มารู้จักกรุงโรมในประเทศอิตาลีกัน


อิตาลี

กรุงโรมในประเทศอิตาลี

หากพูดถึงอาหารของอิตาลี่ส่วนใหญ่จะนึกถึงสปาเกตตี กล่าวกันว่าสปาเกตตี คือ เส้นหมี่ที่มาร์โคโปโล นำมาจากประเทศจีน สปาเกตตี เป็นที่นิยมของชาวอิตาลีมาก จึงได้มีการคิดค้นทำเป็นอาหารกว่า 400 ชนิด อิตาลีเป็นประเทศที่ผลิตสปาเกตตีมากที่สุดในโลก เส้นเหนียว ต้มนานไม่เปลื่อย โดยใช่แป้งสาลีแข็ง ทำให้มีปริมาณไขมันสูง เป็นสินค้าส่งออกกว่าแสนตันต่อปี

กรุงโรม เป็นเมืองหลวงของอิตาลี หากต้องการเดินทางไปกรุงโรมสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินโดยสายการบินไทยบินตรงเข้ากรุงโรมได้

กรุงโรมมีพื้นที่ 200 กว่าตารางกิโลเมตร มีพลเมือง 2.9 ล้านคน เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี สัญลักษณ์ของกรุงโรม คือ หมาป่าตัวเมียกับเด็กชาย 2 คน เด็ก 2 คน เป็นพี่น้องกัน ได้แก่ โรมิวลุส กับ เรมุส เล่ากันว่า ราวปี 752 ปี ก่อนคริสต์ศักราช พ่อแม่ของคนคู่นี้ถูกคนร้ายฆ่าตาย และจับเด็กทั้ง 2 ใส่ตะกร้าโยนลงไปในแม่น้ำไทเบอร์ เมื่อตะกร้าลอยไปติดชายฝั่ง หมาป่าตัวหนึ่งมาพบเข้า จึงนำเด็ก 2 คนนี้ไปเลี้ยงจนโตด้วยน้ำนมของตน ต่อมานายพรานนำสองพี่น้องนี้ไปเลี้ยงดู และได้ฝึกวิชาการต่อสู้เพื่อแก้แค้นแทนพ่อแม่ หลังจากนั้นได้สร้างป้อมเมืองขึ้นบริเวณริมฝั่ง แม่น้ำไทเบอร์ ตั้งชื่อว่า “ป้อมโรมิวลุส” ซึ่งกลายเป็นชื่อ “โรม” ในปัจจุบัน

 

สัญลักษณ์ของกรุงโรม หมาป่าตัวเมียกับ 2 พี่น้อง โรมิวลุส กับ เรมุส

 

สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงโรม

โคลอสเซี่ยม

สนามโคลอสเซี่ยม เป็นสนามสู้สัตว์ ตั้งอยู่ท่ามกลางซากเมืองโบราณของกรุงโรมเก่าในพิธีฉลองเปิดสนามนั้นใช้เวลาถึง 100 วัน มีทาสและเชลยชาวยิว 30,000 คน ทำการต่อสู้กับสิงโต เสือ และสัตว์ที่ดุร้ายอีก 5,000 ตัว จนกระทั่งตายกันหมด

 

สนามโคลอสเซี่ยม

 

โบสถ์เซนต์ปีเตอร์

โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ เป็นศูนย์การนำของศาสนาโรมันคาทอลิก หลังคาเป็นรูปโดม สูง 138 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 210 เมตร ใช้เวลาในการสร้าง 120 ปี เฉลียงด้านหน้าเป็นรูปครึ่งวงกลม ใช้เสากลม 284 ต้น เสาเหลี่ยม 88 ต้น เสาแต่ละต้นสูง 19 เมตร ด้านบนมีรูปปั้นของเทพเจ้าต่างๆ ซึ่งมีความสูง 3.2 เมตร อยู่ 6 รูป

 

โบสถ์เซนต์ปีเตอร์

 

