เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2553 ลุงสำรวย ทวีทรัพย์ ซึ่งเป็นปราชญ์ชาวบ้านมีอายุมากถึง 86 ปี ได้มาเยี่ยมกัน ณ.สำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมนี้คุณลุงสำรวย ยังนำผลิตภัณฑ์จากต้นมิ้นท์ที่ผลิตเอง จำนวน 2 ชนิดคือ น้ำมันมิ้นท์และน้ำยาบ้วนปากจากต้นมิ้นท์ มานำเสนอสรรพคุณ เท่าที่เห็นพบว่า ช่วง2-3 ปีที่ผ่านมาคุณลุงสำรวย ได้ทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากต้นมิ้นท์ที่ตนเองปลูก และสามารถพัฒนาเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัดกำแพงเพชรอีกด้วย
ลองมาดูสรรพคุณของผลิตภัณฑ์จากต้นมิ้นท์กันดูก่อนนะครับ ผลิตภัณฑ์ชนิดแรกก็คือ น้ำมันมิ้นท์ 100 % มีสรรพคุณใช้บรรเทาอาการเคล็ดขัดยอก แมลงสัตว์กัดต่อย เป็นหวัดคัดจมูก ปวดฟัน ปวดท้อง ใช้ทาบริเวณที่ปวด
ผลิตภัณฑ์อีกชนิดหนึ่งก็คือน้ำยาบ้วนปากสูตรลุงรวย มีสรรพคุณ ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคเหงือกและกลิ่นปาก วิธีใช้ ใช้ครั้งละประมาณ 1 ฝา อมและกลั้วปาก ไว้ในปากนาน 30 วินาที แล้วบ้วนออก
ลองมาดูลักษณะ ของต้นมิ้นท์กันก่อนนะครับว่าเป็นอย่างไร คุณลุงสำรวยเขาทำอย่างไร ถึงได้พัฒนามาสู่ผลิตภัณฑ์จากต้นมิ้นท์ โดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน พัฒนามาจนมีลูกค้าขาประจำที่สั่งซื้ออยู่อย่างต่อเนื่อง และช่วยเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวอีกทางหนึ่ง ขณะเดียวกันครอบครัวของคุณลุงสำรวย ก็ได้ถือปฏิบัติ โดยนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง มาปฏิบัติอย่างต่อเนื่องตลอดมา ทุกวันนี้ครอบครัวของคุณลุงสำรวยมีความสุขทางใจ อยู่ในระดับแนวหน้าเลยทีเดียว ครับ..
คุณลุงสำรวยเล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 2522 ได้นำต้นมินท์มาจากจังหวัดนครสวรรค์ มาปลูกเพราะว่าต้นมินท์มีน้ำมันที่มีสรรพคุณในการแก้หวัด แก้แมลงกัดต่อย แก้เข็ดขัดยอก แก้ปวดเมื่อย ปวดท้อง คนที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต นำน้ำมันมินท์มานวดก็สามารถหายได้
ในปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกต้นมินท์ อยู่จำนวนหนึ่ง วิธีการปลูกก็แยกไหลจากต้นแม่มาปลูก 2 ไหล ต่อหลุมการดูแลรักษาก็ต้องลดน้ำเช้าเย็นต้นมินท์ต้องการความชุ่มชื้นแต่ต้องไม่มีน้ำท่วมขัง ไม่มีโรคและแมลงรบกวนปุ๋ยที่ใส่ก็จะใช้แต่ปุ๋ยหมักชีวภาพ
เมื่อต้นมิ้นท์อายุได้ประมาณ 75 วันก็สามารถจะเก็บเกี่ยวได้ หรือให้สังเกตถ้าอายุ 75 วัน ต้นมินท์จะออกดอกประมาณ 60 % ของแปลงปลูกทั้งหมดหลังจากนั้นทำการเก็บเกี่ยวโดยจะทำการเก็บเกี่ยวในช่วงเช้าและออกดอกเพราะน้ำมันมินท์จะมีกลิ่นแรงกว่าที่เก็บเกี่ยวในช่วงกลางวันหรือเย็น เมื่อเก็บแล้วนำมาตากแดด 3 วันแล้วนำไปใส่หม้อนึ่งความดันเพื่อกลั่นน้ำมันโดยในหม้อนึ่งนั้นจะใส่น้ำไว้ชั้นล่างแล้วมีตะแกรงกั้นแล้วจึงใส่ต้นมินท์ที่ตาก 3 แดดแล้วมาใส่อัดให้แน่นแล้วปิดฝาแล้วก่อไฟ น้ำมันจากต้นมินท์ก็จะระเหยออกมากระทบกับความเย็นก็จะกลายเป็นหยดน้ำผสมกับน้ำมันมินท์แล้วจึงนำมาแยกน้ำและน้ำมันมินท์ ออกจากกัน แล้วนำมาบรรจุขวดจำหน่ายขวด 10 ซีซี ขวดละ40 บาท ถ้าจำหน่ายเป็นลิตรๆละ 3,000 บาท ในพื้นที่ 3 งาน ในแต่ละปี จะได้น้ำมันมินท์ 30-35 ลิตรสร้างรายได้ปีละ 9,000 -100,000 บาท แต่ในปัจจุบันได้ทำการผลิตน้ำยาบ้วนปากอีกชนิดหนึ่ง ทำการทดลองแล้วได้ผลเลยทีเดียว สำหรับกากของต้นมินท์ที่สกัดน้ำมันแล้วนำมาผลิตปุ๋ยชีวภาพจำหน่ายได้อีกทางหนึ่งครับ นับได้ว่าเป็นปราชญ์ชาวบ้านของจังหวัดกำแพงเพชรที่มีองความรู้อีกรายหนึ่งที่สมควรได้รับคำยกย่องชมเชยนะครับ
แหล่งข้อมูลลุงสำรวย ทวีทรัพย์
450 หมู่21 ต.ปางมะค่า อ.ขาณุวรลักษบุรีจ.กำแพงเพชร
โทร.089-225-1258
เขียวมรกต:ผู้เขียน
29มิย.53
เรียนท่านเขียวมรกต
แวะมาทักทายและเรียนรู้ด้วยคนนะคะ
สวัสดีครับคุณเขียวมรกต
ถ้ามีโอกาสอยากเเวะไปแลกเปลียนความรูกันคุณลลุงมั่งจังเลย ไว้เเล้วจะมาขอขอมูลเพิ่มเติมนะครับ
ชื่นชมคุณเขียวมรกต ถ่ายทอดได้ดีมาก
มาชม มาชื่น ชีวิตที่รื่นรมย์ ของคุณลุงสำรวยค่ะ
คุณพี่เขียวมรกต สบายดีนะคะ หายเงียบไปนานนๆๆ
เห็นน้ำมันต้นมินท์ เก็บเกี่ยวได้เร็ว กว่ากฤษณา อีกนะคะเนี่ย
สวัดสีค่ะ
น้องใหม่นะค่ะ ชื่นชมคุณลงมากๆๆ มีโอกาสจะแวะไปขอความรู้นะค่ะ
ขอบคุณค่ะ