ประโยชน์ของใบเตย


                                     ประโยชน์ของใบเตย

 

 

 

 

  

 

 

 

 

 

 

 

ใบเตย : pandanus

                   เมื่อพูดถึงใบเตย  เชื่อว่าทุกคนคงรู้จัก  เพราะเตยเป็นพืชที่คนไทยคุ้นเคย  นำมาใช้ประโยชน์กันมากมายหลายวิธีตั้งแต่โบราณมาแล้ว  โดยเฉพาะการนำมาปรุงแต่งให้ขนมไทยมีกลิ่นหอม  อร่อย  สีสันน่ารับประทาน

                   เตยเป็นพรรณไม้จำพวกเดียวกับหญ้า  ขยายพันธุ์จากหัวหรือเหง้าใต้ดิน  แตกเป็นกอใหญ่  ใบสีเขียวเป็นมัน  ยาวประมาณ  8 – 10  นิ้ว  ขอบใบเรียว  ปลายใบเรียวแหลม        

คุณค่าทางอาหารและสรรพคุณ

          ในใบเตยมีน้ำมันหอมระเหย  เรียกว่า  Fragrant Screw Pine มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน  ซึ่งเป็นสาเหตุให้อาหารที่ใส่น้ำที่คั้นจากใบเตยมีรสหอมเย็นชื่นใจ  ในทางการแพทย์แผนไทยแนะนำให้ผู้ที่มีธาตุไฟธาตุเจ้าเรือนรับประทานอาหารที่ปรุงจากใบเตยเพราะเตยมีรสหอมเย็น

           นอกจากนำมาประกอบอาหารได้แล้ว  เตยยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย  เช่น  ใบ  มีรสเย็นสบาย  เป็นยาช่วยบำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่น  ต้นและรากใช้เป็นยาขับปัสสาวะ  มีตำรับยาที่ให้นำใบเตยหอมมาต้มกับเนื้อไม้สักหรือใบสักแล้วดื่มน้ำ  ช่วยแก้โรคเบาหวาน  โดยมีคำแนะนำในการใช้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดว่า  ให้นำใบเตยหอม  32  ใบ  ใบสัก  9  ใบ  นำมาหั่นตากแดด  แล้วนำมาชงน้ำร้อนแบบชา  หรือนำมาใส่หม้อดินต้มดื่มน้ำยาต่างน้ำทุกวัน  หรืออาจใช้รากเตยหอมประมาณ  1  ขีด  น้ำสะอาดประมาณ  1  ลิตร  โดยนำรากเตยหอมสับเป็นท่อนๆ  ใส่น้ำต้มหลังจากเดือดแล้วหรี่ไฟลง  เคี่ยวต่อไปประมาณ  15 – 20  นาที  ดื่มครั้งละครึ่งแก้ว  เช้า  กลางวัน  เย็น  ทั้งนี้ต้องรับประทานยาตามสูตรใดสูตรหนึ่งอย่างน้อย  1  เดือน  พร้อมกับมีการติดตามวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วย

             นอกจากสรรพคุณที่ระบุไว้ในตำรายาไทยแล้ว  ยังมีการนำเตยหอมมาศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาในห้องทดลองอีกด้วย  พบว่าสารสกัดน้ำของใบเตยหอมและรากเตยหอมมีฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้เป็นเบาหวาน  สารสกัดน้ำจากใบยังมีฤทธิ์ลดความดันโลหิตและลดอัตราการเต้นของหัวใจซึ่งน่าจะตรงกับฤทธิ์ในการบำรุงหัวใจตามสรรพคุณยาไทยของใบเตย

          นอกจากนั้นยังมีการนำใบเตยมาทำเป็นสูตรบำรุงผิวหน้า  โดยนำใบเตยมาล้างน้ำให้สะอาด  หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ  ปั่นรวมกับน้ำสะอาดจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน  จะได้เนื้อครีมข้นและเหนียว  นำมาพอกหน้า  (ก่อนพอกหน้าต้องทำความสะอาดหน้าให้สะอาดเสียก่อนนะคะ)  ให้พอกทิ้งไว้  15 – 20  นาที  จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด  ให้ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ  3 – 4  ครั้ง  ประมาณ  1  เดือน  จะเห็นความแตกต่างที่เกิดขึ้น ลองทำดูนะคะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

น้ำใบเตย

ใบเตยหั่น 2 ถ้วย

น้ำ 4 ถ้วย

น้ำตาลทราย 5-6 ช้อนโต๊ะ

น้ำแข้งชนิดก้อน

ปั่นใบเตยครึ่งหนึ่งกับน้ำเล็กน้อยจนละเอียด กรองเอากากออกจะได้น้ำใบเตยสีเขียว เทใส่ถ้วย พักไว้

ต้มน้ำในหม้อด้วยไฟกลางให้เดือด ใส่ใบเตยที่เหลือ ลงต้ม นาน5-10 นาที ใส่น้ำตาล พอน้ำตาลละลาย ปิดไฟ ยกลง กรองเอากากออก ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางอีกครั้ง ใส่น้ำใบเตยคั้น พอเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ ยกลง ปล่อยให้เย็น เมื่อจะดื่มใส่น้ำแข็งอีกครั้ง

 

น้ำใบเตยผสม

 

น้ำใบเตย 1 ถ้วย

เนื้อแคนตาลูปสีเขียว

หั่นชิ้นเล็ก 1 ถ้วย

น้ำเชื่อม 3 ช้อนโต๊ะ

น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

เกลือป่น ¼ ช้อนชา

ปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด รินใส่แก้ว ดื่ม

คำสำคัญ (Tags): #ชัยภูมิ7
หมายเลขบันทึก: 357375เขียนเมื่อ 10 พฤษภาคม 2010 12:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 10:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ขอบคุณครับคุณทิพย์สุดาแต่ภาพประกอบไม่ขึ้นครับ

เด็กกาญน่าตาดีอยากมีคนเอาใจ

ดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ใบเตยอร่อยมากๆเลยนะค่ะ

ว๊าววว !! ^ ^ คุณครูทำเว็บด้วย ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ^ ^

ถ้ากินน้ำใบเตยติดต่อเป็นเวลานานๆจะมีผลข้างเขียงรึเปล่าค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท