ท่านผู้อ่านหลายๆ ท่านคงจะสงสัยว่า ผิวพรรณต้องการดูแล เอาใจใส่จากภายในหรือไม่
วันนี้มีข่าวดีจากอาจารย์แพทย์หญิงธิดา คงจรรักษ์ แพทย์ผิวหนังประจำสถาบันสุขภาพผิวพรรณสมิติเวช เกี่ยวกับวิธีดูแลผิวพรรณ
อาจารย์ท่านแนะนำว่า วิธีกำจัดไขมัน และน้ำหนักส่วนเกินได้ดีที่สุดคือ ปรับพฤติกรรมได้แก่...
(1). 4 แก้วทุกเช้า:
ร่างกายคนเรามีแนวโน้มจะขาดน้ำมากที่สุดในช่วงเช้า ตื่นเช้าให้ดื่มน้ำ 4 แก้ว เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ อันเป็นเหตุให้ร่างกายทรุดโทรมเร็ว(2). เคี้ยวข้าวช้าๆ:
เวลากินข้าวให้เคี้ยวช้าๆ กระบวนการทำให้เกิดความรู้สึกอิ่มเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยเวลา ถ้าเคี้ยวเร็วจะทำให้รู้สึกอิ่มช้า และเสี่ยงต่อการกินมากเกิน
นอกจากนั้นการเคี้ยวข้าวช้าๆ ยังช่วยให้กระบวนการย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ได้รับคุณค่าทางอาหารเต็มที่(3). ไม่กินมากเกิน:
อาหารที่เป็นอันตรายต่อผิวพรรณมากได้แก่ น้ำตาล แป้ง และอาหารทอด
ถ้าลดอาหารเหล่านี้ได้จะช่วยป้องกันความเสื่อมของผิวพรรณได้มาก(4). ไม่นอนดึก:
อาจารย์ธิดาแนะนำให้นอนเร็วหน่อย ไม่เกิน 4 ทุ่ม ช่วงเวลาที่คนเรานอนจะมีการหลั่งฮอร์โมนโกรธ (growth hormone) ออกมา
ฮอร์โมนโกรธ(ไม่ใช่ความโกรธ)ช่วยซ่อมแซมร่างกาย ชะลอความแก่ ป้องกันสิว ปรับสมดุลร่างกาย และสร้างโปรตีนคอลลาเจนทำให้ข้อกระดูกแข็งแรงดี
ถ้านอนดึกเกิน 4 ทุ่มอาจทำให้การหลั่งฮอร์โมนโกรธลดลงแหล่งที่มา:
ผมก็มีปัญหาต้องแก้ข้อ 2 และข้อ 4 เหมือนกัน แต่จะพยายามแก้ไขครับ
ขอขอบคุณท่านอาจารย์ ดร.จันทวรรณ, อาจารย์ขจิต, ท่านอาจารย์ JJ, ท่านอาจารย์ ดร.ธวัชชัย, อาจารย์บอน...
(1). ประหยัด(ค่ารักษาพยาบาล + ค่าใช้จ่ายสุขภาพของประเทศ)
(2). ทำงานให้ส่วนรวมได้ดีขึ้น(คนแข็งแรงทำงานได้ดีกว่า + มีโอกาสหงุดหงิดน้อยกว่าคนอ่อนแอ)
การเรียนต่อโท-เอกอย่างอาจารย์บอนคงจะเหนื่อยมาก...
การช่วยยกคนไข้เสี่ยงต่อโรคปวดหลัง
ขอแสดงความยินดีที่อาจารย์ทุกท่านใส่ใจสุขภาพ ผมเชื่อมั่นว่า การที่ครูบาอาจารย์ใส่ใจสุขภาพจะเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับคนรอบข้าง ทำให้ประเทศชาติได้รับประโยชน์เต็มที่ต่อไป...
ขอขอบคุณอาจารย์จ๊ะจ๋า...
ขอขอบคุณครับ...
ขอขอบคุณอาจารย์มะปรางเปรี้ยว ท่านผู้ให้ข้อคิดเห็น และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
ชีวิตจริงเป็นอย่างนี้ครับ...
(1). ถ้าได้สิ่งที่ดีที่สุด... นั่นเป็นลาภอย่างมาก
(2). ถ้าไม่ได้สิ่งที่ดีที่สุดก็ขอให้ได้สิ่งที่ดีรองลงไป
ขอขอบคุณอาจารย์มะปรางเปรี้ยว ท่านผู้ให้ข้อคิดเห็น และท่านผุ้อ่านทุกท่าน...
ขอยกคุณแม่มาเป็นตัวอย่าง คุณแม่อายุ 81 ปีเศษแล้ว มีโรคภัยไข้เจ็บมากมาย ตั้งแต่ไตเสื่อม ความดันเลือดสูง อ้วน หอบหืด ข้ออักเสบเก๊าต์...
คุณแม่ผมนี่ก็เป็นตัวอย่างเหมือนกันว่า คนเราแม้จะป่วยไข้ ไม่สบาย... ก็เป็นคนไข้ที่ดี และเป็นที่พึ่งของคนชั้นหลังได้ เช่น ดวงตาอาจจะให้คนได้ 2 คนๆ ละ 1 ข้าง ฯลฯ
อาจารย์มะปรางเปรี้ยวใส่ใจสุขภาพตั้งแต่อายุน้อย... แถมยังบริจาคเลือด ขอให้อาจารย์มีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
อาจารย์วัลลภคะ
สี่วันที่หยุดได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดร่ำเปิง ได้ข้อปฏิบัติที่ดียิ่งที่เกี่ยวข้องกับบันทึกนี้ของอาจารย์ด้วยค่ะ เพราะว่าข้อปฏิบัติเรื่องการดื่มน้ำ การกิน การเคี้ยว การนอนของอาจารย์เป็นข้อปฏิบัติของนักบวชด้วยค่ะ เลยขออนุญาตบอกต่อค่ะว่า ระหว่างเคี้ยวไม่ควรคุย แต่ให้พิจารณาอาหารที่รับประทานไปด้วย การนอนก็มีสติกำหนดลมหายใจและการนอน ให้ดื่มน้ำมากๆ ปฏิบัติมาก กินน้อย(กินก็เท่าที่มีการจัดให้ไม่ได้เลือก) นอนน้อย แต่ก็พบว่าสุขภาพดีไปทุกระบบ ผิวพรรณดีขึ้นทั้งๆที่ไม่ต้องทาครีมทาแป้งอะไร(เพราะถือศิลแปดค่ะ)
เอาอานิสงค์ของบุญมาฝากอาจารย์และทุกๆท่านค่ะ
ขอขอบคุณอาจารย์อนงนาฏ ท่านผู้ให้ข้อคิดเห็น และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
ผมเองก็ทำตามคำแนะนำได้เพียงบางส่วน อย่างไรก็ตาม... ตั้งใจว่า ทำดีที่สุด ได้เท่าไรก็เท่านั้น
ขอขอบคุณอาจารย์จันทรรัตน์ ท่านผู้ให้ข้อคิดเห็น และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
ทางโลกนี่เดิมฝรั่งบอกว่า ยิ่งมากยิ่งดี (The more is good.)
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมให้มี "โภชเนมัตตัญญุตา" หรือให้รู้ประมาณในการบริโภคอย่างที่อาจารย์จันทรรัตน์แนะนำ... โลกนี้คงจะมีสุขภาพดีขึ้นมากครับ
ต่อครับ
ถ้าทำได้อย่างที่อาจารย์แนะนำ... สุขภาพคงจะดีขึ้นทั่วโลกครับ สาธุ สาธุ สาธุ