การทำงานอย่างมีความสุข


โครงการย่อยโดยการสนับสนุนจากโรงเรียนทันตแพทย์สร้างสุข ได้จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2553

การทำงานอย่างมีความสุข

โครงการสร้างสุขภาวะการทำงานในคลินิกทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งได้รับการสนับสนุนจากแผนงานโรงเรียนทันตแพทย์สร้างสุขมาตั้งแต่มิถุนายน 2552  ได้จัดเวทีเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แก่ผู้ช่วยทันตแพทย์ในโรงพยาบาลทันตกรรมคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 100 คน ณ อาคารทันตรักษ์วิจัย คณะทันตแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ภายใต้หัวข้อว่าทำอย่างไรจะมีความสุขในการทำงาน

วิทยากร 1)ทพ.นพดล  จันทร์ส่องแสง  2)คุณจันทร์สม  เพิ่มเพียร ผู้ช่วยทันตแพทย์อาวุโสดำเนินรายการโดย คุณวัลย์วดี ปานนอก 

โดยเวทีในวันนี้เป็นไปอย่างง่ายไม่เป็นทางการนัก ซึ่งวิทยากรได้เล่าประสบการณ์ตั้งแต่ตอนเป็นนักศึกษาทันตแพทย์จากคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในขณะฝึกงานในคลินิกได้รับความกรุณาจากพี่ๆผู้ช่วยทันตแพทย์เป็นอย่างยิ่งทำให้สามารถจบออกไปเป็นบัณฑิตทันตแพทย์ได้ ซึ่งท่านกรุณาเล่าแนวทางในการทำงานอย่างมีความสุขไว้อย่างน่าสนใจว่า ท่านมีความเชื่ออยู่สามอย่างคือ  

หนึ่ง ความสุขสามารถหาได้จากการทำงาน เพราะการทำงานในคลินิกทันตกรรมนั้นก็เหมือนโอกาสหนึ่งที่เราจะได้ทำบุญ จากการช่วยให้ผู้อื่นได้พ้นจากความทุกข์ ช่วยให้ผู้อื่นมีความสุขได้ ซึ่งเป็นโอกาสที่วิชาชีพอื่นเค้าอาจต้องแสวงหาโอกาสนในการทำบุญในขณะที่เราได้รับโอกาสนั้นอยู่ตลอดเวลาเมื่อมีผู้ป่วยมหาเรา และเราจะมองเห็นความสุขเมื่อเราได้เห็นผลงานของตนเอง ในการสร้างความสุขให้แก่ผู้อื่นในฐานะผู้ให้ ซึ่งจะเกิดความสุขเมื่อตนเองได้เป็นผู้รับ เมื่อได้รับคำขอบคุณ ความชื่นชม ก็เป็นความสุขได้ และการให้นิยามของความสุขให้แก่ตนเองอย่างชัดเจน ดังเช่นคุณหมอนภดล วิทยากรในวันนี้ซึ่งท่านทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลเลิดสิน ท่านเป็นหมอฟันที่เชี่ยวชาญทางด้านจัดฟันแต่ท่านไม่ทำคลินิกจัดฟันเพราะท่านเองมีความรู้สึกว่ากลัวว่าตนเองจะไม่มีความสุข ที่ท่านทำอยู่ทุกวันนี้ก็พอแล้ว หากไปทำคลินิกอีกเกรงจะไม่มีเวลาให้ครอบครัวแล้วจะไม่มีความสุข เพราะความสุขของท่านคือความพอเพียง และท่านมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่าเมื่อกายเป็นสุข ใจก็สุขด้วย หากเราสุขภาพดี คิดดี ทำดีเราก็จะมีความสุข

สองความเชื่อที่ว่า ทำอย่างไรได้อย่างนั้น ความเชื่อในกฎแห่งกรรม ว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว อยากให้ได้ผลดีจะต้องให้บริการที่ดี การเป็นมิตรกับผู้อื่น และโดยพื้นฐานของคนไทยเชื่อในความกตัญญูกตเวทีและการตอบแทนบุญคุณกันอยู่แล้วเมื่อมีโอกาส แม้แต่สิ่งเล็กๆน้อยๆเมื่อเราได้รับจากผู้รับบริการ จากญาติเขา อาจเป็นรอยยิ้ม คำขอบคุณ หรือสิ่งของเล็กๆน้อย แต่เราก็จะประทับใจไปนาน และความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ความเกรงกลัวต่อบาป การให้อภัยให้โอกาสแก่ผู้อื่นได้แก้ตัวได้ปรับตัวเมื่อทำผิดพลาด รวมถึงความเชื่อว่าการพบกันคือวาสนาเมื่อได้มีวาสนาต่อกันแล้วก็ควรจะปฏิบัติต่อกันอย่างดีที่สุดแล้วสิ่งดีๆก็จะกลับมาหาเราเอง ภายใต้ความเชื่อที่ว่าผู้ป่วยคือญาติ

สาม การทำงานร่วมกับผู้อื่นก็สามารถมีความสุขได้  โดยการนึกถึงใจเขาใจเราเวลาทำงาน การเคารพในความแตกต่าง การเปิดใจยอมรับและเรียนรู้ผู้อื่น การเข้าใจวิธีการจัดการความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ และการเข้าใจธรรมชาติของแต่ละวิชาชีพที่ต้องมาทำงานร่วมกันว่าถ้าเป็นทันตแพทย์เขาก็จะเป็นแบบนี้ เป็นอาจารย์ทันตแพทย์จะเป็นแบบนี้ เป็นนักศึกษาทันตแพทย์แบบนี้ เป็นต้น และเมื่อเข้าใจ เปิดใจ ยอมรับได้ เราก็จะมีความสุขได้เอง

ซึ่งสามความเชื่อที่กล่าวมานี้ คือการสร้างสุขให้แก่ตนเองในการทำงานทันตกรรม ซึ่งหากเรามีความสุขในการทำงานแล้วก็จะสามารถสร้างผลงานสร้างบรรยากาศ สิ่งแวดล้อมในการทำงานได้ดี คนรอบข้างก็จะมีความสุขตามไปด้วย

หมายเลขบันทึก: 356613เขียนเมื่อ 7 พฤษภาคม 2010 11:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน 2012 20:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สร้างความสุขในบ้านที่สร้างรายได้ให้เรา ถือว่าได้กุศลครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท