อ่านจากหัวเรื่องแล้วอาจคิดว่าเป็นเรื่องของคุณหมอที่ไหน แต่อันที่จริงแล้วตั้งใจมานำเสนอประสบการณ์ของการ ลปรร. ที่เกิดขึ้นระหว่างที่มาเป็น KM Intern หมายเลข ๒ ของสคส. ให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบ ซึ่งการฝึกงานครั้งนี้ เป็นการฝึกงานแบบเต็มเวลา และไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ นอกจากความรู้อันหาค่ามิได้ การฝึกงานครั้งนี้กินเวลาประมาณ ๒ – ๓ เดือน หลักการของการฝึกงานก็คือ การเข้ามาเป็น co-worker เพื่อร่วม ลปรร. และทำงานด้วยกันกับทีมงานของสคส. เหมือนเป็นพนักงานคนหนึ่ง เพื่อให้เกิดความรู้ปฏิบัติที่จะนำกลับไปใช้กับโรงเรียนเพลินพัฒนา ซึ่งเป็นต้นสังกัด
วันจันทร์ที่ ๓ กรกฎาคม เป็นวันทำงานวันแรก วันนี้ต้องติดตามไปฟังอาจารย์วิจารณ์บรรยายในหัวข้อ การบริหารองค์ความรู้ หรือการจัดการความรู้ในภาษาของสคส.นั่นเอง คณะฯเราออกเดินทางจากสคส.ประมาณ ๗ โมงเช้า การบรรยายเริ่มต้นเวลา ๘ โมงเช้าที่สถาบันจิตวิทยาความมั่นคง ผู้เข้าฟังคือนักศึกษาหลักสูตรการปฏิบัติการจิตวทยาฝ่ายอำนวยการ รุ่นที่ ๙๙ สำหรับนายทหาร นายตำรวจ ข้าราชการพลเรือน พนักงานรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน เนื้อหาที่สำคัญคือความเกี่ยวข้องกันของความมั่นคงกับการจัดการความรู้ และการให้ความเข้าใจชนิด "พอได้แนว" แต่ยังไม่ได้ความเข้าใจอย่างแท้จริงเพราะการจัดการความรู้เป็นเรื่องของการปฏิบัติ
และความเข้าใจนั้นจะเกิดขึ้นได้กับผู้ที่ลงมือปฏิบัติเท่านั้น ซึ่งในที่สุดแล้วก็จะทำให้ผู้ปฏิบัติเกิดสุขจากการทำงานโดยใช้ความรู้เป็นฐานกันทุกคน
เมื่อภารกิจแรกสิ้นสุดลงคณะฯก็เดินทางกลับมาที่ฐานที่มั่น อุปกรณ์ยังชีพที่ได้รับมอบก็คือ "กระดานชนวนไฟฟ้า" (คอมพิวเตอร์โน็ตบุ้ค) ๑ เครื่อง เอาไว้บันทึกความรู้ และสื่อสารความคิดสู่ผู้อื่น เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
ภาคบ่าย เดินทางไปยังกรมธนารักษ์ เพื่อทำการประชุมเชิงปฏิบัติการกับเจ้าหน้าที่จากสำนักประเมินราคาทรัพย์สิน โดยใช้เรื่องเล่า เพื่อหาแก่นความรู้ที่ซ่อนอยู่ในประสบการณ์การทำงานในเรื่อง ศักยภาพของนักประเมิน เทคนิคการตรวจสอบข้อมูล และ เทคนิคการเข้าพื้นที่และการประชาสัมพันธ์กับหน่วยงานอื่นๆ เป็นที่น่าสนใจว่าวิทยากรทั้ง ๓ ท่านที่กลุ่มเลือกเรื่องขึ้นมานำเสนอนั้น เคยเป็นเพื่อนรวมเรียนกันมาตั้งแต่อายู ๑๔ ! อีกเครื่องมือหนึ่งที่นำมาใช้ในบ่ายวันนี้คือ AAR (After Action Review) อันเป็นสิ่งที่ต้องทำหลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจทุกครั้งนั่นเอง การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ จบลงด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะของผู้คนที่เห็นคุณค่าของความรู้ปฏิบัติที่เกิดขึ้นจากการสั่งสมประสบการณ์มานานปี ความเคารพในคุณค่าของกันและกันปรากฏขึ้นในใจที่ฉายชัดอยู่ในแววตาทุกคู่ วันนี้ช่างเป็นการเริ่มต้นที่สวยงามเสียจริงๆ
เรียบๆ...ง่ายๆ...แต่อ่านแล้วมองเห็นภาพเลยคะ...
ขุมความรู้...มีฝัง...อยู่ ณ ทุกหนแห่ง...
เพียงแต่..เราจะไปพานพบได้อย่างไร..เท่านั้นเอง
ทุกแห่งหน...ในไทยเพียงแต่เราจะใส่ใจกับสิ่งที่เรามองข้ามหรือไม่
ไว้คงได้คุยกันที่ สคส. นะคะ :)
ดีใจที่ได้พบครูใหม่อีกครั้ง แถมยังมีสถานะเป็นอินเทอร์นอีกด้วย สคส. จะรับอินเทอร์นหมายเลข 3 ไหมหนอ
เอ..ผมรอหมายเลข 007 น่าจะดีกว่า มร.คิว (ศ.นพ.วิจารณ์) คงมีอาวุธลับให้พระเอกลองใช้มากมาย
แต่มีนางเอกแล้ว คือ 002 ครูไม่ใหม่
ชาตรี เจริญศิริ