เมื่อวันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2549 ทีมงาน KM มรย. ได้จัดกิจกรรม COP ครั้งที่ 1 เพื่อให้ทุกท่านร่วมกันแสดงความคิดเห็นในเรื่อง การสะท้อนปัญหาในกระบวนการสรรหา บรรจุ แต่งตั้งภายใน มรย. โดยทางทีมงานได้เชิญตัวแทนบุคลากรที่ผ่านกระบวนการสรรหา บรรจุ แต่งตั้ง ภายใน มรย. ใน 3 กลุ่มเป้าหมาย คือ 1. กลุ่มอาจารย์อัตราจ้าง (อาจารย์ตามสัญญาจ้าง) 2. กลุ่มพนักงานราชการ 3. กลุ่มลูกจ้างชั่วคราว เพื่อทราบถึงปัญหาและกระบวนการต่าง ๆ การสรรหา บรรจุ แต่งตั้งที่ผ่านมาภายใน มรย. ในการจัดทำ COP ดังกล่าว สามารถสรุปปัญหาและแนวทางแก้ไข ได้ดังนี้
การสะท้อนปัญหากฎระเบียบ การสรรหา บรรจุ แต่งตั้ง ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลากลุ่มพนักงานราชการลำดับที่ |
ปัญหา | แนวทางแก้ไข |
1. | ขั้นตอนการประกาศ- คุณวุฒิของผู้รับสมัครไม่ชัดเจน | - ในการประกาศรับสมัครคัดเลือก ควรกำหนดคุณสมบัติตำแหน่งให้ชัดเจน โดยเฉพาะคุณวุฒิของตำแหน่งที่ต้องการสมัคร เพราะทำให้ผู้สมัครไม่มั่นใจในตัวเองว่าตัวผู้สมัครมีคุณวุฒิตรงตามตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร หรือไม่ |
2. | ขั้นตอนการรับสมัคร- ใช้เวลาในการรับสมัครนาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่รับสมัครน้อยเกินไป | - อยากให้การรับสมัคร มีการแบ่งโซน แบ่งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจน และควรเพิ่มจำนวนของเจ้าหน้าที่รับสมัครให้มากขึ้น เพื่อช่วยประหยัดเวลาในการรับสมัคร |
3. | ข้อสอบ- ข้อสอบไม่ได้มาตรฐาน | - ข้อสอบต้องมีมาตรฐานทั่วไปของ ก.พ. ซึ่งข้อสอบมีลักษณะการแบ่งเป็นภาค เช่น ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป ความรู้ความเหมาะสมเฉพาะตำแหน่ง การสอบสัมภาษณ์ ควรจัดทำเป็นระเบียบออกมาให้ได้มาตรฐาน ใช้เป็นบรรทัดฐานเดียวกันในการสอบแข่งขันแต่ละครั้ง |
- เวลาที่ใช้ในการทำข้อสอบไม่สัมพันธ์กับจำนวนข้อสอบ (160 ข้อ : 2 ชั่วโมง) อีกทั้งเป็นข้อสอบแบบฝน และระยะเวลาในการทำข้อสอบควรสอดคล้องกับประกาศรับสมัคร | - หากข้อสอบมี 160 ข้อ และมีมาตรฐานค่อนข้างสูง ควรเพิ่มเวลาในการทำข้อสอบเป็น 2 ชั่วโมงครึ่ง ทั้งนี้ เพราะผู้สอบยังมาเสียเวลาในการฝนข้อสอบซึ่งค่อนข้างใช้เวลา | |
4. | ขั้นตอนการบรรจุ- ไม่มีการปฐมนิเทศพนักงานใหม่ | - เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการบรรจุเป็นผู้ที่ไม่เคยทำงาน ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา จึงไม่ทราบแนวทางปฏิบัติในหลาย ๆ เรื่อง ดังนั้น จึงควรมีการจัดรายงานตัว ปฐมนิเทศเพื่อชี้แจงแนวทางการปฏิบัติงาน เช่น การลงเวลาปฏิบัติงาน สิทธิและผลประโยชน์ต่าง ๆ เป็นต้น |
ลำดับที่ |
แนวทางการพัฒนา |
1. | สนับสนุนให้บุคลากรเข้าร่วมการอบรม สัมมนา เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ทั้งภายในและภายนอกองค์กร ส่งผลให้บุคลากรนำความรู้มาใช้ในการปฏิบัติงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น |