หอเอนเมืองปิซา

หอเอนเมืองปิซา เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1173 สร้างเสร็จเมื่อปี 1350 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่การก่อสร้างหยุดชะงักเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 เนื่องจากพื้นใต้ดินเป็นพื้นดินที่นิ่ม ทำให้ยุบตัว ต่อมาในปี ค.ศ.1272 โดย Giovanni di Simone สร้างให้เอนกลับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อให้สมดุล แต่การก่อสร้างในครั้งนี้ ก็ต้องหยุดชะงักลงอีกครั้งเนื่องจากเกิดสงคราม ต่อมาก็มีการสร้างหอต่อขึ้นอีกและสร้างเสร็จ 7 ชั้น ในปี ค.ศ.1319 แต่หอระฆังถูกสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1372 โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมด 177 ปี

หลังจากนั้น ในปี ค.ศ. 1990-2001 หอเอนปีซาได้รับการปรับปรุงฐานให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้หอล้มลงมา

 

หอเอนเมืองปิซา

 

หอเอนเมืองปิซา เป็นหอที่กาลิเลโอได้ทดลองเรื่องน้ำหนักของวัตถุ ที่ตกลงจากที่สูงลงมายังพื้นดินเป็นผลสำเร็จ

ผลิตภัณฑ์ในกรุงโรม 

กรุงโรมมีโรงงานที่ผลิตเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปีหนึ่งๆ ใช้ทองคำเป็นวัตถุดิบไม่ต่ำกว่า 200 ตัน เครื่องประดับต่างๆ ของกรุงโรมเป็นหัตถกรรมที่ยอดเยี่ม มีรูปแบบที่สวยงามและพิสดาร อย่างเช่น สร้อยคอ 1 เส้น สามารถแยกออกเป็นกำไลข้อมือได้ หรือทำเป็นเข็มกลัดเสื้อก็ได้ ผลิตภัณฑ์ส่วนมากส่งไปขายยังประเทศในตะวันออกกลาง

รองเท้าหนังของอิตาลีเป็นรองเท้าอันดับหนึ่งของโลก คุณสมบัติพิเศษคือน้ำหนักเบา สวมสบาย ลวดลายสวยและไม่มีกลิ่นเหม็น อิตาลีเคยมีรายได้จะการส่งออกไม่ต่ำกว่า 4 พันเหรียญสหรัฐอเมริกาต่อปี แต่ระยะหลังรองเท้าหนังราคาถูกจาก ฮ่องกง เกาหลี และใต้หวัน ได้รับความนิยมมากกว่า จึงทำให้โรงงานรองเท้าหนังบางร้านต้องปิดกิจการ

ร้านค้าในยุโรปมีวิธีจูงใจให้ลูกค้าซื้อสินค้าอีกแบบคือ ทางร้านได้พานักท่องเที่ยวทั้งหมดไปดูโรงงานผลิตสินค้าของตนเสียก่อน และแสดงวิธีทำด้วยแล้วก็จะพาไปดูตู้โชว์ ไปดูสินค้า คนขายก็จะออกมาประจำที่พร้อมที่จะขายสินค้าเหล่านั้น นับว่าเป็นวิธีการขายสินค้าได้ดีแบบหนึ่ง

 

ขอจบเรื่องอิตาลีแต่เพียงเท่านี้ก่อนครับ ว่างๆจะมาลงเรื่องประเทศออสเตรียให้อ่านกันครับ (พรุ่งนี้มีบอลโลกเน้ออออออ ^o^)

 

แถมท้ายด้วยภาพสถานที่สวยๆจากกรุงโรม

 

เมือง Pompeii ในอิตาลีที่เคยถูกภูเขาไฟ Vesuvius ระเบิดทำลาย

 

สถาปัตยกรรม น้ำพุ Trevi Fountain

 

 

________________________________________________________________

 

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเรื่องหอเอนเมืองปิซาจาก wikipedia

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%8B%E0%B8%B2

 

และเครดิสคุณ อำนาจ เจริญศิลป์

 

จองตั๋วเครื่องบิน


http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=naenglencomputer
http://ryusky.exteen.com
http://learners.in.th/blog/ryusky
http://ryuskyt.blog.mthai.com
http://ryusky.blogspot.com

หมายเลขบันทึก: 365504เขียนเมื่อ 10 มิถุนายน 2010 15:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 18:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท