ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
การรับประทานอาหารและพฤติกรรมของคนในปัจจุบันส่งผลให้คนเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มจำนวนสูงขึ้นมาก องค์การอนามัยโลกทำนายว่า สหัสวรรษใหม่ประชากรโลกจะเสียชีวิตด้วยโรคดังกล่าวถึง 20 ล้านคนนอกจากวิถีชีวิตประจำวันที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคแล้ว สาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งคือ การขาดการออกกำลังกาย มีการศึกษาพบว่าคนที่เคลื่อนไหวร่างกายน้อยมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้มากกว่ากลุ่มคนที่มีกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายถึง 1.9 เท่า ในทางตรงกันข้าม การเคลื่อนไหวออกกำลังกายในระดับปานกลางสัปดาห์ละ 3 - 5 ครั้งจะส่งผลดีต่อ
ระบบและส่วนต่าง ๆ ของร่างกายในหลายลักษณะ ดังนี้ - ช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพของหัวใจและปอด ทำให้ปอดและหัวใจแข็งแรงขึ้น - ลดความเสี่ยงต่อการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตาย - ป้องกันการเกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลัน - ช่วยพัฒนาการสูบฉีดเลือดและขยายหลอดเลือดให้ใหญ่ขึ้น - ลดการสะสมของตะกรันไขมันในหลอดเลือด - ลดความดันโลหิตสูง- ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายดีขึ้น
ห่างไกลโรคเบาหวานคนที่มีกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายมีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปสู่การเป็นโรคเบาหวานน้อยกว่าคนที่มีกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายน้อย เนื่องจากการออกกำลังกายจะส่งผลช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานและลดระดับไขมันในเส้นเลือด นอกจากนี้ยังพบว่า สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานในระยะเริ่มต้น การออกกำลังกายควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารจะช่วยรักษาโรคได้ด้วย โดยที่กิจกรรมการเดินหลังการรับประทานอาหาร 30 นาที ก็สามารถช่วยควบคุมระดับกลูโคสในเลือดได้แล้ว
ผลที่ได้รับจากการออกกำลังกาย - ทำให้การทำงานของอินซูลินมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น - ลดระดับกลูโคสในเลือด - ลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจในคนที่เป็นโรคเบาหวาน - ช่วยควบคุมน้ำหนัก กระดูกแข็งแรง ลดโรคไขข้ออักเสบ การออกกำลังกายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มแร่ธาตุและมวลกระดูก รักษาการจัดเรียงของไขข้อ และสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อต่อ รวมทั้งเพิ่มความยืดหยุ่น-ทนทานของกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง ดังนั้นประโยชน์จากการออกกำลังกายต่อกระดูกและไขข้อก็คือ - ป้องกันหรือชะลอการเกิดภาวะกระดูกบาง กระดูกพรุน - ลดการเกิดอาการปวดหลัง - ลดอาการบาดเจ็บจากกล้ามเนื้อตึงตัว
- ช่วยรักษากระดูก กล้ามเนื้อ และข้อต่อ
http://www.thaihealth.or.th/news.php?id=1024
ไม่มีความเห็น