เกี่ยวกับหลัก 4 Q มีกูรู ท่านหนึ่ง กล่าวไว้ว่า “การทำงานใด ๆ ก็ตาม ทุกคนย่อมมีความต้องการให้งานที่ได้รับมอบหมายประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้”
เพลินวานเห็นด้วยกับคำกล่าวนี้ เพราะมองว่า โดยหลักธรรมชาติแล้ว มนุษย์ทุกคนมีจิตใต้สำนึกในตัวตนเกี่ยวกับความรับผิดชอบแห่งตนอยู่ รักตัวเอง มีความต้องการแห่งความสำเร็จของชีวิต ตามที่ทฤษฏีแห่งความต้องการของมาสโรล์กล่าวไว้ ความสำเร็จ การได้รับความยกย่องชมเชย นี่คือพฤติกรรมมนุษย์ที่มี
แต่การทำงานให้ได้ดี ให้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างมืออาชีพ เพลินวานเห็นว่า ต้องนำเทคนิคหรือเครื่องมือเข้ามาช่วยในการบริหารงาน วิธีการหรือเทคนิคที่ดีจะทำให้สามารถจัดการและบริหารงานต่าง ๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีภายใต้ระยะเวลาที่จำกัด หลัก 4 Q เพลินวานถือว่าเป็นเทคนิคในการบริหารงานที่น่าสนใจ แล้วอะไรคือ 4 Q
Q 1 - Management Quotient (Mgnt.Q) ความฉลาดทางการจัดการงาน
Q 2 - Intellectual Quotient (IQ) ความฉลาดทางเชาวน์ปัญญา
Q 3 - Emotional Quotient (EQ) ความฉลาดทางเชาวน์อารมณ์
Q 4 - Health Quotient (HQ) ความฉลาดในด้านสุขภาพ
ความฉลาดทางการจัดการ (Management Quotient : Mgnt. Q)
ความฉลาดทางการจัดการ (Management Quotient : Mgnt. Q) คือ ความฉลาดในการบริหารและจัดการงานโดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในการจัดการงานให้สำเร็จภายใต้ระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ความฉลาดทางการจัดการนั้นไม่ใช่มีเฉพาะแต่ระดับหัวหน้างานหรือระดับผู้บริหารเท่านั้น พนักงานระดับปฏิบัติการก็ควรจะมีความฉลาดในการจัดการงานหรือบริหารงานของตนเองด้วย เพลินวานได้สรุปหลักปฏิบัติง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
ความฉลาดทางเชาวน์ปัญญา (Intellectual Quotient: IQ)
ความฉลาดทางเชาวน์ปัญญา (Intellectual Quotient: IQ) คือ ความสามารถทางสมอง ความคิดวิเคราะห์ และความสามารถในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความฉลาดทางเชาวน์ปัญญาไม่มีส่วนทำให้การทำงานประสบผลสำเร็จ มีผู้วิจัยพบว่า IQ มีส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานประสบความสำเร็จประมาณ 20% นอกนั้นจะเป็นความสามารถในด้านอื่น ๆ 80% ดังนั้น IQ จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญและมีผลต่อการทำงาน…IQ มีส่วนอย่างไรต่อการบริหารและจัดการงาน? ….มีส่วนสัมพันธ์กันอย่างแน่นอน เพราะผู้ที่มี IQ ย่อมจะรู้ในสิ่งที่ควรทำก่อนและหลัง มีการจัดระบบความคิด คิดหาวิธีการในการทำงานให้ง่ายและรวดเร็วขึ้น…แล้ว IQ พัฒนาได้ไหม?…คำตอบ ..พัฒนาได้ตามอายุ และประสบการณ์ในการทำงาน ควรฝึกคิดหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ฝึกคิดวิเคราะห์และพัฒนาระบบการทำงาน ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้สมองทำงานอยู่ตลอดเวลา…ตราบใดที่ไม่หยุดคิด สมองก็จะทำงาน…นั่นก็เป็นทางหนึ่งในการพัฒนาและฝึกฝน IQ ที่ดีที่สุด
ความฉลาดทางเชาวน์อารมณ์ (Emotional Quotient: EQ)
ความฉลาดทางเชาวน์อารมณ์ (Emotional Quotient: EQ) คือ ความสามารถทางการจัดการและการบริหารอารมณ์ของตัวเอง เมื่อเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการดำเนินงาน…ตามเทคนิคดังนี้
ความฉลาดในด้านสุขภาพ (Health Quotient: HQ)
ความฉลาดในด้านสุขภาพ (Health Quotient : HQ) ความสามารถทางการจัดการและการบริหารสุขภาพของตนเอง…หากทำงานหนักโดยไม่ใส่ใจต่อสุขภาพหรือการพักผ่อนใด ๆ ความเครียดถามหา สุขภาพกายอ่อนแอ สุขภาพจิตย่ำแย่ และในที่สุดผลการปฏิบัติงานก็จะไม่มีประสิทธิภาพ เราต้องดูแลและใส่ใจต่อสุขภาพสักนิด โดยการหาเวลาออกกำลังกายเสียบ้าง เล่นกีฬาสุดโปรด การออกกำลังกายจะช่วยทำให้สมองทุกส่วนมีระบบความจำจะดีขึ้น และที่สำคัญทำให้มีสมาธิในการทำงาน…
เพลินวาน เห็นว่า หากองค์กรหรือหน่วยงาน สร้างระบบและพัฒนาคน พนักงาน ให้มีการนำวิธีการหรือเทคนิคการบริหารด้วยหลัก 4 Q มาใช้ในการทำงาน ย่อมจะทำให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน
ท้ายนี้ ขอเสนอแนะว่า น่าจะเพิ่ม Q : Quotient ให้มากกว่า 4 ตัวนี้น่าจะดี และดีมากที่สุด
Q ตัวที่ 5 ....... Q : Quotient >>> ความฉลาดทางศีลธรรม จริยธรรม ????????
ใช่ค่ะ Maral Quotient น่าจะสำคัญที่สุดด้วยซ้ำ
ปัจจุบัน นักจิตวิตยาได้คิด Q ต่างๆ มี A-Z เลยทีเดียว เท่าที่ทราบก็มี
AQ (Adversity Quotient) ความฉลาดหรือความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรค(ความอึด/วิริยะอุตสาหะ) Aversity, Blancing(จัดสมดุล), Creativity(ริเริ่มสร้างสรร),Distinguishability (ช่างสังเกตแยกแยะ), Emotional(อารมณ์), Feeling (สัมผัสต่างๆ), Globalization(ทันต่อการเปลี่ยนแปลง รอบรู้), Health (การดูแลรักษาสุขภาพ), Intelligence (ฉลาด/เก่ง), Joking (อารมณ์ขัน),Knowledge (ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ), Leadership(สภาวะผู้นำ),Moral (คุณธรรมจริยธรรม), Neatness (ความปราณีตเรียบร้อย), Organization (การเชื่อมโยง), Perception (รู้ผิดชอบชั่วดี), Questioning (การตั้งคำถาม),Resilence (พลังจิต), Spiritual (จิตวิญญาณมีน้ำใจ), Team working(การทำงานเป็นทีม), Understanding(ความเข้าใจสรรพสิ่งต่างๆ), Velocity(ความเร็วในการทำงาน/กิจกรรม), Wisdom (ปัญญา/ความรู้ขั้นสูง), Youth(กระชุ่มกระชวยหนุ่มสาว) และ Zooming (จับประเด็น) ซึ่งเขาว่ากันว่าทุก Q พัฒนาได้ ยกเว้น IQ ซึ่งมีมาแต่กำเนิด และที่น่ากลัวคือ MQ ต้องปลูกฝังตั้งแต่ยังเล็กๆ จึงจะดี...
ขอบคุณนะ คุณ jan .....คิดว่า..ถ้าคนในองค์กรนำมาใช้ในชีวิตการทำงาน จะทำให้ผลการปฏิบัติงานดีขึ้นแน่นอน
ที่สำคัญว่า สงกะสัยจะนำมาใช้ไม่หมด? ขอบคุณนักจิตวิทยา >> นักศึกษาพฤติกรรมมนุษย์