2. | มีการพบปะระหว่างผู้ร่วมงานในสายงานเดียวกัน (ใน และต่างสถาบัน) เพื่อแลกเปลี่ยนปัญหา เสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน |
3. | มหาวิทยาลัยควรมีการสร้างความมั่นคง และความเชื่อมั่นให้แก่บุคลากร เพื่อให้บุคลากรมีความรักในหน่วยงาน มีขวัญ และกำลังใจในการปฏิบัติงาน ส่งผลให้บุคลากรมีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด |
4. | จัดให้มีกองทุนเกี่ยวกับสวัสดิการพนักงานราชการ บุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เพื่อนำทุนมาใช้ในการพัฒนาตนเอง |
5. | มอบหมายงานให้ตรงกับความถนัด และเหมาะสมกับบุคคล (Put the right man on the right job) เพื่อสามารถปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด |
ลำดับที่ |
ปัญหา | แนวทางแก้ไข |
1. | ปัญหาการสอบบรรจุเข้า- เรื่องของคะแนนสอบ การสอบเน้นภาค ก มากเกินไป | ควรเน้นคะแนนในเนื้อหาวิชาที่ต้องการอาจารย์บรรจุสอนจริง ๆ โดยมีการประสานงานระหว่างผู้บริหาร และกองการเจ้าหน้าที่ |
- การไม่ให้สิทธิอาจารย์อัตราจ้างเดิม | 1. ควรมีการสรรหา บรรจุบุคลากรภายในก่อนประกาศรับสมัคร2. ควรมีการบรรจุอาจารย์อัตราจ้างที่ทำงานภายในสถาบันแล้ว 3 ปี ขึ้นไป | |
2. | ปัญหาการกำหนดอัตรากำลัง การบรรจุ ไม่ตรงตามความต้องการของสาขาวิชา |
1. ฝ่ายแผนฯ จัดอัตรากำลังตามความต้องการของคณะต่าง ๆ ที่เสนอมา 2. ฝ่ายแผนฯ ประชุมร่วมกับผู้ประสานสาขา คณบดี กรรมการมหาวิทยาลัย และผู้บริหารของทุกฝ่าย โดยประชุมใน คราวเดียวกันเพื่อรับทราบข้อมูลที่แท้จริงและถูกต้องตรงกัน |
3. | การต่อสัญญาจ้างของอาจารย์อัตราจ้าง |
1. ควรต่อสัญญาให้นานกว่าเดิมจาก 1 ปี เป็น 3 ปี 2. ควรแจ้งให้อาจารย์อัตราจ้างทราบการยกเลิก การต่อสัญญาอย่างน้อย 1 เดือน 3. ไม่จำเป็นต้องยื่นเอกสารประกอบการต่อสัญญาจ้างทุกครั้ง ยกเว้นหากมีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติม ข้อมูล เช่น เอกสารวุฒิการการศึกษา |
4. | ความก้าวหน้าและสวัสดิการ |
1. ควรได้รับค่าเสี่ยงภัยและค่ายังชีพ 2. ควรใช้ระเบียบเดียวกันในการเบิกจ่ายค่าเดินทางไปราชการ และพัฒนาอนุมัติเป็นกรณีพิเศษหากได้รับคำสั่งไป ราชการโดยเร่งด่วน 3. ให้โอกาสในการลาศึกษาต่อได้ |
5. | ปัญหาความไม่เท่าเทียมกัน |
1. ใช้ระเบียบแนวทางปฏิบัติในการลาป่วย ลากิจ และการลงชื่อปฏิบัติราชการ เช่นเดียวกับอาจารย์ประจำ 2. ควรมีบัตรประจำตัว อาจารย์อัตราจ้าง และควรทำเสร็จภายใน 30 วัน หลังการอนุมัติต่อสัญญา 3. การจัดสรรงบพัฒนาอาจารย์อัตราจ้าง ควรมีความเท่าเทียมกัน4. ควรกำหนดงานทางด้านการสอนให้อาจารย์อัตราจ้าง เช่นเดียวกับอาจารย์ประจำ 5. การนับชั่วโมงเกินภาระงานสอน ควรนับทันทีที่เกิน ไม่ควรนับเฉพาะชั่วโมงนอกเวลาราชการเท่านั้น ควรนับเป็น หน่วยเดียวกันกับอาจารย์ประจำ 6. ควรพิจารณาการมอบหมายงานกิจกรรมให้เหมาะสมกับภาวะงานสอนของอาจารย์อัตราจ้าง 7. สร้างกิจกรรมส่งเสริมการทำงานร่วมกันของอาจารย์ประจำและอาจารย์อัตราจ้าง เพื่อให้เกิดการยอมรับและเห็นคุณค่า ซึ่งกันและกัน 8. เปิดโอกาสให้อาจารย์อัตราจ้างแสดงความสามารถ เพื่อสนับสนุนวิชาการและให้โอกาสพิจารณารับตำแหน่งทางด้าน บริหาร โดยนับเป็นภาระงานสอนด้วย |
