• เราออกจากอพาร์ตเม้นต์ของ HBS เวลาตีสี่ครึ่งของวันอังคารที่ ๑๒ มิย. ๔๙ ฟ้าเริ่มสางแล้ว ลูกๆ บอกว่าออกตีห้าก็ทัน แต่เอาเข้าจริงเวลาที่ "หัวหน้าทัวร์" คือภรรยาผมกำหนดเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดแล้ว เราผ่านการตรวจความปลอดภัยระดับมาตรฐาน แล้วไปที่ประตูขึ้นเครื่องก็พบว่าผู้โดยสารกำลังเดินแถวขึ้นเครื่องอยู่แล้ว คือเราไปถึง 5.30 น. เครื่องบินมีกำหนดออกเวลา 6.00 น.
• เครื่องบินของ jetBlue Airlines เที่ยวบินที่ 1001 บินจาก Logan Airport, Boston ไปยัง JFK Airport, New York เป็นเครื่อง Airbus A320 ที่นั่งแถวละ 3+3 เหมือน Boeing 737 ของการบินไทย ตอนรอ check-in ลูกชายบอกว่าใช้บัตรเครดิต check-in ด้วยตนเองกับเครื่องเร็วกว่าใช้บริการของเจ้าหน้าที่ แต่เราเกรงว่าเครื่องมันจะคิดเงินเราอีกครั้งหนึ่ง โดยที่ลูกสาวได้จ่ายเงินค่าตั๋วแล้ว เราจึงยืนรอเข้าคิวไปเรื่อยๆ และสังเกตเห็นความไม่มีประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ check-in service ที่ตอบคำถามของผู้โดยสารไม่ได้ ต้องหันไปถามเพื่อน
• เครื่องบินขึ้น-ลงตรงเวลา ถึงสนามบิน JFK เราลากกระเป๋า (ที่หนักกว่าขามา เพราะผมซื้อหนังสือ และภรรยาซื้อผลไม้) ออกไปขึ้น Air Train โดยเดินตามป้ายบอกทาง ถ้าเรารู้ว่าต้องเปลี่ยนไป Terminal ไหน และรู้มาก่อนว่าต้องขึ้น Air Train จาก terminal หนึ่งไปอีก terminal หนึ่ง ก็เดินทางได้สบาย
• ไปถึงบริเวณ check-in ของการบินไทยเมื่อเวลา 8 น. เจ้าหน้าที่ information บอกว่าเริ่ม check-in เวลา 9 น. บริเวณนี้ไม่มีที่นั่งให้รอเลย เราต้องช่วยตัวเอง โดยบางคนไปอาศัยที่นั่งของ telephone booth ผมและหมออมราอาศัยท่อนเหล็กข้างผนัง แล้วผมเห็น booth ของสายการบินอาหรับแห่งหนึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่มา จึงเข้าไปนั่งเก้าอี้หมุนอย่างดีเขียนบันทึกนี้ สัก 10 - 15 นาทีก็มีคนมาถามด้วยภาษาอาหรับ และหมออมราตาดีบอกว่าเห็นที่เคาน์เตอร์การบินไทยเขาเริ่มงานกันแล้ว เราจึงไปรอและได้ check-in เป็นคนแรกๆ
• ผมต้องกลับไปถามเจ้าหน้าที่การบินไทยว่า lounge ของการบินไทยอยู่ที่ไหน ปรากฎว่าเป็นของ Swiss International ให้บริการสายการบินพันธมิตร Star Alliance เราไปนั่งในห้อง Non-smoking กินของว่างและเครื่องดื่ม และอ่านหนังสือ เขียนบล็อก สะดวกสบายมาก นี่คือประโยชน์ของการมีบัตรทองของการบินไทย ภรรยาชอบใจห้องน้ำที่เมื่อทำธุระแล้วลุกขึ้นสักครู่มันจะเปิดน้ำเอง ไม่ต้องกดปุ่มใดๆ ทั้งสิ้น ผมมีข้อสังเกตว่าในอเมริกาห้องน้ำในสถานที่ที่ไม่ใหญ่นัก ผู้ใช้บริการไม่มาก เป็นชนิดใช้ร่วมกันทั้งหญิงชายมากขึ้น
• ก่อนขึ้นเครื่องเขาเรียกชื่อหมออมรากับผมไปให้บัตรขึ้นเครื่องใหม่ เป็น up-grage ไปชั้น premium economy ซึ่งนั่งสบายขึ้น แต่เป็นที่นั่งไม่ติดหน้าต่าง อดถ่ายรูปวิวจากเครื่องบิน ตัวที่นั่งใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ภาชนะใส่อาหารเป็นกระเบื้องเคลือบและช้อนส้อมเป็น stainless steel ชั้นดีขึ้น หูฟังชนิดดีกว่า มีที่เกี่ยวกระชับกับใบหู หลังจากนั่งมาทั้งคืนผมสรุปว่าถ้ารู้อย่างนี้แล้วมีโอกาสเลือก ผมเลือกนั่งชั้นธรรมดาติดหน้าต่าง เพราะตอนเอนพนักเพื่อนอน ที่นั่งธรรมดานอนสบายกว่า ชั้นพรีเมี่ยมมี leg rest ซึ่งยกขึ้นมานิดเดียว ไม่มีดีกว่า
• เดี๋ยวนี้เครื่องบินแบ่งที่นั่งออกเป็นสี่ชั้น คือชั้นหนึ่ง ชั้นธุรกิจ ชั้นพรีเมี่ยม และชั้นอีโคโนมี่
• ผู้โดยสารเต็มลำ บริการข้อมูลดีมาก มี interactive tv ถึง 50 ช่อง แต่เครื่องของผมและภรรยาดูไประยะหนึ่งเกิดแฮงค์ต้องไปตามเจ้าหน้าที่ให้จัดการ reset ที่ control panel เขาบอกว่าต้องกดค่อยๆ และช้าๆ
• อาหารของเที่ยวกลับนี้ไม่อร่อย สู้อาหารของเที่ยวขาไปจากกรุงเทพไม่ได้เลย นี่แสดงว่าอาหารฝีมือคนไทยอร่อยกว่า เราสังเกตว่าไปเที่ยวที่ไหนจะเห็นภัตตาคารไทยเสมอ คำว่า Thai Food กลายเป็นเครื่องหมายบอกว่าอาหารรสดี เป็นอาหารสุขภาพ
• ผมนอนได้มากพอใช้ และอ่านหนังสือ Governance as Leadership อย่างติดใจ โชคดีที่ตัดสินใจซื้อมาแม้จะราคาแพงไปหน่อย จะใช้ประโยชน์ในการสร้างสรรค์สภามหาวิทยาลัย และ บอร์ดของมูลนิธิได้มาก น่าชื่นชมฝรั่งที่เขาทำทุกอย่างให้เป็นวิชาการได้เป็นอย่างดี
• เครื่องบินลงตรงเวลา ลูกสาวคนโตมารับที่สนามบิน
วิจารณ์ พานิช
๑๓ มิย. ๔๙
ขอบพระคุณท่านอาจารย์มากครับ อ่านสบาย อ่านอย่างละเอียด และ ช้าๆ เพราะแทบทุกวรรคมีค่า ได้รู้อะไรๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เพราะอ่านช้าเลยพบว่าท่านพิมพ์พลาดอยู่หนึ่งที่ครับ ... ให้บัตรขึ้นเครื่องใหม่ เป็น up-grage