยงานต่างๆในอนาคตอันใกล้นี้
พรสกล ณ ศรีโต
12/9/2548
อ่านข้อความของอ.พรสกล ตอนนี้อยู่ที่จังหวัดหนองคายกับทีมงาน กศน.อเมืองชุมพร ..โชคไม่ดีเลยนะคะที่ จ.เชียงใหม่มีน้ำท่วมอีก แต่คงผ่านพ้นไปได้ด้วยดี พวกเรา กศน. ก็ยังจัดหมวดหมู่สับสน.อย่างที่ อาจารย์ว่า .แต่จะพยายามแยกค่ะ
อ่านข้อความแล้ว ก็ได้แต่หวังว่า KM คงจะคืบหน้าไปไวไว.....นะครับ เอาใจช่วยครับผม