6. | ปัญหาระบบข้อมูลข่าวสาร |
1. ให้ฝ่ายวางแผนฯ รวบรวมปฏิทินกิจกรรมของทุกหน่วยงานและแจ้งบุคลากรทุกฝ่ายให้ทราบล่วงหน้า เพื่อได้วางแผนการสอน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ทุกหน่วยงาน ควรมีการพัฒนาและปรับปรุงฐานข้อมูลที่ต้องรับผิดชอบ ดูแลทั้งโดยตรงและทางอ้อม |
7. | ปัญหาระบบการทำงานที่ไม่มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน (Work Flow และ Data Flow) |
1. ควรมีการปฐมนิเทศบุคลากรที่บรรจุงานใหม่ ทั้งเรื่องความรู้ทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับองค์กรและความรู้เกี่ยวข้องกับงาน และความรู้ด้าน e-office 2. ควรจัดตั้งหน่วยงานพิเศษ เพื่อพัฒนามหาวิทยาลัย โดยเฉพาะมาดูแลรับผิดชอบ การพัฒนาทั้งบุคลากร และระบบงาน โดยภาพรวมทั้งองค์กร |
ลำดับที่ |
ปัญหา | แนวทางแก้ไข |
1. | บุคลากรไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงานตามปริมาณงานที่มีอยู่ | - ให้มหาวิทยาลัยพิจารณาในการเพิ่มอัตรากำลังบุคลากรที่มีไม่เพียงพอในหน่วยงานที่ขาดแคลนบุคลากร เพื่อให้ |
การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเพื่อเหมาะสมกับปริมาณงานที่มีอยู่ | ||
2. | การบรรจุลูกจ้างชั่วคราว เมื่อประเมินผ่านแล้วยังไม่ได้รับการบรรจุ ตามคำสั่งที่ประกาศไว้ | - ควรมีการบรรจุลูกจ้างชั่วคราว โดยพิจารณาจากผลการประเมินผลการปฏิบัติงานเป็นหลัก และควรบรรจุแต่งตั้งบุคลากรที่มีอยู่ในปัจจุบันก่อน |
3. | การไม่เรียกใช้บัญชีสำรอง | - มหาวิทยาลัยควรใช้บัญชีสำรองในการเรียกบุคลากรเข้ามาทำงาน เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการรับสมัคร |
4. | ความไม่ชัดเจนในรายละเอียดของการประกาศสอบ | - ในการประกาศรับสมัครคัดเลือก ควรกำหนดคุณสมบัติตำแหน่งให้ชัดเจน โดยเฉพาะคุณวุฒิของตำแหน่งที่ต้องการสมัคร เพราะทำให้ผู้สมัครไม่มั่นใจในตัวเองว่าตัวผู้สมัครมีคุณวุฒิตรงตามตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร หรือไม่ |
5. | จำนวนข้อสอบไม่เหมาะสมกับเวลา | - หากข้อสอบมีมากกว่า 100 ข้อ และมีมาตรฐานค่อนข้างสูง ควรเพิ่มเวลาในการทำข้อสอบเป็น 2 ชั่วโมงครึ่ง ทั้งนี้ เพราะผู้สอบยังมาเสียเวลาในการฝนข้อสอบ ซึ่งค่อนข้างใช้เวลา |
6. | ข้อสอบมีเกณฑ์มาตรฐานสูงเกินไป |
ลำดับที่ |
แนวทางการพัฒนา |
1. | สร้างความมั่นคงในการทำงานแก่ผู้ปฏิบัติงาน |
2. | ควรเสริมสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน |
3. | ควรเพิ่มจำนวนบุคลากรให้เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน |
4. | ควรจัดสรรบุคลากรให้เหมาะสมกับงาน |
5. | ควรมีการกำหนดขอบเขตที่ชัดเจนในแต่ละตำแหน่งงาน |
6. | ควรมีอุปกรณ์ที่เพียงพอ ทันสมัย และมีประสิทธิภาพต่อการปฏิบัติงาน |
ไม่มีความเห็น