2.คุณจำรัส สนจิตร์คณะกรรมการอุดมการณ์ เครือข่ายสัจจะฯ จ. ตราด
เรื่อง กระบวนการเครือข่ายที่ทำให้สมาชิกในเครือข่ายสัจจะมีสวัสดิการที่ดีขึ้น
· ปัญหาของตราด คือ มีเงินเหลือ จะบริหารจัดการอย่างไร
· ทางออกคือ แทนที่จะนำเงินไปฝากธนาคาร หรือเพิ่มมูลค่าของเงินด้วยการนำเงินไปหมุนเวียนในกิจกรรมที่ต้องมีคนรับผิดชอบ เช่น ในการทำกลุ่มอาชีพ (คงเนื่องจากเป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยงจึงจำเป็นต้องมีคนรับผิดชอบ—ผู้จดบันทึก) ก็นำเงินนั้นมาจัดสวัสดิการ
· เป้าหมายของเครือข่าย คือ การทำให้สมาชิกมีชีวิตความเป็นอยู่ได้เป็นปกติแต่มีสวัสดิการที่ดีขึ้น
· การจัดสวัสดิการของเครือข่ายสัจจะ เป็นการให้หลักประกันชีวิตและเป็นการปฏิบัติธรรม
· เช่น ถ้าต้องนอนโรงพยาบาล ฐานสวัสดิการที่สมาชิกจะได้รับคือ 200 บาท/คน/คืน แต่ถ้าเป็นสมาชิกที่เข้าร่วมกิจกรรมรวมซื้อ ก็จะได้รับเพิ่มอีก 80 บาทในปีแรก ปีต่อไปได้รับส่วนเพิ่มนี้เป็น 100 บาท และหากสมาชิกได้ “ทำบุญ” ก็จะได้รับอีกไม่เกิน 10,000 บาทสำหรับการพักฟื้น
· “การทำบุญ” หมายถึง
1. ตัวแทนในครอบครัวเข้าร่วมประชุมต่อเนื่อง อย่างน้อย 6 ครั้ง/ปี
2. ร่วมกิจกรรมรวมซื้อ
3. ซื้อ พรบ.รถยนต์
4. บริจาคขยะ
5. ทำบัญชีครัวเรือน
หากทำบุญทั้ง 4 รายการแรกจะได้รับ 6,000 บาท และหากทำบุญข้อ 5 ด้วยก็จะได้รับ 10,000 บาท
(ข้อคิดเห็นเสนอคุณภีมและอาจารย์ตุ้ม: ระบบแลกเปลี่ยนก็เปิดโอกาสให้ “ทำบุญ” ในลักษณะนี้ แต่แทนที่จะได้รับเงินบาท ก็ได้รับเป็นเงินตราชุมชน หรือ แต้มสะสมในบัญชี ซึ่งสามารถนำเงินหรือแต้มสะสมนี้ไปใช้ซื้อสินค้าหรือบริการ (รวม“สวัสดิการ”) ที่ผลิตในชุมชนได้ ได้เคยเสนอเรื่องนี้ในที่ประชุมโครงการแลกเปลี่ยนแล้ว อย่างไรก็ดี กลุ่มแม่บ้านมิตรภาพที่กรุงเทพฯ ได้ทำคล้ายๆกัน แต่ให้เป็นสิ่งของตอบแทนในทันที (เช่น ให้สิ่งของในร้านค้าชุมชนแก่คนที่มาช่วยสอนศาสนา ซึ่งถือเป็น “การจัดสวัสดิการด้านการศึกษา” โดยชุมชน) การให้สิ่งของตอบแทนในทันทีแบบกลุ่มแม่บ้านมิตรภาพตัดปัญหารกใจเรื่องคูปองไม่หมุนเวียน ด้วยฐานการผลิตที่แคบแบบชุมชนไทย การตอบแทนในทันที หรือของแลกของจะไม่ยุ่งยาก และบางทีอาจเป็นระบบที่เหมาะกว่าระบบคูปองอันที่จริง แนวทางของกลุ่มจังหวัดตราด ปรับเข้าสู่เรื่องระบบแลกเปลี่ยนได้ไม่ยากนัก)
3.คุณกัญญา เจริญรัตน์ ประธานเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ
เรื่อง การริเริ่มโครงการสัจจะวันละบาท
· กลุ่มมีฐานมาจากกองทุนหมู่บ้าน แต่ได้ไปศึกษาดูงานที่จังหวัดตราด แล้วกลับมาทดลองจัดเวที เปิด VCD และพูดคุยกับสมาชิกในหมู่บ้าน จึงเกิดกลุ่มสัจจะแล้ว 1 หมู่บ้าน ในระยะเวลา 2 เดือน มีสมาชิก 180 คน
· ขณะนี้กำลังจะขยายไปสู่หมู่บ้านอื่นๆในตำบลในคลอง เกิดเป็นเครือข่ายระดับตำบล
