ความหมายของค่าจ้าง
ค่าจ้างตามความหมายของพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 คือ เงินที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกัน จ่ายเป็นค่าตอบแทนในการทำงานตามสัญญาจ้าง สำหรับระยะเวลาการทำงานปกติเป็นรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน หรือระยะเวลาอื่น หรือจ่ายโดยคำนวณตามผลงานที่ลูกจ้างทำได้ในเวลาทำงานปกติของวันทำงาน และให้หมายความรวมถึงเงินที่นายจ้างให้แก่ลูกจ้างใน วันหยุดและวันลา ที่ลูกจ้างมิได้ทำงานแต่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 จะขอยกตัวอย่างเรื่องจริงที่มีการตัดสินโดยศาลสูงสุดคือศาลฎีกา ซึ่งได้ถือเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติว่าเงินที่นายจ้างจ่ายลักษณะใดบ้างที่เรียกว่าค่าจ้าง หรือไม่ใช่ค่าจ้าง ดังนี้
1. คำพิพากษาฎีกาตัดสินว่าเป็นค่าจ้าง คือ คำพิพากษาฎีกาที่ 675/2517 เบี้ยเลี้ยงที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างในการที่ลูกจ้างออกไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ทำงานของนายจ้าง อันเป็นการสงเคราะห์แก่ลูกจ้างที่ต้องมีภาระเพิ่มขึ้นในการทำงานนอกสถานที่นั้น ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของสินจ้างที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเช่นเดียวกับเงินเดือน จึงเป็นค่าจ้างซึ่งต้องนำไปรวมเพื่อคำนวณเงินทดแทนด้วย2. คำพิพากษาฎีกาที่ตัดสินว่าไม่เป็นค่าจ้าง คือ คำพิพากษาฎีกาที่ 213 – 218/2536 ค่านายหน้าหรือเปอร์เซ็นต์การขายจะถือเป็นค่าจ้างได้ต่อเมื่อเป็นการขายในวันและเวลาปกติของวันทำงาน หากลูกจ้างนั้นไม่มีวันเวลาปกติของการทำงานคือจะขายเมื่อใดวันใดก็ได้ เช่นนี้ไม่ถือว่าเป็นค่าจ้างเพราะมิได้ตอบแทนการทำงานในวันเวลาปกติของวันทำงาน
ไม่มีความเห็น