· การบริหารจัดการ ใช้กรรมการชุดเดียวกับกองทุนหมู่บ้าน (เนื่องจากเปิดรับสมัครกรรมการกลุ่มสัจจะแล้วแต่ไม่มีคนมาสมัคร) ใช้ระเบียบข้อบังคับแบบของพระอาจารย์สุบิณและของครูชบผสมกัน
4. คุณประชา วัฒนมงคลรักษ์ รองประธานเครือข่ายกองทุนหมู่บ้าน ม.2 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ
เรื่อง การฟ้องร้องสมาชิกที่ไม่ส่งเงินกู้ต่อศาล
· กองทุนหมู่บ้านของคุณประชานับเป็นกองทุนแรกที่มีการฟ้องสมาชิกที่ไม่ส่งเงินกู้ โดยฟ้องร้อง 3 ราย คือผู้กู้ 1 คน และผู้ค้ำประกัน 2 คน
· ในตอนแรกกองทุนระดับชาติบอกว่าฟ้องไม่ได้เพราะถือว่า กลุ่มไม่ใช่เจ้าของทุน แต่ก็มีเจ้าหน้าที่สำนักนายกฯ มาตรวจสอบว่าไมจึงต้องฟ้องร้อง ซึ่งกลุ่มแสดงให้เห็นว่า ได้มีการออกหนังสือทวงถามเงินเป็นระยะ รวม 9 ครั้ง และกองทุนต้องการฟ้องเพื่อเป็นตัวอย่าง
· อย่างไรก็ดี ในที่สุด ศาลรับฟ้องและกองทุนเป็นฝ่ายชนะคดี โดยหลังศาลตัดสิน ได้มีการชำระคืนแล้ว 1 ราย อีก 1 รายชำระครึ่งหนึ่ง เพราะคณะกรรมการกองทุนได้ไปดูแล้วว่า ผู้ถูกฟ้องไม่มีเงินจ่ายคืนจริงๆ (ตรงนี้ ขอให้นักวิจัยตรวจสอบความถูกต้องของข้อความที่บันทึกนี้อีกครั้ง เพราะขาดข้อมูลของรายที่ 3 ไป)
· สำหรับคณะกรรมการกองทุน จะทำงาน 5 วันใน 1 เดือน
ผู้ดำเนินการประชุมถามถึงผลของการฟ้องร้องต่อความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิก แต่ผู้นำเสนอมิได้ตอบ
5.คุณวิทยา นวลลม กรรมการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้าน ม.2 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ
เรื่อง การจัดการความรู้ทำให้เกิดพลัง
· กลุ่มจัดโครงการสัจจะวันละบาทแบบจังหวัดตราด เพื่อจุดประกายให้คนรุ่นใหม่ได้มาเข้าร่วม
· ครั้งนั้น มีปัญหาเรื่องการคืนหนี้ แต่การพูดคุยกับบ่อยๆทำให้เกิดพลัง
· กลุ่มได้รวบรวมสมาชิก ในตอนต้นให้สมาชิกออมครั้งละ 100 บาท บวกนำเงินกองทุนสวัสดิการอีก 50 บาท รวมเก็บ 150 บาทเพื่อช่วยเหลือในกรณีที่คนต่างจังหวัดเข้ามาทำงานใน กทม.และเสียชีวิต ครอบครัวไม่มีเงินมาเยี่ยม ก็จะจัดเงินสวัสดิการให้
· 5 เดือนแรกเก็บเดือนละ 150 บาท ต่อมาเก็บเพียงเดือนละ 100 บาท
· แรกเริ่มมีสมาชิก 28 คน
6.คุณสายหยุด คงยะฤทธิ์ นายทะเบียนกองทุนหมู่บ้าน หมู่ 9 หมู่บ้านเคหะชุมชนสงขลา ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา
เรื่อง การพัฒนากองทุนของหมู่ 9
· หมู่ 8 เพิ่งแยกเป็นหมู่ 9 จึงได้มีการรวมกลุ่มกองทุนหมู่บ้านของหมู่ 9 แต่มีเงื่อนไขว่าสมาชิกต้องทำสัจจะ ได้พัฒนากลุ่มมา 5 เดือน ปัจจุบันมีสมาชิก 135 คน
· เมื่อครบ 5 เดือน ก็ปล่อยให้สมาชิกกู้ยืม และเมื่อครบ 1 ปี เมื่อมกราคม 2549 ก็ให้เงินปันผล มีสมาชิกเสียชีวิตแล้ว 1 คน ได้รับเงินช่วยเหลือ 1 พันบาท
· คุณสายหยุดเป็นข้าราชการ สนใจว่าจะพัฒนาสัจจะไปสู่สวัสดิการได้อย่างไร อยากทำสวัสดิการโรงเรียน อยากให้นักเรียนได้เข้าร่วม
· ชุมชนเมืองอาชีพไม่มั่นคง แต่คาดว่าต่อไปภายหน้า กองทุนจะช่วยได้
7.คุณวรรณี ศุภพันธุ์มณี เลขานุการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้าน หมู่ 3 บ้านท่าหว้า ต.กะหรอ เลขานุการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านระดับตำบล
เลขานุการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านระดับอำเภอ
กิ่ง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช
เรื่อง การบริหารงานของคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน
· คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านมีการแบ่งงานกันทำและรู้จักหน้าที่มีประธานเครือข่ายกองทุนระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด
· มีการทำงานทุกวันที่ 20 ของเดือน เพียงเดือนละ 1 วัน ดูแลทั้งกองทุนล้านบาท กองทุนสัจจะ กองทุนลดรายจ่ายวันละบาท โดยทั้ง 3 กลุ่มทำงานในวันเดียวกัน ทีมเดียวกัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ได้รับรางวัลในปี 2546 และ 2548
· ทั้งนี้เนื่องจากมีระบบแรงจูงใจและการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด คือ
o ให้เบี้ยเลี้ยง 100 บาทต่อวันต่อคน ให้ไปเลยไม่ว่าจะมาทำงานหรือไม่
o แต่หากขาดการทำงาน 3 เดือนติดต่อกัน ให้ออกจากกรรมการ
o หากมาทำงานสายก็จะหักเงิน
8.คุณสมศักดิ์ สาริกา
ประธานเครือข่ายกองทุนหมู่บ้าน บ้านท่าหว้า หมู่ 3
ประธานเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านระดับตำบลกะหรอ กิ่งอ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช
เรื่อง เครือข่ายระดับตำบล
· การจัดตั้งเครือข่ายเป็นเรื่องยาก 9 หมุ่บ้านรวมเป็น 1 เครือข่าย มีการสัญจร ปรึกษาแต่ละกองทุนแต่ละหมู่บ้าน เกี่ยวกับปัญหา และความร่วมมือระหว่างกัน
· แต่ละกองทุนมีปัญหาการชำระหนี้ การทวงหนี้โดยเครือข่ายจะได้ผลดีกว่าการทวงหนี้โดยกลุ่มในพื้นที่หมู่บ้านนั้นๆ
เนื่องจากเวลากระชั้นชิด สองกลุ่มสุดท้ายจึงมีเวลาพูดสั้นๆ อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า ทุกกลุ่มพยายามรักษาเวลาในการนำเสนอได้ดี มีการซักถามเพิ่มเติมบ้างในกลุ่มแรกๆ แต่ไม่มีเวลาซักถามในกลุ่มหลังๆ
เมื่อให้เลือกเรื่องที่จะขึ้นไปนำเสนอในเวทีใหญ่ มีหลายเสียงสนับสนุนให้คุณสามารถ จากจังหวัดลำปางเป็นผู้นำเสนอ เพราะสนใจฟังรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาเครือข่ายของจังหวัดลำปาง ทั้งนี้อาจเนื่องจากกลุ่มนี้ประกอบด้วยคนทำงานระดับเครือข่ายจึงอาจสนใจแนวคิดดังกล่าว อีกสาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะการเลือกที่ตัวบุคคลที่คิดว่ามีความสามารถในการนำเสนอมากกว่าคนอื่นๆ
ไม่มีความเห็น